“รองนายกฯ ภูมิธรรม” เผย นายกฯ สั่งซีลชายแดน 6 เดือน ต้องเห็นผล ขู่เพิ่มความเข้มข้นไม่ละเว้นเจ้าหน้าที่ สมรู้ร่วมคิด ต้องถูกดำเนินการอย่างถึงที่สุด รับสระแก้วต้องเน้นตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ระบุ เมียนมาเตรียมส่งเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ไทย รอบละ 500 คน
วันที่ 12 ก.พ. 2568 เมื่อเวลา 10.40 น. ที่ ร.13 พัน 3 รอ. จ.สระแก้ว นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมติดตามการปฏิบัติงาน มอบนโยบาย รับฟังความคืบหน้าการดำเนินงานภาพรวมของพื้นที่ ปัญหาการปราบปรามยาเสพติด แก๊งคอล การค้ามนุษย์ อาชญากรรมไซเบอร์ บัญชีม้า จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ นายปริญญา โพธิสัตย์ ผวจ.สระแก้ว พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย รอง ผบช.ภ.2 เป็นต้น นายภูมิธรรม มอบนโยบาย และข้อสั่งการว่า รัฐบาลคิกออฟเรื่องซีลชายแดน หวังว่าจะใช้เวลา 6 เดือน จะเห็นผล จะเป็นมาตรการเริ่มต้นสกัดกั้นยาเสพติด ป้องกันการค้ามนุษย์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีสมช.เป็นผู้ประสานงาน นายกฯ สั่งการเรื่องนี้ว่า 6 เดือน ต้องเห็นผล อะไรที่เฉยชาหรือไม่ปฏิบัติตามอย่างแข็งขัน ได้มีมาตรการตกลงกับผู้บังคับบัญชาระดับสูงของทุกหน่วย หากเพิกเฉย ต้องดึงออกมาก่อน ต้องร่วมมือกัน และทำทันที ซิมการ์ด ถ้าสกัดตรงนี้ได้ จะแก้ปัญหาได้ ส่วนมาตรการชายแดน เช่น ตัดไฟและอินเทอร์เน็ต เป็นจุดเริ่มต้นกวาดบ้านให้สะอาด
นายภูมิธรรม ยังได้สั่งการอีกหลายส่วนในพื้นที่ อาทิ สั่งการกองทัพภาคที่ 1 เพิ่มความเข้มข้นลาดตระเวน เสริมกำลังพลป้องกันชายแดน ขอตำรวจภูธรภาค 2 บูรณาการรับมือขบวนการป้องกันลักลอบข้ามแดน ส่วน กฟภ.ให้เตรียมความพร้อมหากจำเป็นต้องดำเนินการตัดสินใจ งดการจ่ายกระแสไฟฟ้า หากมีการผิดวัตถุประสงค์ ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงแห่งชาติ กสทช.ให้หันเสาส่งสัญญาณ หรือตัดสัญญาณในพื้นที่ชายแดน ที่มีการนำสัญญาณโทรคมนาคมไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ มีผลกระทบต่อความมั่นคง โดยใช้มาตรการ “ซิม เสา สาย” ตามที่มีการรายงานเข้าไปแก้ไข ตนชื่นชม และขอบคุณในความมุ่งมั่น ทุ่มเท และความกล้าหาญของทุกท่าน ส่วนผู้ที่ปล่อยปละละเลย ละเว้นหน้าที่ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต ปล่อยให้ขบวนการผิดกฎหมาย ดำเนินกิจกรรมในพื้นที่ เป็นการทำลายเกียรติของตนเองและองค์กร หากพบว่ามีผู้ใดกระทำผิด ละเลยหรือสมรู้ร่วมคิด จะต้องถูกดำเนินการอย่างถึงที่สุด ไม่มีข้อยกเว้น
...
ลุยตรวจเสาสัญญาณเน็ต สั่งฟันไม่เลี้ยง หากพบลอบส่งฝั่งปอยเปต
ต่อมาในเวลา 13.45 น. นายภูมิธรรมและคณะ เดินทางลงพื้นที่ตรวจมาตรการดำเนินงานภายใต้ยุทธการอรัญ 68 โดยจุดแรกเดินทางไปที่จุดบูรณาการร่วม ทหาร ปกครอง ตำรวจ (จต.อ. 25) ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยตรวจการใช้ยุทโธปกรณ์โดรน เพื่อใช้ในการช่วยลาดตระเวน และตรวจตราสิ่งผิดปกติ ของกองกำลังบูรพา รวมถึงรถปฏิบัติการสื่อสารทางยุทธวิธี ที่จะแสดงผลทางจอทีวีแบบเรียลไทม์หากพบสิ่งผิดปกติ โดยนายภูมิธรรม เห็นว่าการใช้เทคโนโลยีมาช่วยน่าจะเป็นเรื่องดี ที่จะช่วยเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานได้ผลมากขึ้น
จากนั้นเดินทางต่อไปตรวจเสาส่งสัญญาณผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ ที่บ้านโคกสะแบง โดยจุดนี้จะมีการลดความสูงของเสาลง และออกแบบเสาใหม่ ไม่ให้หันไปทางฝั่งกัมพูชา เพราะจากเดิมที่หันไปมีระยะห่างแค่ 300 เมตร ซึ่งในระหว่างที่คณะรองนายกฯ มาตรวจดู ก็ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ว่าบริษัทที่ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์รับทราบเรื่องแล้วหรือไม่ ก็ได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ว่าได้รับทราบ และในช่วงนั้นพบว่า เจ้าหน้าที่บริษัททรู มาปีนเสาตัดสัญญาณและลดระดับการส่งสัญญาณ
จากนั้นเวลา 14.15 น. คณะได้เดินทางไปติดตามการดำเนินงานของชุดเครื่องมือตรวจสอบสถานีวิทยุคมนาคม สำหรับตรวจสอบสถานีโทรศัพท์เคลื่อนที่ ของ กสทช. ที่ตลาดเบ็ญจวรรณ ต.ป่าไร่ เพื่อดูเสาสัญญาณผู้ให้บริการ โดยดูตัววัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ได้รับแจ้งเตือนจากฝ่ายความมั่นคง ว่าพบความผิดปกติ โดยสามารถบล็อกไอพีที่ใช้ได้ทันที
และในเวลา 14.28 น. มาตรวจจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก และรับฟังรายงานสถานการณ์การเดินทางเข้าออกของบุคคล โดยผู้กำกับการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว ผู้บังคับการกองกำลังบูรพา ซึ่งรายงานว่าขณะนี้เราห้ามคนเข้าได้ แต่ไม่สามารถห้ามคนออกได้ถ้าไปอย่างถูกต้อง ซึ่งไม่รู้ว่าเข้าไปแล้วจะถูกหลอกหรือไม่ จึงได้ทำการประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนอยู่ตลอดเวลา โดยนายภูมิธรรม กำชับเรื่องการเดินทางเข้าออก และได้ไปดูจุดที่เจ้าหน้าที่ตัดสายเคเบิลที่ลักลอบส่งข้ามฝั่งไปยังกัมพูชา เบื้องต้นได้ทำการตัดสายแล้ว หากไม่สามารถหาเจ้าของได้ และเชื่อว่าสายที่ตัดต่อไปยังอาคาร 25 ชั้น ที่มีขบวนการไม่ถูกกฎหมาย
ตัดสายเคเบิลแล้ว 3 เส้น เจอไม่ถูกต้องพร้อมตัดอีก รับสระแก้วเน้นสัญญาณอินเทอร์เน็ต
นายภูมิธรรม โชว์สายเคเบิลที่ถูกตัดแล้ว พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า สายเคเบิลใดที่ตรวจสอบแล้วไม่มีเจ้าของให้ตัดเลย เบื้องต้นตัดไปแล้ว 3 เส้น จาก 32 เส้น เหลือ 29 เส้น หากตรวจไปเจอที่ไหนไม่ถูกต้องก็ตัดทันที
นายภูมิธรรม กล่าวว่า จากการลงพื้นที่วันนี้ทุกฝ่ายร่วมมือกันตามที่สภาความมั่นคงได้มีมติออกไป ทั้งการตัดไฟและอินเทอร์เน็ต แต่ละจุดที่ไปดูห่างจากชายแดนไม่มาก ส่วนเสาสัญญาณได้ลดระดับความสูงลง และหันเสาออกจากจุดชายแดน หากไม่ลดความสูงลงสัญญาณจะข้ามไปยังฝั่งกัมพูชาได้ เมื่อลดความสูงลงก็ต้องช่วยเหลือประชาชนให้สามารถใช้สัญญาณได้ ดังนั้นตามแนวชายแดนยังไม่ต้องกังวลใจ ยังใช้สัญญาณได้เพราะเราคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชนด้วย ส่วนสัญญาณที่ส่งออกไปข้างนอกเราสั่งตัดอย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้ขยายการกระทำผิด จุดผ่านแดนบ้านคลองลึกใกล้ชายแดนนิดเดียว มีแค่กำแพงรั้วที่สูงไม่มากขวางอยู่ หันไปดูก็จะเป็นตึก 25 ชั้น ที่ปรากฏออกมาตามสื่อฯ ซึ่งตรงนี้อาจจะเป็นจุดหนึ่งที่เป็นเป้าหมาย โดยสายสัญญาณที่เหลือรอให้เจ้าของมาแสดงตัว เพื่อติดสติกเกอร์ อันไหนบอกไม่ได้ว่าเป็นของใครจะตัดทิ้ง และให้ กสทช. ไปพิจารณาเรื่องสาย เสาซิม และลดกำลังส่งสัญญาณให้วิ่งถี่ขึ้น เพื่อดูว่ามีอะไรรั่วไหลหรือไม่ จะได้ดำเนินการ โดยสายที่ต่อไปทางกัมพูชาหากพบว่า นำไปใช้ในพื้นที่กระทำผิดต้องสาวไปถึงต้นตอว่าเป็นสายของใคร และไม่ดำเนินการตามคำสั่งของรัฐบาลถือเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย ต้องเรียกมาคุยกัน ทั้งนี้ต้องหารือกับบริษัทผู้ให้บริการ เช่น เอไอเอสได้พูดคุยไปแล้วและวันนี้ส่งคนมาดำเนินการ ส่วนอื่นๆ ต้องไปคุย โดยขณะนี้มีสองเจ้าใหญ่ คงต้องให้ความร่วมมือหากเป็นเรื่องความมั่นคงของคนในประเทศ วันนี้มาดูสาวไปถึงใครต้องดำเนินการต่อมาตรการแรก คือ ขอความร่วมมือเพราะเป็นปัญหาความมั่นคงในประเทศหากตรงนี้ยังไม่ได้ผลก็ดำเนินการขั้นต่อไป ตามกฎหมาย หากรู้ว่ามีบริษัทที่ขายสัญญาณต่อไปในพื้นที่ผิดกฎหมายก็ว่าไปตามกฎหมาย เราต้องถอนใบอนุญาตหรืออาจไปถึงขั้นสมรู้ร่วมคิดในการกระทำผิด ต้องว่าไปตามกฎหมาย ไม่มีเห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น
“ที่สระแก้ว ต้องเน้นเรื่องสัญญาณอินเทอร์เน็ต ไฟฟ้าอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ เนื่องจากกัมพูชาก็มีไฟฟ้าที่ผลิตเองส่วนหนึ่ง การจัดการต้องดูแต่ละพื้นที่ไป ในขณะที่ตลาดรวมถึงพญาตองซูที่ผมจะเดินทางไป ตรงนั้นไม่มีไฟฟ้า จึงเป็นเงื่อนไขของเราที่จะทำให้เห็นผล และเขาก็ตื่นตัวมาก และพยายามสกัดกั้น ผลักดันคนที่เข้าไปอยู่ในพื้นที่ที่ทำผิดกฎหมาย” นายภูมิธรรมกล่าว
เมียนมาเตรียมส่งเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ไทย รอบละ 500 คน
นายภูมิธรรม กล่าวว่าทางเมียนมา ระบุจะส่งคนที่ถูกหลอกไปให้ไทย 20 รอบ รอบละ 500 คน เราจึงบอกว่า ขอให้ประเทศต้นทางของคนที่ถูกหลอกไประบุมาก่อนเพราะเราไม่อยากมาสร้างค่ายอพยพที่ไทย ขณะนี้ทางจีนมีรัฐมนตรีเดินทางไปที่เนปีดอ ไปคุยกับรัฐมนตรีมหาดไทยเมียนมา เมื่อกลับเข้ามาได้นัดพูดคุยกับตน ที่จะมาหารือถึงมาตรการร่วมมือกัน ยืนยันว่าทั้งหมดเราต้องคำนึงถึงอธิปไตยของไทย ส่วนความร่วมมือเป็นเรื่องของทุกฝ่ายที่จะร่วมกัน
เมื่อถามว่าจะขยายมาตรการเข้มข้นที่ทำกับเมียนมาร์มาใช้ในฝั่งกัมพูชาหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า บางอย่างเหมือนได้ บางอย่างไม่เหมือนกัน เช่น เรื่องของการตัดไฟต้องคุยกับเจ้าหน้าที่ทางเทคนิค แต่ไม่ใช่ปัญหาของทางกัมพูชา แต่สัญญาณอินเทอร์เน็ตมีส่วนสำคัญมากกว่า เพราะแนวชายแดนติดกัน บางครั้งสามารถกระโดดข้ามกันมาได้ ที่เสนอขอทำรั้วให้สูงขึ้นคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์และจะนำไปพิจารณา และไม่ต้องกลัวหากมีการทำรั้วจะไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน เราทำในอธิปไตยของเรา พื้นที่ทับซ้อนต้องไว้ทีหลังเพราะมีปัญหาอยู่ จึงย้ำมาตลอดว่าการจัดการปัญหาไม่ง่าย เพราะมีเรื่องความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังให้สัมภาษณ์นายภูมิธรรม ได้หันมาพูดกับสื่อ พร้อมกับชี้ไปที่อาคารสูง 25 ชั้น ฝั่งปอยเปต พร้อมระบุว่า ตึกที่ปรากฏตามข่าวหรือไม่ สื่อได้มาเห็นแล้ว
จากนั้นนายภูมิธรรมได้มาตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจกำลังพล ที่ปฏิบัติภารกิจป้องกันประเทศที่ ร.12 พัน 3 รอ. และมอบสิ่งของเป็นขวัญและกำลังใจ ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ ถือว่าเสร็จสิ้นภารกิจ