พรรคพลังประชารัฐ พร้อมลุยอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เล็งชำแหละ พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ - MOU 44 “อุตตม” จี้ ครม. ทบทวนร่าง พ.ร.บ.ศูนย์กลางการเงิน ชี้ ต้องรับฟังรอบด้าน
วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 นายอุตตม สาวนายน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการนโยบายพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการวิชาการ ร่วมกันแถลงคัดค้านร่างพระราชบัญญัติศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน
นายอุตตม กล่าวว่า กระบวนการรับฟังความคิดเห็นต่อร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ได้ดำเนินการอย่างครบถ้วน รอบคอบ และเพียงพอแล้วหรือไม่ โดยเฉพาะการหารือกับหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และหน่วยงานอื่นๆ ซึ่งถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง แม้ ธปท. เพิ่งมีหนังสือถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) แสดงข้อสังเกตต่อร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ แต่ก็ยังเป็นประเด็นที่ต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน เนื่องจากกฎหมายนี้เกี่ยวข้องกับระบบการเงินที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของเศรษฐกิจ อาทิ การให้คณะกรรมการฯ ตามกฎหมายนี้มีอำนาจกำหนดประเภทธุรกิจ และเกี่ยวเนื่องไปถึงการให้ใบอนุญาต การกำกับดูแลในรูปแบบที่ค่อนข้างเหมารวม
ในทางปฏิบัติจะต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ทับซ้อนกับอำนาจหน้าที่และกระบวนการของหน่วยงานกำกับใช้อยู่แล้วในปัจจุบัน รวมถึงต้องระมัดระวังไม่ให้เปิดช่องให้เกิดการแทรกแซงทางการเมือง ตนสนับสนุนให้มีกลไกรองรับการประชุมหารือร่วมกันเป็นประจำระหว่างกระทรวงการคลังและหน่วยงานกำกับด้านการเงินต่างๆ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล แนวคิด และการวิเคราะห์ ทั้งในภาวะปกติ และเมื่อมีสัญญาณของการเกิดวิกฤติเพื่อให้สามารถสร้างความพร้อมในการรับมือวิกฤติได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มที่ รวมถึงการระดมความคิดในการพัฒนาระบบการเงิน ตลาดทุนและที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องและเหมาะสมกับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศโดยรวมกลไกหารือเช่นนี้สามารถจัดตั้งได้ทันทีโดยอาศัยคำสั่งนายกรัฐมนตรีด้วยความเห็นชอบของ ครม. ซึ่งจะไม่เกิดปัญหาและความซ้ำซ้อนในการดำเนินการของหน่วยงานที่ดูแลอยู่แล้ว
...

ทั้งนี้ กฎหมายเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถทำให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางการเงินได้ เพราะนักลงทุนจะเลือกประเทศที่พร้อมที่สุด เช่น สิงคโปร์ประสบความสำเร็จด้วย
1. นโยบายภาครัฐที่เอื้อต่อธุรกิจ อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลที่เหมาะสม พร้อมสิทธิประโยชน์ดึงดูดฟินเทคและกองทุนบริหารสินทรัพย์ กฎระเบียบโปร่งใสภายใต้การกำกับของธนาคารกลางสิงคโปร์
2. โครงสร้างพื้นฐานทางการเงินแข็งแกร่ง เช่น ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ และศูนย์กลางแลกเปลี่ยนเงินตรา ระบบดิจิทัลที่รองรับธุรกรรมทางการเงิน และเครือข่ายธนาคารระดับโลก
3. แรงงานคุณภาพสูงจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ และโครงการพัฒนาทักษะด้านการเงินและฟินเทค
นายอุตตม กล่าวอีกว่า หากไทยต้องการก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการเงินของโลก ต้องสร้างความพร้อมในทุกมิติ ไม่ใช่แค่ออกกฎหมาย แต่รวมถึงเสถียรภาพทางการเมืองที่เป็นรากฐานของความเชื่อมั่น หลักนิติธรรมและธรรมาภิบาลที่โปร่งใสและเป็นมาตรฐานสากล และสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุน ทั้งด้านกฎระเบียบ เทคโนโลยี และบุคลากร หากไม่เร่งปฏิรูปไทยอาจไม่ใช่ตัวเลือกของนักลงทุนในเวทีการเงินโลก

ทางด้าน นายธีระชัย ระบุว่า ร่างกฎหมายนี้มีเป้าหมายแฝงเพื่อปลดล็อก 2 ปัญหาเรื่องเงินดิจิทัลใช่หรือไม่ ปัญหาที่หนึ่ง ปัจจุบันการพิจารณาอนุญาตตามกฎหมายเงินตราต้องผ่าน ธปท.ซึ่งอาจจะไม่เห็นด้วย ร่างมาตรา 10 ปลดอำนาจ ธปท.ไปให้คณะกรรมการพิจารณาแทน ปัญหาที่สอง ปัจจุบันการพิจารณาอนุญาตเชื่อมเงินดิจิทัลกับระบบบาทเนต (Bahtnet) ซึ่ง ธปท. อาจจะไม่เห็นด้วย ร่างมาตรา 36 ได้ปลดอำนาจในกฎหมายว่าด้วยระบบการชำระเงินทิ้งไปเลย ตนเรียกร้องให้ ครม. ทบทวน เพราะการตรากฎหมายที่ไม่สามารถบรรลุเป้าประสงค์ได้จริง แต่กลับมีผลแฝงเป็นการรวบอำนาจนโยบายการเงินไปจาก ธปท. จะสร้างความหายนะให้แก่ประเทศ และจะกระทบความน่าเชื่อถือในระดับสากล
นอกจากนี้ นายธีระชัย ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ว่า ทางพรรคได้มีการประสานงานกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน และได้มีการกำหนดวันที่จะมีการยื่นญัตติ รวมถึงมีการกำหนดแนวทาง หัวข้อที่จะมีการกำหนดนำไปอภิปราย โดยขณะนี้พรรคพลังประชารัฐอาจจะขอไม่เปิดเผยประเด็นอย่างเต็มที่ แต่หากช่วงที่ผ่านมาได้ติดตามการแถลงของพรรคหลายๆ เรื่องที่เรามีความเห็นคัดค้านและโต้แย้ง ก็คงเป็นประเด็นที่พรรคจะนำไปพิจารณาในการอภิปราย
“พรรคพลังประชารัฐมีความพร้อมและกำลังเดินหน้ารวบรวมข้อมูลเพื่อนำเสนอต่อประชาชนอย่างเต็มที่ ที่ผ่านมาทางพรรคได้มีการคัดค้านในเรื่องของร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งเรื่องนี้ก็น่าจะมีประเด็นที่นำมาพิจารณาในการนำเสนอกับประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบในแง่ของจุดด้อยและปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นเกี่ยวกับเรื่องนี้ รวมไปถึง MOU44 ระหว่างไทย-กัมพูชา ที่เราคัดค้านและต่อสู้มาอย่างเข้มแข็ง ก็อาจจะเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่พรรคจะนำไปเสนอให้กับประชาชนได้รับรู้”
