กรรมาธิการการปกครอง เรียกทุกหน่วยงานเคลียร์ปมตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์ช้า สมช. แจงถึงความกังวล บอก นอกจากตัดไฟชายแดนเมียนมาแล้ว อาจจะตัดชายแดนด้านอื่นด้วย ขณะที่กระทรวงต่างประเทศ บอก เมียนมาให้ความร่วมมือเต็มที่

วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การปกครอง สภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาศึกษาการบริหารจัดการให้บริการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าข้ามพรมแดน ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โดยมีตัวแทนของกระทรวงการต่างประเทศ, สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.), และตัวแทน กฟภ. เข้าชี้แจง โดยนายไผท สิทธิสุนทร ผู้อำนวยการกองความมั่นคงกิจการชายแดนและประเทศรอบบ้าน สมช. ชี้แจงว่า ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา รัฐบาล และหน่วยงานความมั่นคง มีความกังวลต่อปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะในประเทศเมียนมา ซึ่งได้ประเมินหลายครั้งเกี่ยวกับธุรกิจผิดกฎหมายบริเวณชายแดนที่จะส่งผลกระทบทั้งปัจจุบันและอนาคต โดยในที่ประชุม สมช. เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้มีมติตัดไฟฟ้า 5 จุด ใน 3 จังหวัด ที่มีการใช้ไฟฟ้าจากไทยไปเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติและระงับการส่งน้ำมันเชื้อเพลิง ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตและสัญญาณโทรศัพท์ด้วย และในอนาคตไม่ใช่เฉพาะเมียนมา แต่มีชายแดนด้านอื่นด้วย ที่ สมช. จะพิจารณาดำเนินการรวมจะทบทวนกฎหมายและมติ ครม.ให้สอดคล้องกับสถานการณ์

ที่ประชุมสอบถามว่าการแก้ปัญหานี้ที่ผ่านมามีการโยนกันไปมา ในอนาคตจะทำอย่างไรเกี่ยวกับอาชญากรรมข้ามชาติ และการตัดน้ำตัดไฟชั่วคราวหรือตลอดไป จะส่งผลกระทบต่อชุมชนหรือโรงเรียนในพื้นที่ด้วยหรือไม่ ผอ.กองความมั่นคงกิจการชายแดนและประเทศรอบบ้าน สมช. กล่าวว่า สมช. ได้แจ้งให้ประชาชนในพื้นที่ทราบเพื่อเตรียมความพร้อม ส่วนเครื่องปั่นไฟและน้ำมันเชื้อเพลิง หน่วยงานความมั่นคงจะเข้มงวดมากขึ้นโดยเฉพาะท่าข้ามชายแดนของเอกชน ที่อาจจะมีการเล็ดลอดไปสนับสนุนเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งแนวทางสำคัญของ สมช. คือไม่ให้ข้าราชการเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง

...

ขณะที่นายราชิต สุดพุ่ม สส.นครศรีธรรมราช ในฐานะรองประธาน กมธ.การปกครอง กล่าวว่า ค่อนข้างผิดหวังการทำงานของข้าราชการ โดยเฉพาะความมั่นคง เพราะเหตุการณ์เกิดมาหลายปีแล้ว ทำไมเพิ่งจะพิจารณาการตัดน้ำตัดไฟ ตนคิดว่าสิ่งที่ดำเนินการวันนี้เป็นการแก้ปัญหาชั่วคราว

ด้าน นายคมกฤช จองบุญวัฒนา ผู้อำนวยการกองเอเชียตะวันออก 2 กรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวชี้แจงว่า กระทรวงการต่างประเทศไปแจ้งมติของ สมช. กับทางรัฐบาลเมียนมา โดยได้แจ้งสถานทูตเมียนมาไปแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา 2 เรื่อง คือ 1. การระงับการจ่ายไฟ และ 2. การระงับสัญญาณโทรคมนาคมและการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อให้ทางเมียนมาเตรียมตัว ไม่ส่งผลกระทบกับคนที่ไม่เกี่ยวข้อง และรักษาความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาล ทางเมียนมาพร้อมให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา ล่าสุดประเทศกัมพูชาได้ตั้งคณะกรรมการระดับชาติขึ้นมาแก้ไขปัญหาด้วย

ในที่ประชุมยังถามด้วยว่า เหตุใด กฟภ. จึงไม่ดำเนินการตัดไฟ นายขจรเกียรติ อัศวเบ็ญจาง รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารลูกค้าสัมพันธ์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ชี้แจงว่า ประเด็นความมั่นคงมีความซับซ้อน กฟภ. ไม่สามารถพิจารณาได้หน่วยงานเดียว จึงต้องสอบถามไปยังหน่วยงานอื่นและหน่วยงานด้านความมั่นคง แต่ได้รับคำตอบที่ไม่ชัดเจน เมื่อมีคำสั่งของรัฐบาลมาอย่างเร่งด่วนจึงได้ทำหนังสือแจ้งคู่สัญญาและดำเนินการระงับจ่ายไฟทั้ง 5 จุดช่วงเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตาม ในอนาคตอาจมีการฟ้องร้องจากคู่สัญญา ซึ่งถือเป็นสิทธิ์ แต่ กฟภ. ก็มีระเบียบข้อสัญญาที่พร้อมนำไปต่อสู้ในชั้นศาลและเชื่อว่าข้อมูลจาก สมช. เพียงพอในการต่อสู้ได้.