เลขาฯ กกต. แถลงสรุปภาพรวมการเลือกตั้ง อบจ. 2568 ผู้ใช้สิทธิต่ำกว่าคาด เผย 4 เขตใน 4 จังหวัด เตรียมเลือกตั้ง ส.อบจ. ใหม่ พร้อมแจงปมบัตรเสียอื้อ ไม่ต่างจากเลือกตั้งครั้งก่อนมาก
เมื่อเวลา 09.56 น. วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง สรุปภาพรวมการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) เมื่อวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา
ภาพรวมผู้มีสิทธิเลือกตั้งนายก อบจ. (จำนวน 47 จังหวัด)
- จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 27,991,587 คน
- มีผู้มาใช้สิทธิ 16,362,185 คน คิดเป็น 58.45 เปอร์เซ็นต์
- บัตรดี 14,272,694 ใบ คิดเป็น 87.23 เปอร์เซ็นต์
- บัตรเสีย 931,290 ใบ คิดเป็น 5.69 เปอร์เซ็นต์
- บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 1,158,201 ใบ คิดเป็น 7.08 เปอร์เซ็นต์
ภาพรวมผู้มีสิทธิสมาชิกสภา อบจ. (จำนวน 76 จังหวัด)
- จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 47,124,842 คน
- มีผู้มาใช้สิทธิ 26,418,754 คน คิดเป็น 56.06 เปอร์เซ็นต์
- บัตรดี 23,131,324 ใบ คิดเป็น 87.56 เปอร์เซ็นต์
- บัตรเสีย 1,488,086 ใบ คิดเป็น 5.63 เปอร์เซ็นต์
- บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 1,799,344 ใบ คิดเป็น 6.81 เปอร์เซ็นต์

...
จังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภา อบจ. และนายก อบจ. (จำนวน 47 จังหวัด) มากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1. ลำพูน คิดเป็น 73.43 เปอร์เซ็นต์
2. นครนายก คิดเป็น 73.00 เปอร์เซ็นต์
3. พัทลุง คิดเป็น 72.56 เปอร์เซ็นต์
4. นราธิวาส คิดเป็น 68.42 เปอร์เซ็นต์
5. มุกดาหาร คิดเป็น 68.03 เปอร์เซ็นต์
จังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภา อบจ. (29 จังหวัด) มากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1. พะเยา คิดเป็น 61.68 เปอร์เซ็นต์
2. เลย คิดเป็น 58.04 เปอร์เซ็นต์
3. เพชรบุรี คิดเป็น 57.44 เปอร์เซ็นต์
4. ยโสธร คิดเป็น 56.72 เปอร์เซ็นต์
5. ชัยนาท คิดเป็น 56.63 เปอร์เซ็นต์
ส่วนจังหวัดที่ต้องประกาศให้มีการเลือกตั้ง ส.อบจ. ใหม่ มี 4 เขตเลือกตั้ง โดยมีเหตุจาก 2 กรณี
1. กรณีที่ไม่มีผู้สมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากผู้สมัครมีลักษณะต้องห้าม อยู่ระหว่างการถูกจำกัดสิทธิ เนื่องจากไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ตามมาตรา 50 (20) แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 จำนวน 1 เขตเลือกตั้ง ได้แก่ จังหวัดชัยนาท อำเภอวัดสิงห์ เขตเลือกตั้งที่ 1
2. กรณีได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งไม่มากกว่าคะแนนเสียงที่ไม่เลือกผู้ใด จำนวน 3 เขตเลือกตั้ง ดังนี้
- จังหวัดสุพรรณบุรี อำเภอเมืองสุพรรณบุรี เขตเลือกตั้งที่ 1
- จังหวัดตรัง อำเภอเมืองตรัง เขตเลือกตั้งที่ 2
- จังหวัดชุมพร อำเภอสวี เขตเลือกตั้งที่ 4

สำหรับการดำเนินการให้มีการเลือกตั้ง ส.อบจ. ทั้ง 4 เขตเลือกตั้ง ใน 4 จังหวัด ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทั้ง 4 จังหวัด จะต้องประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 7 วัน นับแต่วันเลือกตั้ง และดำเนินการรับสมัครใหม่ในเขตเลือกตั้ง และกำหนดวันเลือกตั้งไม่เกิน 45 วัน
ขณะเดียวกัน นายแสวง ยังชี้แจงประเด็นการเลือกตั้งวันเสาร์ ว่า เรามีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายที่ต้องจัดการเลือกตั้งใน 45 วัน จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏมี 6 จังหวัดที่ส่งหน่วยเลือกตั้งเกินเวลา 24.00 น. ซึ่งเป็นเส้นทางที่ทุรกันดารและเป็นเกาะ ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว
ในเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัยของกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) เนื่องด้วยเส้นทางทุรกันดาร และระยะไกล บวกกับเป็นช่วงกลางคืน จะมีอุบัติเหตุทุกครั้ง และครั้งนี้ก็มีอุบัติเหตุและ กปน. เสียชีวิตในระหว่างการส่งรายงานหีบบัตร ยืนยันว่าเราให้ความสำคัญกับชีวิตคน กปน. เสียสละมาทำงานให้เรา จึงต้องจัดเลือกตั้งในวันที่ไม่ไปกดดัน กปน. ในการส่งหีบบัตรหลังนับคะแนนเสร็จภายใน 3-4 ชั่วโมงในถิ่นทุรกันดาร ซึ่ง กกต. ขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตและจะดูแลตามสิทธิที่พึงจะได้รับ
“การเลือกตั้งวันเสาร์ เราก็ได้คำนึงถึงว่ามันกระทบถึงความเที่ยงธรรมในการจัดการเลือกตั้งหรือไม่ เมื่อพิจารณาแล้ว เวลาเลือกตั้งเราก็ได้จัดการเลือกตั้งโดยใช้กติกาเดียวกัน บัญชีผู้มีสิทธิเลือกตั้งเดียวกัน หาเสียงในเวลาเดียวกัน ก็เป็นการยุติธรรมกับผู้สมัครทุกคน”

สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ จำนวนผู้มาใช้สิทธิอาจจะน้อยลงจากครั้งก่อนประมาณ 4% แต่หากเทียบการกับการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่เลือกตั้ง 29 จังหวัด พบว่าตัวเลขผู้มีสิทธิเลือกตั้งอาจจะน้อยลง เพราะมีการเลือกตั้งนายก อบจ. ไปก่อนแล้ว 29 จังหวัด จึงอาจจะกระทบการออกไปใช้สิทธิอยู่บ้าง
ขณะที่ประเด็น “บัตรเสีย” นายแสวง ชี้แจงว่า ไม่ได้ต่างจากปี 2563 โดยบัตรเสียของการเลือกตั้งนายก อบจ. นั้นใกล้เคียงกัน แต่บัตรเสีย ส.อบจ. ลดน้อยลง ซึ่งในเรื่องบัตรเสียจากการวิเคราะห์ข้อมูลจาก อบจ. ตรวจสอบเบื้องต้น อาจจะเกิดจากตัวระบบเอง คือเบอร์ผู้สมัครที่อาจทำให้ประชาชนเกิดความสับสน อาจมีการกาในช่องที่ไม่มีผู้สมัคร เนื่องจากบางเขตผู้สมัครนายก อบจ. มากกว่าผู้สมัคร ส.อบจ. และบางเขตผู้สมัคร ส.อบจ. มากกว่าผู้สมัครนายก นอกจากนั้นจะเป็นการทำเครื่องหมาย หรืออาจตั้งใจทำให้เป็นบัตรเสียก็มีแต่ส่วนน้อย มองว่าเป็นปัญหาในเชิงระบบด้วย
ทางด้านกรณี “บัตรไม่ประสงค์เลือกผู้สมัครผู้ใด” ที่มีจำนวนมากเช่นกัน เลขาฯ กกต. กล่าวว่า ในส่วนนี้เป็นช่องการแสดงความรู้สึกของประชาชนต่อผู้สมัคร หรือต่อการเลือกตั้งก็ได้ ส่วนประเด็นการนับคะแนน ได้รับรายงานบางส่วนว่าอาจจะมีจำนวนบัตรกับผู้มาใช้สิทธิไม่ตรงกันประมาณ 4-5 แห่ง โดยต้องรอจังหวัดส่งเรื่องมาให้ กกต. พิจารณาว่าจะมีการนับคะแนนใหม่หรือไม่
จากนั้นผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีพรรคประชาชนจะขอนับคะแนนใหม่ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.สมุทรปราการ เนื่องจากบัตรเสียมีจำนวนมากนั้น นายแสวง ระบุสั้นๆ ว่า ต้องดูว่าในช่วงการนับคะแนนมีการทักท้วงหรือไม่ ขณะที่คำถามเรื่องการทุจริตซื้อเสียง เลขาฯ กกต. ระบุว่า ขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนเข้ามา 180 เรื่อง ทั้งเรื่องการจัดการการเลือกตั้ง และการทุจริตเกี่ยวกับการเลือกตั้ง.


