“อนุทิน” เผย “ธนดล” ขอโทษแล้วอย่างนอบน้อมที่ล่วงเกิน ลั่น ถ้าไม่ผิด คนกล่าวหาต้องรับความเสี่ยงถูกฟ้อง ปัดเคลียร์ใจ “ธรรมนัส-กล้าธรรม” ย้ำปมโยงที่ดินทับที่ ส.ป.ก. ให้เป็นเรื่องของกฎหมาย ยืนยันซื้อขายสุจริต
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ที่หอประชุมเทศบาลนครหาดใหญ่ ถึงกรณีที่ดินสนามกอล์ฟเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา จนเกิดวิวาทะหน้าตัวเมีย และวันนี้นักจัดรายการชื่อดังออกมาน้อมรับ โดยตอบสั้นๆ ว่า “อืม” พร้อมกล่าวต่อไปว่า เป็นเรื่องที่เข้าสู่กระบวนการแล้ว เป็นเรื่องของหน่วยงานรัฐ ทุกฝ่ายบอกมาแล้วว่าประชาชนที่ได้ที่ดินมาในพื้นที่บริเวณนั้น ทุกคนถือโฉนดที่ดินทั้งนั้น ได้มาด้วยความสุจริต ส่วนที่มาของโฉนดจะเป็นอย่างไร เป็นเรื่องของหน่วยงานราชการต้องไปพิสูจน์ทราบ ทั้งกรมที่ดิน ส.ป.ก. และนิคมในส่วนของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เข้ามาด้วย ดังนั้น ถ้าอยู่ในกระบวนการของระบบราชการแล้วตนก็ไม่สามารถที่จะให้ความเห็นอะไรได้ ต้องปล่อยให้หน่วยงานราชการต้องทำงานพิสูจน์ทราบต่อไป และเมื่อออกมาอย่างไรไม่มีใครขัดต่อกฎหมายได้
ขณะที่กรณีรายการข่าวดังกล่าวออกมาพาดหัวถึงการฟอกขาวมรดกบาป น.ค.3 ให้เป็นโฉนดให้กับนายทุน นายอนุทิน มองว่า เขาอาจเรียนประวัติศาสตร์ เพราะส่วนใหญ่ที่ตนทราบจากอธิบดีกรมที่ดิน เรื่องการเปลี่ยนที่ดินจากนิคมต่างๆ หรือที่ ส.ป.ก. เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น 50-60 ปีมาแล้ว คนที่ถือครองปัจจุบันนี้ก็ซื้อผ่านการโอนโฉนด มีพระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์ตามหน้าโฉนดทุกอย่าง เพราะฉะนั้นการซื้อขายเหล่านั้นเป็นการซื้อขายโดยสุจริต กรมที่ดินรับโอนรับค่าธรรมเนียม ผู้ขายยินดีขาย ผู้ซื้อยินดีซื้อ ทุกอย่างจบในเรื่องของการซื้อขายเปลี่ยนมือ ถือเป็นเรื่องสุจริต แต่ต้องไปดูว่าออกโฉนดมาได้อย่างไร ทำไมถึงไม่มีการตรวจสอบให้เรียบร้อยก่อนออกโฉนด และเหตุใดจึงปล่อยให้มีการเปลี่ยนมือหรือซื้อขาย รับค่าธรรมเนียมมามากมายไปหมด ซึ่งมีประเด็นที่ต้องตรวจสอบอีกมากมาย
...
ผู้สื่อข่าวถามต่อ ประเด็นนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองจะสะดวกใจทำงานร่วมกับพรรคกล้าธรรมในรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า การทำงานรับใช้บ้านเมือง ต้องไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาเกี่ยวข้อง ส่วนใครจะทำอะไร เตะเจาะยาง หรือทำให้เกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียง คนที่กล่าวหามาก็มีสิทธิกล่าวหา เพราะเขาบอกทำเพื่อประชาชน ส่วนคนที่ถูกกล่าวหาก็มีหน้าที่พิสูจน์ทราบว่าถูกต้องอย่างไร ถ้าถูกต้องคนที่กล่าวหาก็ต้องรับความเสี่ยงในการถูกฟ้องร้อง เพื่อขอความเป็นธรรมต่างๆ ไม่เกี่ยวข้อง แต่ตรงนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการทำงาน เป็นเรื่องที่เล็กมาก ไม่มีสาระสำคัญอะไร การทำงานในความเป็นรัฐบาล เราต้องมองผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นหลัก เรื่องส่วนตัวก็อย่างที่บอก ใครก็ลงบัญชีกันไป
สำหรับความสัมพันธ์ส่วนตัวที่มีรายงานข่าวว่า นายอนุทิน ไปร่วมงานแต่งที่มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรมร่วมด้วย แต่ไม่ทักทายกันนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ก็เจอ นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็เข้ามาทักทายยกมือไหว้อย่างสุภาพนอบน้อม และบอกว่าสิ่งไหนที่ล่วงเกินไปต้องขออภัยด้วย เขาก็ทำตามหน้าที่ ซึ่งตนได้บอกว่าเต็มที่เลย ถ้ามีอะไรที่ไม่ถูกต้องก็ดำเนินการไป แล้วถ้ามีอะไรถูกต้องก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับพี่ด้วย
นายอนุทิน ยังกล่าวด้วยว่า ไม่จำเป็นต้องเคลียร์กับพรรคกล้าธรรม การเมืองก็อย่างนี้แหละ ถ้าแค่นี้ทนไม่ได้ก็เล่นการเมืองไม่ได้ เป็นเรื่องปกติของการเมืองของคนที่มีฐานเสียงแข็งแรงอย่างที่ตนเคยบอก และเปรียบเป็นเหมือนภูเขาทอง ส่วนคำว่าหน้าตัวเมียด่าใคร นายอนุทิน ปฏิเสธที่จะตอบ ได้แต่ยิ้มและทำเสียงว่า “หึๆ”