“ทวี สอดส่อง” ยืนยัน ตัดไฟฟ้าเมียนมาถือเป็นการตัดตอนกระบวนการค้ายาเสพติด เผย จีน-กัมพูชา มีขอตัว หัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีน แต่ส่งให้ไม่ได้ต้องยึดหลักสิทธิมนุษยชน ย้ำถูกยั่วยุก็ต้องอดทนแม้จะมีคนอยากปรี่มาต่อย
วันที่ 6 ก.พ. 2568 พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการตัดไฟฟ้าของไทยไปเมียนมา ว่า นอกจากจะตัดตอนขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์แล้วยังถือเป็นการตัดตอนขบวนการค้ายาเสพติด อาจส่งผลกระทบต่อกลุ่มที่ผลิตยาเสพติดตามชายแดน เพราะถูกตัดไฟฟ้าและถือเป็นมาตรการป้องกันยาเสพติดที่จะทะลักเข้าประเทศไทย และหากเราประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างใกล้ชิดจะทำให้แหล่งผลิตยาเสพติดได้รับการแก้ไข
ขณะเดียวกันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถ้าไม่มีไฟฟ้าก็จะทำไม่ได้เพราะต้องใช้อินเทอร์เน็ตและระบบไฟฟ้า ข้อมูลที่พบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่ได้หลอกแค่คนไทยเท่านั้น ยังมีอีกหลายประเทศที่ถูกหลอก
ส่วนที่นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีความมั่นคงของจีน เดินทางมาประเทศไทยและจะขอตัวผู้ต้องหาที่เป็นหัวหน้าขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับไปดำเนินคดีที่จีนนั้น พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า มีคนที่อันตรายที่สุดอยู่ในเรือนจำของไทยอยากจะขอตัวกลับไปประเทศจีน และที่มณฑลยูนนานถูกแก๊ง มีประชาชนได้รับความเสียหายจากแก๊งนี้หลาย 10,000 ล้านบาท จึงคุยกันว่าถ้าคดีที่เป็นองค์กรอาชญากรรมใหญ่ๆ ถ้าการดำเนินคดีที่รวดเร็วจะเป็นการยับยั้งผู้กระทำผิดใหม่ และตามขั้นตอนการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ขณะนี้แม้แต่ศาลชั้นต้นให้ส่งกลับไปที่จีนก็ตาม แต่เขาได้อุทธรณ์ซึ่งใช้ระยะเวลา 2 ปี และเมื่อมาดูเชิงลึก รัฐบาลมีความจริงใจที่จะส่งตัว แต่เป็นเรื่องกฎหมายระหว่างประเทศ เพราะเราต้องให้สิทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ถูกจับกุม ซึ่งก็มีประเทศกัมพูชาขอตัวกลับด้วย แต่เรือนจำของประเทศไทยเราเอาไว้ขังนักโทษเด็ดขาด คดีที่อยู่ระหว่างหรือคดีผู้ร้ายข้ามแดน เมื่อมีคนมาฝากก็ต้องปฏิบัติตัวกับเขาอย่างมีสิทธิมนุษยชน จึงต้องอดทน และคดีลักษณะนี้ผู้ที่จะถูกส่งตัวกลับก็ไม่อยากจะกลับ จึงมีลักษณะหลายอย่างทั้งการหนี เพื่อที่จะให้อยู่ในประเทศไทยได้นาน
...
“ทางราชทัณฑ์ก็ได้เข้าใจว่าต้องมีความอดทน ถูกยั่วยุบางครั้งก็ต้องอดทนเพราะระหว่างที่ยืนอยู่อาจจะมีคนปรี่เข้ามาอยากจะต่อย….เราก็ต้องอดทน” พ.ต.อ.ทวี กล่าว