เพื่อไทยถอดบทเรียนเลือกตั้งนายก อบจ. “แพทองธาร” ขอกลางวงประชุม สส. ให้สามัคคี กันไว้ ปล่อยวาง-ลดตัวตนเพื่อพรรคไม่อยากให้กระทบเลือกตั้งใหญ่ บ่นบางที่แยกกัน 3-4 ก๊วน ทำงานลำบาก จ่อเรียกคุยรายจังหวัด เผย “ทักษิณ” กลับถึงไทยแล้ว “สุริยะ” ลั่นมนต์ “นายใหญ่” ยังไม่เสื่อม “จิราพร” ย้ำคน พท.ไม่เสียกำลังใจ “เสี่ยหนู” รีบเอาใจไม่มีดูแคลน “นายเก่า” “เอกนัฏ” โวทำฐาน รทสช.แน่นขึ้น “นิพนธ์” กระตุก กกต.ทำให้โปร่งใส ประธานวิปฝ่ายค้านมั่นใจไร้หนอน บ่อนไส้ทำข้อมูลรั่ว เล็งซักฟอกโยงไปถึงผู้นำจิตวิญญาณของรัฐบาล
พรรคเพื่อไทยถอดบทเรียนจากผลการเลือกตั้งนายก อบจ. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นำประชุม สส.สรุปผลงาน เตรียมเรียกคุยรายจังหวัดเป็นฐานข้อมูลสำหรับเลือกตั้งใหญ่ ออกปากขอกลางที่ประชุมให้สามัคคีกันไว้ ปล่อยวางลดตัวตนเพื่อพรรค
“อิ๊งค์” อารมณ์ดีผลเลือกตั้ง อบจ.
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทันทีที่นายกฯมาถึงผู้สื่อข่าวกระเซ้าว่าพอใจผลการเลือกตั้งนายก อบจ.นครพนมหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า “แกล้งหรือเปล่า พอใจสิคะ” ก่อนหันมาถามนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ที่มารอรับว่า “เยี่ยมเลยไหม” นางมนพรยิ้มตอบว่า “เยี่ยม” ขณะที่ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวต่างประเทศถามถึงความรู้สึกที่จะเดินทางไปเยือนจีน นายกฯตอบว่า “ตื่นเต้นมากๆ คิดว่าจะเป็นทริปที่ดีทริปหนึ่ง คงคุยหลายประเด็นกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน เตรียมการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว”
...
เผย “ทักษิณ” กลับมาถึงไทยแล้ว
ต่อมาเวลา 12.00 น. น.ส.แพทองธารแถลงหลังการประชุม ครม.ว่า แจ้งในที่ประชุมว่าระหว่างวันที่ 5-8 ก.พ. จะนำคณะไปเยือนจีน ไปนครฮาร์บินที่มีการแข่งขันเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ส่วนเรื่องที่จะไปคุยกับทางการจีน คือ การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม เรื่องความสัมพันธ์ 50 ปี การส่งเสริมการเชื่อมโยงอุปทานในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เร่งรัดโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ความร่วมมือด้านการศึกษาและวิจัย โดยเฉพาะเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อยกระดับพัฒนาบุคลากรเราให้มีศักยภาพมากขึ้น และจะ
ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือหลายฉบับ มีการพูดคุยเรื่องการนำแพนด้ายักษ์คู่ใหม่จากจีน ในฐานะทูตสันถวไมตรีมาไทยในปีนี้ เมื่อถามว่าเตรียมพื้นที่เพื่อรองรับแพนด้าที่ไหน น.ส.แพทองธารตอบว่า น่าจะเป็นที่เดิม เมื่อถามถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปพบนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ ที่ประเทศมาเลเซีย น.ส.แพทองธารตอบว่า เดินทางกลับมาถึงไทยแล้วเมื่อวันที่ 3 ก.พ.
ถก สส.พท.ถอดบทเรียนสนาม อบจ.
น.ส.แพทองธารกล่าวอีกว่า การประชุม สส.พรรคเพื่อไทยในวันนี้ จะพูดกันถึงผลการเลือกตั้งอบจ.ที่ผ่านมา เพราะเป็นเรื่องสำคัญ ต้องดูว่าเราชนะเพราะอะไร ไม่ชนะเพราะอะไร เพื่อรับฟังคนในพรรคว่าระหว่างหาเสียงเจออะไรบ้าง อยากได้อะไรสนับสนุนเพิ่มเติมบ้าง ต้องทำงานร่วมกันในพรรค เมื่อถามว่าเหมือนนายทักษิณ ชินวัตร ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย จะไม่พอใจผลการเลือกตั้ง น.ส.แพทองธารย้อนถามว่า “หรอ ไม่นะ ผู้ช่วยหาเสียงให้สัมภาษณ์หรือ” ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าเหมือนอยากได้มากกว่านี้ผลที่ออกมาไม่ตรงเป้า น.ส.แพทองธารจึงกระเซ้ากลับว่า “อยากได้ทั้ง 16 ที่นั่นแหละ”
จ่อเรียกทุกจังหวัดคุยสรุปบทเรียน
ต่อมาเวลา 15.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุม สส. มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นประธานการประชุม นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุมมีการพูดถึงผลการเลือกตั้งอบจ.ที่ผ่านมา น.ส.แพทองธารให้ความสนใจพูดคุยกันว่าบางจังหวัดที่ควรได้แต่พลาดไป บางจังหวัดที่เป็นพื้นที่ช่วงชิงเราประสบความสำเร็จ น.ส.แพทองธารเตรียมเชิญทุกจังหวัดที่ส่งเลือกตั้งมาพูดคุยกับหัวหน้าพรรค หลังกลับจากประเทศจีน ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดที่ชนะหรือแพ้ สลับสับเปลี่ยนกันมาพูดคุยเพื่อรับทราบปัญหาที่แท้จริง เก็บข้อมูลเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งใหญ่ปี 2570
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่ง น.ส.แพทองธารกล่าวกับที่ประชุมว่า ครั้งนี้พรรคทำเต็มที่พยายามประสานความเห็นที่แตกต่าง ทำให้เหนื่อยในการเคลียร์ อยากให้ปล่อยวางเพื่อผลดีกับเรา ถ้ารวมใจกันชนะได้เหมือนบางจังหวัดที่เรารวมกันได้ก็ชนะ แต่จังหวัดที่มีความขัดแย้งเพราะไม่ยอมกัน อยากให้ลดตัวตนให้เห็นแก่พรรค บางจังหวัดแยกกันสามสี่ก๊วนทำให้งานลำบากอยากให้ทุกคนสามัคคีกัน เพราะจะกระทบกับการเลือกตั้งใหญ่
“สุริยะ” ยืนยันต่างกับเลือกตั้งใหญ่
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงผลการเลือกตั้งนายก อบจ. พรรคเพื่อไทยส่งไป 16 ได้มา 10 ถือว่าเป็นที่พอใจ เมื่อถามว่าประเมินถึงสาเหตุที่บางพื้นที่ไม่ได้หรือไม่ นายสุริยะตอบว่า เป็นบทพิสูจน์ว่าการเมืองท้องถิ่นบ้านใหญ่ยังมีอิทธิพลอยู่ เช่น จ.สมุทรปราการ บ้านใหญ่อัศวเหมได้ตลอด แต่การเมืองระดับชาติ ระดับ สส.เป็นอีกบริบท ส่วน จ.ศรีสะเกษ ที่คะแนนแพ้เยอะ เพราะตระกูลอยู่ในท้องถิ่นมานาน เป็นการตอกย้ำว่าบ้านใหญ่ยังมีอิทธิพลอยู่ การเมืองระดับท้องถิ่นแตกต่างกับการเลือกตั้งระดับชาติ ที่พรรคเพื่อไทยได้ สส.ใน จ.ศรีสะเกษ มา 7 ที่นั่ง พลาดไป 2 ที่นั่ง ยืนยันว่าการแข่งขันในระดับ อบจ.ไม่มีผลต่อการเมืองสนามใหญ่และการเลือกตั้งครั้งหน้า
ลั่นมนต์ขลัง “นายใหญ่” ยังไม่เสื่อม
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่านายทักษิณมนต์เสื่อมแล้ว นายสุริยะตอบว่า ไม่เกี่ยว การเมืองท้องถิ่นบ้านใหญ่ยังมีความสำคัญอยู่ เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยต้องทำงานหนักขึ้นหรือไม่ แม้นายทักษิณไปช่วยหาเสียงในหลายพื้นที่แต่ก็ยังพลาดเป้า นายสุริยะตอบว่า ขอย้ำว่าคนละบริบท ส่วนเรื่องที่พรรคเพื่อไทยต้องทำงานหนักเรามีการประเมินตัวเองตลอดเวลา สส.ทำงานในพื้นที่ตลอด นำปัญหาในพื้นที่มาประสานกับรัฐบาล แก้ไขปัญหา และผลักดันนโยบายให้เป็นไปตามเป้าหมาย คิดว่าจาก 16 ที่ ได้ 10 ที่เป็นเรื่องที่พึงพอใจ เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยจะปรับรูปแบบการทำงานเพื่อไปสู่การเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นายสุริยะตอบว่า พรรคมีการประชุมด้านยุทธศาสตร์กันทุกสัปดาห์ แกนนำจะมีการประเมินผลอยู่ตลอดเพื่อนำไปปรับปรุง
“จิราพร” ย้ำ พท.ไม่มีเสียกำลังใจ
น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นายทักษิณไม่ได้เสื่อมมนต์ขลัง นายทักษิณลงไปช่วยหาเสียง 9 จังหวัด หลายจังหวัดเป็นพื้นที่ท้าชิงเราล้มแชมป์ได้หลายแห่ง เช่น หนองคาย มหาสารคาม นครพนม เมื่อถามว่ามีบางจังหวัดที่นายทักษิณลงไปช่วยแต่พลาด เช่น จ.เชียงราย ทำให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยเสียกำลังใจหรือไม่ น.ส.จิราพรตอบว่า ทุกคนต้องตั้งใจทำงานช่วยเหลือประชาชนต่อไป เราต้องเอาข้อมูลมาเป็นบทเรียนว่าสิ่งที่เกิดขึ้น เกิดจากอะไร ทุกคนยังมีกำลังใจดีอยู่ เมื่อถามว่าที่ จ.ศรีสะเกษ เพื่อไทยมี สส.ถึง 7 คน ทำไมคะแนนถึงห่างกันเป็นแสน น.ส.จิราพรตอบว่า คนเดิมเป็นนายก อบจ. มานานเหมือนกัน มีปัจจัยหลายอย่าง มีหลายจังหวัดที่พรรคอื่นได้ สส.ยกจังหวัด แต่ไม่มี อบจ.มันมีรายละเอียด มีปัจจัยที่ไม่ใช่เฉพาะนโยบายพรรค และการเลือกตั้งท้องถิ่นแตกต่างจากการเลือกตั้งระดับใหญ่
“หนู” รีบอวยไม่ดูแคลน “นายเก่า”
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าผลเลือกตั้ง อบจ.ที่ออกมาทุกอย่างจบแล้ว ต้องมองไปข้างหน้า แข่งขันเสร็จก็กลับมาทำงานทำประโยชน์ให้บ้านเมืองด้วยกันต่อไป เมื่อถามว่าเครือข่ายสีน้ำเงินมีเคล็ดลับอย่างไร นายอนุทินตอบว่า อย่าแยกสีแยกฝ่าย เวลาเลือกตั้งก็เลือกตั้งกันไป ปี 2570 ก็มาแข่งกันใหม่ ผลออกมาเป็นอย่างไร ตัวเลขเป็นอย่างไร จะรวมกันอย่างไร ใครเป็นรัฐบาล ใครเป็นฝ่ายค้านมีรูปแบบของมันอยู่ ทุกพรรคการเมืองต้องมีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา เมื่อถามถึงเสียงวิจารณ์ว่านายทักษิณสิ้นมนต์ขลังแล้ว นายอนุทินตอบว่า “ไม่สิ้นมนต์ขลังหรอก จอมยุทธ์คือจอมยุทธ์ ใครไปว่าท่านสิ้นมนต์ขลัง คงประสบความหายนะอย่างยิ่ง อย่างที่ไม่เคยคาดการณ์หรือประมาณอะไรได้ ไม่มีหรอกครับ ยิ่งน่ากลัว” เมื่อถามว่าต้องเคลียร์กันหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไม่ต้องเคลียร์ เป็นเรื่องปกติธรรมดา อย่าไปคิดมากไม่เช่นนั้นทำอะไรไม่ได้ ถึงเวลาหาเสียงเลือกตั้งก็ใส่กันไป เป็นบทบาทลีลาหาเสียง และถ้ากระสุนเป็นปัจจัยชี้ขาด ทุกคนคงชนะหมด กระแสและความเชื่อมั่นสำคัญที่สุด อยู่ที่ใครทำงาน
ชทพ.ขอบคุณคนสุพรรณฯ-นครปฐม
ขณะที่นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนา สังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) หัวหน้าพรรค ชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า ขอขอบคุณชาว สุพรรณบุรีและชาวนครปฐม ที่ให้ความไว้วางใจคนของพรรคชาติไทยพัฒนา เชื่อมั่นว่าการทำงานจะมีความต่อเนื่อง และทั้งสองจังหวัดจะได้พัฒนาไปในทิศทางเดียวกัน เมื่อถามว่าช่วงหาเสียงมีการกระทบกระทั่งกับทีมของพรรคเพื่อไทย นายวราวุธตอบว่า เป็นเรื่องปกติ ต้องมีลิ้นกับฟันกระทบกันบ้างเป็นธรรมดา พอผ่านการลงคะแนนแล้วเราไม่ติดใจอะไร ที่สำคัญคือจะพัฒนาจังหวัดของเราต่อไปอย่างไร ดังนั้น จบแล้วถือว่าจบ ทำงานในส่วนของเราต่อไป
“เอกนัฏ” โวทำฐาน รทสช.แน่นขึ้น
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคประกาศชัดเจนว่าไม่ส่งผู้สมัครในนามพรรค แต่คนที่ได้รับการเลือกตั้งโดยเฉพาะโซนภาคใต้ถือเป็นเครือข่ายพรรค ผลที่ออกมาถือว่าน่าพอใจ เพราะเครือข่ายของพรรคได้รับเลือกทั้งใน จ.สุราษฎร์ธานี พัทลุง ชุมพร ได้ สจ.มากกว่า 100 คน และจะเป็นเครือข่าย เป็นทีมงานสำคัญของพรรค รทสช. เมื่อถามว่าจะส่งผลต่อการเลือกตั้งใหญ่ในครั้งหน้าหรือไม่ นายเอกนัฏตอบว่า ทำให้พรรคมีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น พรรคเราตั้งแต่แรกเริ่มต้นจากศูนย์ สส.ไม่มี สจ.ไม่มี ชื่อพรรคคนจำไม่ได้ มาวันนี้พรรค รทสช.มีจุดยืนที่ชัดเจน และสื่อสารออกไปให้ประชาชนเห็น ได้รับการตอบรับที่ดี เมื่อถามว่าดูจากผลเลือกตั้งแล้วในพื้นที่ภาคใต้อาจมีแนวโน้มสูงว่าการเลือกตั้ง สส.ครั้งต่อไป จะเป็นการแข่งขันระหว่างพรรคภูมิใจไทยและพรรค รทสช. นายเอกนัฏตอบว่า เป็นไปได้ แต่แนวโน้มก็คงเป็นรัฐบาลผสมอีก ต้องมาคุยกัน แต่การเลือกตั้งทุกคนต้องแข่งขันกันหมด
“นิพนธ์” กระตุก กกต.ทำให้โปร่งใส
นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.มหาดไทย อดีตนายก อบจ.สงขลา กล่าวว่า มีประเด็นสำคัญที่ต้องสนใจ คือปัญหาบัตรเสียมีจำนวนมาก รวมถึงอัตราการใช้สิทธิของประชาชนต่ำกว่าที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คาดการณ์ไว้ ส่งผลต่อคุณภาพของผลการเลือกตั้ง นอกจากนี้จำนวนผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนน หรือโหวตโนมีอัตราสูงขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงความไม่พึงพอใจของประชาชนต่อทางเลือกทางการเมืองที่มีอยู่ สาเหตุอาจมาจากความไม่ไว้วางใจต่อระบบการเมือง การขาดทางเลือกที่เหมาะสมหรือความไม่พึงพอใจต่อผู้สมัครที่มีอยู่ กกต.จำเป็นต้องเร่งศึกษาและหาแนวทางแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างจริงจัง เพื่อให้กระบวนการเลือกตั้งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชนอย่างแท้จริง การเลือกตั้งควรเป็นเครื่องมือที่สะท้อนเสียงประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส ควรนำไปพิจารณาปรับปรุงเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหานี้เกิดซ้ำอีก และควรพัฒนาแนวทางจัดการเลือกตั้งให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้ประชาธิปไตยไทยเดินหน้าไปอย่างมั่นคง สะท้อนเจตนารมณ์ประชาชนอย่างแท้จริง
“ทวี” ขอแยกส่วน 2 เวทีแตกต่างกัน
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม หัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) กล่าวว่า ผลเลือกตั้งนายก อบจ. ทั้งที่ จ.นราธิวาส ยะลา ปัตตานี ล้วนเป็นพรรคพวกเดียวกันทั้งหมด หรือที่ จ.สตูล ก็เกือบชนะ แสดงให้เห็นว่ากระแสท้องถิ่นยังไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องที่ประชาชนต้องการปรับปรุง ตอนนี้ถือว่าประชาชนตื่นรู้แล้ว ท้องถิ่นต้องปรับตัว เมื่อถามว่าการเมืองท้องถิ่นจะเป็นฐานสู่การเมืองระดับชาติด้วยใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวีตอบว่า ต้องแยกจากกัน แต่ถือเป็นข้อมูลที่ดีที่การเมืองระดับชาติต้องเอาไปใช้เป็นกรณีศึกษา อย่างน้อยก็สะท้อนถึงพรรคการเมืองที่เป็นที่นิยมของประชาชนในพื้นที่
“ทักษิณ” ผนึก “อันวาร์” ชูอาเซียน
วันเดียวกัน นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การเดินทางไปประเทศมาเลเซียของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เพื่อพบนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ทราบว่ามีการโฟกัสเรื่องการแก้ไขปัญหาในเมียนมา นับเป็นเรื่องน่ายินดีถือว่ามาถูกทาง เชื่อมั่นว่าประสบการณ์และคอนเนกชันของนายทักษิณ จะช่วยคลี่คลายปัญหาและสร้างสันติภาพในเมียนมาได้ เพราะปัญหาเมียนมากระทบต่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของอาเซียนมานาน ปัญหาภายในเมียนมาเองกระทบกับไทยโดยตรง จึงมีความหวังกับการผนึกกำลังของนายอันวาร์ อิบราฮิม และนายทักษิณ กับชาติในอาเซียน 10 ประเทศ และร่วมมือกับประเทศมหาอำนาจในภูมิภาค เช่น จีน อินเดีย จะเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์เร็วขึ้น จะช่วยให้อาเซียนมีความเป็นปึกแผ่น และประเทศไทยไม่ต้องแบกรับภาระปัญหาจากประเทศเพื่อนบ้านอีกต่อไป
มั่นใจไร้หนอนบ่อนไส้ทำข้อมูลรั่ว
ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการนัดดินเนอร์พรรคร่วมฝ่ายค้าน วันที่ 7 ก.พ. เพื่อเตรียมความพร้อมยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า การนัดพูดคุยวันที่ 7 ก.พ. จะหารือถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อตรวจสอบพรรคร่วมรัฐบาล จะมีการแถลงข่าวหลังการรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะมีประเด็นซักฟอกกี่เรื่อง ต้องรอคุยในวิปรัฐบาลและประธานสภาผู้แทนราษฎร ถึงกรอบเวลาการอภิปรายด้วย แต่จะพยายามทำให้ครบถ้วนทุกประเด็นสำคัญ เบื้องต้นจะอภิปรายได้เดือน มี.ค. ส่วนข้อกังวลเรื่องข้อมูลอภิปรายรั่วไหล คงมีน้อย เพราะไม่ต้องส่งไฟล์พรีเซนเทชันให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบล่วงหน้า ทุกคนจะได้เห็นตอนอภิปรายพร้อมกัน เมื่อถามว่ามั่นใจว่าไม่มีหนอนบ่อนไส้ในพรรคร่วมฝ่ายค้าน นายปกรณ์วุฒิตอบว่า มั่นใจว่าไม่มี การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหานี้
ซักฟอกโยงผู้นำจิตวิญญาณรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวถามว่าการอภิปรายจะโยงไปถึงผู้นำจิตวิญญาณของรัฐบาลหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิตอบว่า คิดว่าไม่ใช่ตัวบุคคล แต่เป็นพฤติการณ์ที่เป็นไปตามหลักนิติรัฐ นิติธรรม หรือกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ ไม่ว่ากระทำต่อผู้ใด หากการกระทำของรัฐบาลทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ก็ต้องพูดโยงไปถึง ที่ผ่านมาการอภิปรายของพรรคก้าวไกล จนมาพรรคประชาชนจะกระจายทุกเรื่อง ไม่เน้นเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หากเป็นความบกพร่องของรัฐบาล จะอภิปรายหมด ส่วนขั้นตอนการยื่นให้องค์กรอิสระตรวจสอบหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีการพูดคุยกันแล้วว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ เมื่อถามว่านายกฯเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งไม่นาน มีประเด็นที่มีน้ำหนักเพียงพออภิปรายหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิตอบว่า พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลมา 1 ปีครึ่งไม่ว่าใครเป็นนายกฯ แต่รัฐมนตรีหลายคนอยู่ในตำแหน่งมาเกิน 1 ปี มองว่านายกฯทั้ง 2 คนของพรรคเพื่อไทย น่าจะใช้นโยบายพรรคเพื่อไทยเหมือนกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างคิด
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่