“นายกฯ แพทองธาร” ถาม “อนุทิน” ปมตัดไฟเมียนมา สกัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก่อนออกเดินทางไปจีนแล้ว เตรียมหารือ “สี จิ้นผิง” วันนี้สามี พร้อมลูก 2 คน “ธิธาร-ธาษิณ” มาส่งด้วย
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร เพื่อเดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาติกรุงปักกิ่ง ในการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ (Official Visit) ที่กรุงปักกิ่ง และเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ครั้งที่ 9 ณ นครฮาร์บิน ระหว่างวันที่ 5-8 กุมภาพันธ์ 2568 โดยมี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

...

ทั้งนี้ น.ส.แพทองธาร ได้อุ้ม ด.ช.พฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์ บุตรชาย พร้อมด้วย นายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี และ ด.ญ.ธิธาร สุขสวัสดิ์ บุตรสาว ที่มาส่งขึ้นเครื่องบิน ทันทีที่นายกรัฐมนตรีมาถึงได้หันไปถาม นายอนุทิน กรณีมีการตัดไฟเมียนมาเป็นอย่างไร เห็นไปกดปุ่มเรียบร้อยดีใช่หรือไม่ นายอนุทิน จึงตอบว่า “เรียบร้อยดี” ก่อนนายกรัฐมนตรีจะบอกให้ลูกชายสวัสดีสื่อมวลชน ซึ่งในช่วงนั้นนายกรัฐมนตรีระบุขึ้นว่า อุ้มลูกมาไม่มีใครกล้าถามอะไรเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายปิฎก และลูกๆ เดินไปส่ง น.ส.แพทองธาร ถึงประตูทางออก บน.6 โดย น.ส.แพทองธาร ได้ทำมือเป็นสัญลักษณ์รูปหัวใจและมินิฮาร์ทส่งมาให้ครอบครัว ก่อนเดินขึ้นเครื่องบินเพื่อเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน


ทางด้าน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร จะเดินทางไปถึงท่าอากาศยานนานาชาติกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เวลา 17.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงปักกิ่ง ซึ่งเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง) โดยมี นางฮว่า ชุนหยิง (H.E. Mrs. Hua Chunying) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีน รอให้การต้อนรับอย่างสมเกียรติ โดยนายกรัฐมนตรีมีกำหนดการสำคัญ ดังนี้
ช่วงเช้าวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการเข้าพบหารือกับ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และนายจ้าว เล่อจี้ ประธานสภาประชาชนแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อขับเคลื่อนความสัมพันธ์และความร่วมมือในทุกมิติ หลังจากนั้นจะเดินทางเพื่อไปวางพวงมาลาที่อนุสาวรีย์วีรชน จัตุรัสเทียนอันเหมิน ส่วนช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมพิธีตรวจแถวสวนสนามภายในศาลามหาประชาชน และเข้าพบปะหารือร่วมกับ นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีนและคณะ
ส่วนวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 ในช่วงเช้า นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะจะออกเดินทางจากกรุงปักกิ่งไปยังนครฮาร์บิน และเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวันที่รัฐบาลจีนจัดขึ้นเพื่อต้อนรับผู้นำแต่ละประเทศ โดยประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เป็นเจ้าภาพ และเชิญนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ครั้งที่ 9 อย่างเป็นทางการ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงหนึ่งก่อนการเดินทาง นายกรัฐมนตรีได้รับเอกสารซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมืองปอยเปต อ.โอโจรว จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ที่ไทยรัฐทีวีเกาะติดประเด็นนี้และส่งทีมผู้สื่อข่าวไปสืบสวนหาข้อมูลเชิงลึกฝั่งประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นอาณาจักรของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยนายกรัฐมนตรีบอกกับทีมข่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จะนำเรื่องนี้ไปหารือกับทางการจีนด้วย ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นปัญหาที่ต้องแก้อย่างเร่งด่วนเพราะสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนมาก ซึ่งตนจะได้นำข้อมูลจากทีมงาน SEE TRUE (ซีทรู) ไทยรัฐทีวี ไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการเพิ่มในส่วนที่ยังมีช่องโหว่ และขอบคุณทีมงานที่ให้ข้อมูล
จากนั้นผู้สื่อข่าวถามว่าทางการจีนมีความตั้งใจในการแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์มากน้อยเพียงใด นายกรัฐมนตรีตอบว่า ทางการจีนแสดงความตั้งใจในการแก้ปัญหาอย่างชัดเจน ซึ่งเราจะร่วมกันแก้ปัญหาเพื่อให้เรื่องนี้คลี่คลายไปในทางที่ดี “แก๊งคอลเซ็นเตอร์สร้างความเดือดร้อนให้กับคนไทยมานานแล้ว สงสารคนเฒ่าคนแก่ คนที่ถูกหลอกลวงต้องสูญเสียเงินทองให้กับมิจฉาชีพเหล่านี้มากมาย รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และจะเร่งแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด”
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ถามทีมซีทรูถึงความรุนแรงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในแถบ จ.เมียวดี ประเทศเมียนมาด้วย ซึ่งทีมงานซีทรูได้แจ้งว่า ผู้สื่อข่าวไปสังเกตการณ์ก็ยังโดนคุกคาม ถือปืนขู่ ทำให้นายกรัฐมนตรีแสดงสีหน้าตกใจ พร้อมกำชับให้เพิ่มความระมัดระวัง เพราะพื้นที่ตรงนั้นเป็นจุดอันตราย.