“วิโรจน์” พาญาติ 4 ลูกเรือประมงไทย ไปเกาะสอง ฉะ ก.ต่างประเทศ ไม่เอาใส่ใจ-ขาดความกระตือรือร้น ถาม “มาริษ” ทำเรื่องอภัยโทษหรือยัง จ่อทำหนังสือถึง “นายกฯ อิ๊งค์” ญาติเผยไม่เคยได้รับการประสานจาก กต.

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน โพสต์ภาพและข้อความบนเฟซบุ๊ก ถึงกรณีลูกเรือประมงไทยที่ถูกจับกุมที่เกาะสอง โดยระบุว่า อุปสรรคใหญ่คือกระทรวงการต่างประเทศไม่เอาใส่ใจ และขาดความกระตือรือร้น

นายวิโรจน์ ระบุต่อไปว่า วันนี้ตนและคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ตลอดจนญาติของลูกเรือประมงไทยทั้ง 4 คน เดินทางไปที่ จ.เกาะสอง ประเทศเมียนมา เพื่อเข้าพบ ท่านชิส่วย ผู้บัญชาการเรือนจำเกาะสอง โดยก่อนเดินทาง จากการประสานงานกับกรมเอเชียตะวันออก โต๊ะเมียนมา กมธ.การทหาร พบปัญหาว่ากระทรวงการต่างประเทศได้ส่งหนังสือประสานไปยังรัฐบาลกลางเมียนมาเท่านั้น แต่ยังไม่ได้ประสานไปยังเรือนจำเกาะสอง ทาง กมธ.การทหาร จึงได้ขอให้กระทรวงการต่างประเทศเร่งประสานให้ทางเรือนจำเกาะสองทราบถึงภารกิจของ กมธ. ในครั้งนี้ด้วย

...

แต่ปัญหาการประสานงานก็ยังเกิดขึ้น เมื่อตนได้ทราบเรื่องจากการประชุมร่วมกันกับผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ทัพเรือภาคที่ 3 ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ศูนย์ประสานงานประมงชายแดนทางทะเล ไทย-เมียนมา (ศปชล.ทม.) คณะกรรมการส่วนท้องถิ่นชายแดนไทย-เมียนมา (TBC) ว่าทางกระทรวงการต่างประเทศ ไม่ได้ประสานแจ้งมายัง TBC ด้วยความกรุณาของ พ.อ.อภิชัย เรืองฤทธิ์ ประธาน TBC ฝั่งไทย ที่ช่วยประสานต่อไปยัง TBC ฝั่งเมียนมา และผู้ว่าฯ จ.เกาะสอง จึงทำให้ กมธ.การทหาร พร้อมผู้ติดตามสามารถเดินทางไปยังเรือนจำเกาะสองได้สำเร็จในที่สุด

จากการหารือกับ ท่านชิส่วย ผบ.เรือนจำเกาะสอง ทราบว่าปัจจุบันเรือนจำเมียนมาอนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมลูกเรือประมงไทยในแต่ละเดือนได้ 3 วัน ได้แก่ วันที่ 5, 17 และ 30 ส่วนจะให้เข้าเยี่ยมได้ 3 วัน หรือเลือก 1 ใน 3 ทางผบ.เรือนจำเกาะสอง จะตรวจสอบยืนยันอีกครั้งหนึ่ง และเมื่อได้รับการยืนยันแล้วจะมีการทำหนังสือให้กับทางการไทยรับทราบ

สำหรับการขอเข้าเยี่ยม ผบ.เรือนจำเกาะสอง พร้อมอำนวยความสะดวกให้ โดยขอให้ประสานแจ้งล่วงหน้าเพียง 1 วัน ก็พร้อมจะอนุญาตให้ ส่วนเรื่องโรคประจำตัวของลูกเรือประมงไทยทั้ง 4 คน ทั้งโรคความดันโลหิตสูง และโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ผบ.เรือนจำเกาะสอง ยืนยันว่าลูกเรือประมงไทยทั้ง 4 คน ได้พบแพทย์และรับประทานยาเป็นประจำ

“ผมได้ฝากให้ทาง ผบ.เรือนจำเกาะสอง ได้ช่วยดูแลลูกเรือประมงไทยทั้ง 4 ชีวิตอย่างใกล้ชิดด้วย เนื่องจากทั้ง 4 คน ล้วนเป็นผู้สูงอายุ ซึ่ง ผบ.เรือนจำเกาะสอง ได้รับปากว่าจะดูแลให้ดีที่สุด ไม่ต้องเป็นกังวล”

จากนั้น กมธ.การทหาร และคณะเดินทางกลับมายัง จ.ระนอง ตนยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกคน ทุกหน่วยที่ จ.ระนอง ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่และดีที่สุดแล้ว แต่อุปสรรคที่เกิดขึ้นทั้งมวลล้วนเกิดจากการไม่เอาใจใส่และการขาดความกระตือรือร้นของกระทรวงการต่างประเทศที่ควรจะทำให้ดีกว่านี้ได้ อีกทั้งที่ผ่านมาทางญาติต่างให้ข้อมูลที่ตรงกันว่าไม่เคยได้รับการประสานใดๆ จากกระทรวงการต่างประเทศ ไม่มีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงแจ้งให้ทราบว่าได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่คนใดเป็นช่องทางการติดต่อในการแจ้งให้ทราบถึงความคืบหน้า

เบื้องต้นต้องขอบคุณ น.อ.ชำนาญ นบนอบ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานประมงชายแดนทางทะเลไทย-เมียนมา (ศปชล.ทม.) ที่ขันอาสารับเป็นผู้ประสาน และเป็นช่องทางในการติดต่อประสานให้ จนกว่ากระทรวงการต่างประเทศจะมอบหมายให้มีผู้ที่รับผิดชอบอย่างชัดเจน โดยหลังจากนี้ตนในฐานะประธาน กมธ.การทหาร จะทำหนังสือขอเข้าพบ คุณมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นการเร่งด่วน โดยจะขออนุญาตพาญาติของลูกเรือประมงไทยเข้าพบด้วย เนื่องจากตนได้ไปเยี่ยมลูกเรือประมงไทยด้วยตนเองแล้ว ในขณะที่ นายมาริษ ยังไม่เคยไป เชื่อว่าข้อเท็จจริงโดยเฉพาะปัญหาที่เกิดจากความไม่เอาใจใส่ของกระทรวงการต่างประเทศ น่าจะเป็นประโยชน์ที่ นายมาริษ จะได้นำไปปรับปรุงการทำงานของทั้งตนเอง และระบบงานของกระทรวงการต่างประเทศได้ และจะขอสอบถามใน 2 ประเด็นสำคัญ คือ

1. กระทรวงการต่างประเทศ จะมอบหมายให้มีเจ้าหน้าที่ที่คอยทำหน้าที่ประสานแจ้งความคืบหน้ากับญาติของลูกเรือประมงไทยได้เมื่อใด เพราะปัจจุบันญาติของลูกเรือประมงไทยอยู่ในสภาวะที่ถูกทอดทิ้ง ขาดการเหลียวแลจากกระทรวงการต่างประเทศ

2. กระทรวงการต่างประเทศ ได้ทำเรื่องขออภัยโทษให้แก่ลูกเรือประมงไทยทั้ง 4 ชีวิตแล้วหรือยัง นับจากนี้ยังต้องมีขั้นตอนใดที่ต้องดำเนินการบ้าง และมีเงื่อนไขใดบ้างที่ลูกเรือประมงไทยทั้ง 4 คนจะได้รับการปล่อยตัว และมีกำหนดการคร่าวๆ หรือไม่ อย่างไร

“หลังจากเดินทางกลับ ผมจะเร่งทำหนังสือถึงคุณมาริษทันที โดยจะทำหนังสือเรียนให้ท่านนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ให้รับทราบด้วย”