ก.ต่างประเทศ ยืนยัน ประสานช่วย 4 ลูกเรือไทยในเมียนมาเต็มที่มาตลอด ขอให้มั่นใจไม่ละความพยายาม แจง ติดต่อญาติลูกเรือสม่ำเสมอ และผู้แทนญาติที่ใกล้ชิดได้เข้าเยี่ยมลูกเรือแล้ว เผย ประสานขอเข้าเยี่ยมอีกได้


วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ ย้ำถึงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือ 4 ลูกเรือชาวประมงไทย ที่ยังถูกเมียนมาคุมตัว โดยยืนยันว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ยังคงดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องในทุกระดับตั้งแต่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จนถึงระดับเจ้าหน้าที่กรมกองทั้งหลายมาตลอด เพื่อการดำเนินการที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม หรือการปล่อยตัวลูกเรือประมงทั้ง 4 คน แต่การดำเนินการต้องอาศัยการเจรจาทางการทูตอย่างแนบเนียน รวมทั้งเวลาและความอดทน เช่นเดียวกับกรณีการเจรจาการปล่อยตัวประกันชาวไทยในกาซาจนสำเร็จ จึงยืนยันได้ว่ารัฐบาลไม่เคยปล่อยปละละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวกับชีวิตของพี่น้องประชาชนคนไทย ซึ่งรวมถึง 4 ลูกเรือไทยด้วย

นายรัศม์ ระบุต่อไป แม้ว่าการทำงานของกระทรวงการต่างประเทศ ไม่ได้ปรากฏเป็นข่าว แต่ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาล หรือกระทรวงจะเพิกเฉย แต่ในทางกลับกันการทำงานผ่านสื่อในบางกรณี อาจเป็นการสร้างแรงกดดันต่อฝ่ายเมียนมา และทำให้การปล่อยตัวลูกเรือยากขึ้นไปอีก จึงอยากวิงวอนและขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจได้ว่า กระทรวงการต่างประเทศ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะไม่ลดละความพยายามในการเดินหน้าเจรจาเพื่อนำมาซึ่งอิสรภาพของลูกเรือประมงคนไทยทั้ง 4 คน

ขณะเดียวกัน ยืนยันว่ารัฐบาลมีความเข้าใจในหัวอกของญาติพี่น้องของลูกเรือที่มีความเป็นห่วงกังวล หากญาติท่านใดที่นอกเหนือจากผู้แทนญาติซึ่งมีความใกล้ชิดกับลูกเรือทั้ง 4 คน และได้เข้าเยี่ยมลูกเรือทั้ง 4 คนไปก่อนแล้ว ประสงค์ต้องการจะเข้าเยี่ยมลูกเรือทั้ง 4 คนอีก ก็สามารถติดต่อได้ที่กรมการกงสุล หรือหมายเลข 0-2572-8442 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งรัฐบาลพร้อมประสานงาน และอำนวยความสะดวกตลอดเวลา

...

ทางด้าน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงถึงการดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศต่อกรณีลูกเรือประมงไทยทั้ง 4 คนว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการใน 2 ด้าน ได้แก่ การดำเนินการทางการเมือง และการดำเนินการด้านกงสุล

สำหรับการดำเนินการทางการเมือง กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการอย่างเต็มที่มาโดยตลอด เข้าพบผู้แทนฝ่ายเมียนมาในหลายระดับ เพื่อผลักดันให้ทางการเมียนมาปล่อยตัวลูกเรือทั้ง 4 คนโดยเร็ว และได้นำส่งหนังสือของญาติที่ขอให้ปล่อยตัวลูกเรือ ให้กับทางการเมียนมา และติดตามในหลายโอกาส บนพื้นฐานของการเป็นประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน รวมถึงเป็นผู้ประสานงานอำนวยความสะดวกการเข้าเยี่ยมลูกเรือของคณะกรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งทางการเมียนมาได้อนุมัติคำขอของไทย

ส่วนการดำเนินการด้านกงสุล ตั้งแต่ลูกเรือไทยถูกจับกุมเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 กระทรวงการต่างประเทศ ได้ประสานงานกับทางการเมียนมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ความช่วยเหลือลูกเรือไทย รวมทั้งได้ติดต่อญาติของลูกเรืออย่างสม่ำเสมอ โดยผู้แทนกรมการกงสุลประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เดินทางไปพบปะ และอำนวยความสะดวกให้แก่ญาติของลูกเรือที่จังหวัดระนอง และผู้แทนญาติลูกเรือได้เดินทางมาพบผู้แทนกรมการกงสุลที่กรุงเทพฯ เพื่อรับฟังคำแนะนำในเรื่องนี้ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงย่างกุ้ง พร้อมญาติลูกเรือ ได้เข้าเยี่ยมลูกเรือที่จังหวัดเกาะสอง ภาคตะนาวศรี ตลอดจนได้ประสานงานฝ่ายเมียนมาให้มีการเข้าเยี่ยมของญาติลูกเรือเป็นระยะ

อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ขอให้มั่นใจได้ว่า การคุ้มครอง ดูแลผลประโยชน์ และสวัสดิภาพของคนไทย เป็นหัวใจหลักของนโยบายต่างประเทศ กรณีนี้มีความละเอียดอ่อนในภาพรวมความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศ ดังนั้น จึงต้องอาศัยความอดทน และแนบเนียนตามแนวปฏิบัติทางการทูต โดยกระทรวงจะดำเนินการอย่างเต็มที่ต่อไป.