เลือกตั้ง อบจ. 2568 “พันธุ์อาจ” พร้อมว่าที่ ส.อบจ.เชียงใหม่ พรรคประชาชน ขึ้นรถแห่ขอบคุณคะแนน แม้ชวดเก้าอี้นายก เตรียมหารือ กกต. ขอนับคะแนนใหม่ หลังบัตรเสียและบัตรไม่ลงคะแนน รวมกันเกือบ 1 แสนใบ
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568 นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ อดีตผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ขึ้นรถแห่ขอบคุณคนเชียงใหม่ที่มอบคะแนนให้ในการเลือกตั้ง อบจ. เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 พร้อมว่าที่สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) พรรคประชาชนเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) เชียงใหม่ เขต 1 นางสาวเพชรรัตน์ ใหม่ชมภู โดยตลอดเส้นทางที่รถของนายพันธุ์อาจเคลื่อนผ่านมีประชาชนโบกมือให้กำลังใจ พร้อมชูมือบอกว่าสู้ๆ
นายพันธุ์อาจ กล่าวถึงคะแนนที่ออกมา ถือว่าผลการเลือก อบจ.เชียงใหม่ พรรคประชาชนทำได้ดี เพราะได้ว่าที่ ส.อบจ. 15 คน เป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของพรรคประชาชน ส่วนบัตรเสียที่มีมากถึง 41,000 กว่าใบ และผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนนอีกกว่า 57,000 ใบ เราก็ได้หารือกันตั้งแต่เมื่อคืนเพราะตัวเลขบัตรเสียค่อนข้างสูง โดยจะหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าแนวทางเหล่านี้จะมีอย่างไรบ้าง และจะหารือกับพรรคประชาชนเพื่อดำเนินการกับบัตรเสีย และขอตรวจสอบทั้งบัตรเสียและผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนน เพราะหากรวมกันแล้วก็เกือบ 100,000 คะแนน ว่าเพราะเหตุผลใดถึงได้มีมากขนาดนี้
ทั้งนี้ เชื่อว่าประชาชนก็คงมีข้อสงสัยสิ่งเหล่านี้เหมือนกัน และจากการเข้าไปดูคอมเมนต์ในโซเชียลมีเดียก็จะมี 2 ประเด็น คือ คะแนนที่ห่างกันแค่ 20,000 กว่าคะแนน และบัตรเสียคนเชียงใหม่มีข้อสงสัยเรื่องนี้มากพอสมควร ขณะเดียวกัน ก็เริ่มมีหลายคนส่งข้อมูลมาให้ ก็จะรวบรวมเพื่อนำไปพร้อมกับ กกต.จังหวัด พร้อมกันนี้ ยอมรับว่ารู้สึกเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้เข้ามาบริหารเชียงใหม่ แต่ 4 ปีข้างหน้าก็ยังทำงานในบทบาทอื่นตามนโยบายที่ได้วางไว้ทำงานในพรรคการเมืองที่ชื่อพรรคประชาชนร่วมกับ ส.อบจ. และ สส.
...

ทางด้าน นางสาวเพชรรัตน์ ระบุว่า จะต้องถอดบทเรียนในเขตที่มี สส. แต่ไม่ได้ ส.อบจ. ต้องมาดูคะแนนกันอีกทีว่าผิดพลาดตรงไหน ต้องมีนโยบายหรือวิธีที่จะอุดช่องโหว่ ส่วนเขตไหนที่มี สส.แล้ว และได้ ส.อบจ.ด้วย ก็ต้องทำงานหนักขึ้น และให้ ส.อบจ.ในเขตนั้นมีผลงาน รวมถึงขยายผลในการเลือกตั้ง อบจ. ในสมัยหน้า ให้มี ส.อบจ.เพิ่ม และได้นายก อบจ.
อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่าพรรคประชาชนยังอยู่ในใจของคนเชียงใหม่และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น คนเชียงใหม่มีความตื่นตัวในการออกมาเลือกตั้งท้องถิ่นเพิ่มมากขึ้น และหากเปรียบเทียบกับการเลือกตั้ง อบจ. เมื่อปี 2563 คณะก้าวหน้าก็ไม่ได้ส่งผู้สมัครลงแข่งขันระหว่างกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรมกับพรรคเพื่อไทย เมื่อเปรียบเทียบคะแนนกันแล้วถือว่าพรรคประชาชนทำได้ดีมาก คะแนนคนที่ชนะกับคนที่ได้ที่ 2 ห่างกันเล็กน้อย ผู้ที่ชนะได้คะแนนไม่ถึง 400,000 คะแนน สะท้อนให้เห็นว่ามีมิติสำคัญว่าประชาชนชาวเชียงใหม่ต้องการความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง และแม้พรรคประชาชนจะไม่ได้ตำแหน่งนายก อบจ.เชียงใหม่ แต่ยังมีการเลือกเทศบาลนคร ให้ประชาชนได้ตัดสินใจอีกครั้ง.

