“วิสุทธิ์” ฉุน สว. ติงรัฐบาลบริหารประเทศที่ไร้เดียงสาปราบฝุ่น PM 2.5 “สงคราม” ซัดฝ่ายค้าน ไม่เคยเป็นรัฐบาลเลยดีแต่พูด ดิสเครดิตรัฐบาลหวังผลการเมือง แต่ไม่ช่วยกันแก้ปัญหาให้ประชาชน
วันที่ 27 มกราคม 2568 นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวที่รัฐสภา ถึงการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ของรัฐบาล ว่า วันนี้ค่าฝุ่นดีขึ้น หลังกระทรวงคมนาคมออกนโยบายขึ้นรถไฟฟ้าและรถเมล์ฟรี 7 วัน มีการประสานงานให้ชะลอการก่อสร้างที่เกิดมลพิษ กทม. ขณะที่ต่างจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอความร่วมมือลดการเผา งดซื้ออ้อยเผาไหม้ เชื่อว่าขณะนี้สถานการณ์ดีขึ้น
ส่วนที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ระบุว่ามาตรการแก้ปัญหาของรัฐบาลไม่ดีพอ ทำให้คนไทยต้องเผชิญชะตากรรมการบริหารประเทศที่ไร้เดียงสานั้น นายวิสุทธิ์ ระบุว่า สว. ที่มีความรู้บอกมาเลยว่าจะให้แก้อย่างไร เป็นนักการเมืองไม่ใช่มาสร้างวาทกรรมด่ากัน รัฐบาลแก้ปัญหาเต็มที่ ปัญหาดังกล่าวไม่ได้เกิดในประเทศไทยเท่านั้น จะให้แก้ไขอะไรก็พูดกันดีๆ ใช้วาจาด้อยค่าไม่เหมาะสมเป็นนักการเมือง สว. คนไหนว่ารัฐบาลไร้เดียงสา ไม่ใช่นักการเมืองที่ดี
...
ทางด้าน นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เปิดเผยถึงกรณีที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร รวมทั้ง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล และอดีตที่ปรึกษาประธานคณะก้าวหน้า ที่ออกมากล่าวโจมตีรัฐบาลล้มเหลว ล่าช้า เรื่องมาตรการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 อยากบอกฝ่ายค้านว่า ที่ผ่านมานางสาวแพทองธาร ให้ความสำคัญมากกับปัญหาฝุ่น มีการเตรียมการตั้งแต่ปีที่ผ่านมา แต่ที่พรรคประชาชนนำมาโจมตีรัฐบาลเพื่อต้องการดิสเครดิตหวังคะแนนเสียงในการเลือกตั้งท้องถิ่น มากกว่าที่จะเสนอมาตรการในการแก้ปัญหาให้กับรัฐบาล เน้นโจมตี แต่ไม่เน้นการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา
นายสงคราม กล่าวต่อไปว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาระดับชาติ ทุกรัฐบาลหาแนวทางในการแก้ปัญหามาโดยตลอด แทนที่พรรคฝ่ายค้านจะมุ่งโจมตี ควรต้องร่วมกันทำงานเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนจะดีกว่า ซึ่งปัญหาฝุ่นควันพิษ PM 2.5 มีหลากหลายปัญหา ทั้งจากในประเทศและบางพื้นที่เป็นฝุ่นที่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่ผ่านมารัฐบาลจะใช้การประสานงานประเทศที่ติดกับไทยให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาที่ต้นตอ อาทิ การเผาในพื้นที่การเกษตรก็ได้มีการนำเทคโนโลยีการเกษตรเข้าไปสนับสนุน เพื่อให้ละเว้นจากการเผา
“การวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล หากเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ พร้อมเสนอแนะแนวทางแก้ปัญหาจะเป็นประโยชน์กับประชาชนมหาศาล แต่ที่ผ่านมาฝ่ายค้านจะมุ่งในการโจมตีการทำงานของรัฐบาล หรือแซะรัฐบาลมากกว่า ทั้งนี้ รัฐบาลทำทุกมาตรการเพื่อแก้ปัญหาฝุ่นพิษ ที่ผ่านมานางสาวแพทองธาร ให้ความสำคัญและจริงใจกับการแก้ปัญหามาโดยตลอด แต่ปัญหาใหญ่มากจึงต้องบูรณาการการทำงานร่วมกันทุกฝ่าย ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านแซะรัฐบาล เพราะไม่เคยบริหารประเทศจึงไม่รู้ว่าการทำงานบริหารราชการแผ่นดินไม่ง่ายเหมือนทำงานด้วยปาก ดีแต่พูด อย่างที่พรรคฝ่ายค้านกำลังทำ”