“เท้ง ณัฐพงษ์” ชี้ พรรคภูมิใจไทย มีมติวอล์กเอาต์แก้รัฐธรรมนูญ ม.256 นายกฯ ต้องรับผิดชอบ เหตุผลักดันเป็นนโยบายเรือธงแล้ว ติงไม่ร่วมสังฆกรรมเท่ากับไม่ทำตามคำพูดตัวเอง ยัน เรื่องนี้ศาลรัฐธรรมนูญเคยไม่รับคำร้องแล้ว เหตุเป็นอำนาจนิติบัญญัติ
วันที่ 12 ก.พ. 2568 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงมติพรรคภูมิใจไทย ไม่ร่วมสังฆกรรมแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ในวันพรุ่งนี้ ว่า หน้าที่การเข้าประชุมรัฐสภาถือเป็นหน้าที่ของสมาชิกทุกคน ตนไม่อยากเห็นการวอล์กเอาต์ แต่ขณะเดียวกัน การเข้าร่วมประชุม สิ่งสำคัญก็คือการร่วมลงมติเพื่อเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นฉันทามติของสังคมร่วมกันแล้ว เราพูดคุยเรื่องนี้มากมายพอสมควรจนประธานรัฐสภายอมบรรจุวาระแก้ไขมาตรา 256 เข้าสู่ที่ประชุมร่วมกันแล้ว สำนักกฎหมายของสภาก็ตีความแล้วว่าไม่ได้ผิดข้อกฎหมาย ดังนั้นไม่มีความจำเป็นใดๆ เลยที่จะไม่เข้าร่วมประชุมและไม่เห็นชอบในการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256
เมื่อถามว่าการไม่ร่วมสังฆกรรมด้วยสำหรับเรื่องนี้ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ถ้าใช้คำว่าไม่ร่วมสังฆกรรมด้วย ก็เหมือนกับการไม่ทำตามคำพูดของตัวเองด้วย ก่อนหน้านี้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็เป็นนโยบายหลักของรัฐบาล
“ผมใช้คำว่าของรัฐบาล ไม่ใช่พรรคใดพรรคหนึ่ง ดังนั้น สิ่งที่ผมอยากเห็นคือคำพูดที่ได้เคยพูดไว้ในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาอย่างไร ก็อยากให้เดินหน้าแบบนั้นครับ” นายณัฐพงษ์ กล่าว
เมื่อถามว่ามติพรรคภูมิใจไทยที่ออกมาวันนี้ นายกรัฐมนตรีก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วยถูกหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตัวนายกรัฐมนตรีเองมีหน้าที่ในการควบคุมพรรคร่วมรัฐบาลอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามอำนาจในการยุบสภาอยู่ที่ตัวนายกฯ ดังนั้น ถ้าจะผลักดันเรื่องนี้อย่างจริงจัง ตนเชื่อว่านายกรัฐมนตรีสามารถดำเนินการได้ เพราะหากไม่สามารถผลักดันนโยบายเรือธงที่ได้แถลงไว้ว่าเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล นายกรัฐมนตรีต้องมีส่วนรับผิดชอบในเรื่องนี้
...
เมื่อถามว่ายังมีพรรคประชาธิปัตย์ พรรครวมไทยสร้างชาติที่รอศาลรัฐธรรมนูญตีความก่อน จะกลายเป็นว่าทุกพรรคการเมืองทิ้งพรรคประชาชนให้เดินหน้าหรือไม่ นายณัฐพงษ์ ระบุว่า เรื่องนี้ศาลรัฐธรรมนูญเคยไม่รับพิจารณา โดยระบุว่าเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติที่จะต้องตัดสินเองอยู่แล้ว เรื่องนี้ไม่มีผลใดๆ ที่สภาจะต้องลงมติซ้ำซ้อนในเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญก็บอกว่าเป็นหน้าที่ของสภา ฝ่ายนิติบัญญัติควรยืนยันหน้าที่ของตัวเองและเดินหน้าต่อ
เมื่อถามว่าการไม่ร่วมประชุม จะเป็นการทำหน้าที่สมาชิกได้ไม่เต็มที่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า “การที่กลัวข้อกังวลต่างๆ ที่ศาลรัฐธรรมนูญก็เคยไม่รับพิจารณาในเรื่องนี้ ผมก็คิดว่าเป็นการเซ็นเซอร์ตัวเอง และไม่ได้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่มากเพียงพอ”