“อนุทิน” แจงต้องรอคำสั่งจาก “ภูมิธรรม” ให้ตัดไฟเมียนมา ย้ำ กฟภ. หยุดจ่ายไฟเองไม่ได้ ต้องมีกฎหมายรองรับ ยัน พร้อมทำตามทันที ชี้ ไม่ใช่เรื่องใหม่ อดีตเคยตัดมาแล้ว 3 จุด
วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุ สามารถออกสั่งตัดไฟในชายแดนเมียนมาได้เลย ว่า รอทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ชี้แจงดีที่สุด เนื่องจากเมื่อวาน (3 กุมภาพันธ์ 2568) ได้มีการประชุมเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทุกหน่วยงานที่ไปประชุมมีความเห็นตรงกันว่าจะให้ทาง สมช. รวบรวมข้อมูลทั้งหมดและนำเสนอ นายภูมิธรรม ในฐานะประธานสมช. ฉะนั้นหากมีข้อสั่งการอย่างไรมาก็พร้อมที่จะปฏิบัติตาม แต่ไม่ใช่ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จะไปหยุดจ่ายไฟเองได้ทันที ซึ่งไม่ใช่อย่างแน่นอน พร้อมย้ำว่าหากนายภูมิธรรมเซ็นคำสั่งเราก็พร้อมที่จะตัดไฟในทันที เพราะถือเป็นการสั่งการที่มีกฎหมายรองรับ

...
ส่วนกรณีที่ สมช. บอกว่าจะต้องมีหลักฐานต่างๆ ก่อนตัดไฟนั้น นายอนุทิน กล่าวย้ำว่า สมช. เรียกประชุมและมีข้อสรุปออกมาเรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกันคนที่ไปประชุมก็ได้รายงานกลับมาให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว พร้อมยกตัวอย่างในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ก็มี นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ไปร่วมประชุม และให้ความเห็นในส่วนของกระทรวงมหาดไทยด้วย ซึ่งทุกฝ่ายก็ให้การยอมรับ โดย สมช. บอกจะรวบรวมทุกอย่างและนำเสนอ นายภูมิธรรม ฉะนั้น ต้องมีการสั่งการลงมาก่อน ยืนยันว่าเราพร้อมปฏิบัติอยู่แล้ว

ส่วนประเด็นคำถามหากมีการตัดไฟ จะตัดในพื้นที่ใดนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ให้เป็นไปตามรายงาน แต่วันนี้ยังไม่มีคำสั่งอะไรมา และยังไม่มีการชี้จุดเลยว่าแหล่งที่ทำผิดกฎหมายที่ใช้ไฟจากประเทศไทยเกิดผลเสียหายและกระทบกับประเทศไทยอยู่ตรงจุดไหนบ้าง ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาเคยตัดไฟฟ้าไปแล้ว 3 แห่ง เพราะฉะนั้น การตัดไฟฟ้าจากประเทศไทยที่พิสูจน์ทราบได้ชัดและมีการแจ้งมาอย่างถูกต้องได้ดำเนินการไปแล้ว ไม่ใช่เรื่องใหม่ และหากจะมีการตัดไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจะต้องมีการแจ้งมาอย่างถูกต้อง
เมื่อถามย้ำว่า นายภูมิธรรม บอกจะตัดไฟฟ้าวันนี้ ยังไม่เห็นรายละเอียดใช่หรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า ยังไม่เห็นรายละเอียด ท่านต้องแจงกับกระทรวงมหาดไทยและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สำหรับระยะในการแจ้งต้องเป็นภายในกี่วันต้องถามนายภูมิธรรม เพราะเมื่อท่านได้รับรายงานจะต้องพิจารณาและค่อยสั่งการมา.
