“ทิม พิธา” อ้อนแรง บอกเมาฝุ่น พอมาเจอพี่น้องจันทบุรีกลับหายเลย บอกไม่กลัวคู่แข่ง แต่กลัวแรงเฉื่อยทางการเมือง ให้กำลังใจ “เท้ง” ใช้ตำแหน่ง “ผู้นำฝ่ายค้าน” หาทางออก PM 2.5 ด้าน “ธนาธร” โพสต์ภาพเอกสารแนะนำตัวผู้สมัครอบจ.ส้ม ที่สมุทรปราการมีปัญหา

วันที่ 24 ม.ค. 2568 พรรคประชาชน นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง, นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรค, นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรค และทีม อบจ.จันทบุรี จัดเวทีปราศรัยช่วยนายมานะ ชนะสิทธิ์ ผู้สมัครนายก อบจ.จันทบุรี ภายใต้แนวคิด “มานะ ชนะสิ”

ทันทีที่นายพิธาขึ้นปราศรัย ได้มีชาวจันทบุรีนำดอกไม้สีส้ม พวงมาลัยดอกดาวเรืองมามอบให้ รวมถึงส่งเสียงกรี๊ด ตะโกนเชียร์ โดยนายพิธากล่าวว่า “นานแล้วนะที่เราไม่ได้เจอกัน คิดถึงมากๆ เลย พอพี่มานะชวนมามาเลยทันที”

นายพิธากล่าวต่อว่า วันนี้ดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเยือนจันทบุรีอีกครั้ง จันทบุรีสีส้ม ตอนปี 2566 พี่น้องชาวจันทบุรีให้ความไว้วางใจพวกเรา อดีตพรรคก้าวไกล 3 เขต มาเป็นอันดับหนึ่ง แต่ที่มากไปกว่านั้นคือการเข้าพื้นที่จันทบุรีมาก็เจอฝุ่น

“ถ้าวันนี้ปราศรัยไม่ค่อยรู้เรื่อง แสดงว่าเมาฝุ่นอยู่ แต่พอเจอหน้าพ่อแม่พี่น้อง หายเมาเลย” นายพิธากล่าว

นายพิธากล่าวอีกว่า นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรคประชาชน มาเป็นมาสคอตให้จันทบุรีไม่ยอมกลับ กทม. ตนจึงถามว่าจันทบุรีมีดีอะไร แกบอกว่าบอกไม่ได้จริงๆ ต้องมาอยู่ประจำหาเสียงแบบแนวลึก เพื่อจะได้มีโอกาสเปลี่ยนแปลงจันทบุรี ดังนั้น ต้องกาหมายเลข 1 เท่านั้น หมายเลขอื่นลืมไปได้เลย

“ก่อนมาถึงที่นี่ พิธาทำการบ้านมาแล้ว ทั้งประเทศไทย GDP ที่มาจากการเกษตร จันทบุรีตัวเลขไปแล้ว 50% ขอทั้ง อบจ.ตราด และจันทบุรี 2 จังหวัดได้หรือไม่” นายพิธากล่าว

...

นายพิธาระบุว่า ที่นี่ทุเรียนไม่เป็นรองใคร อบจ. มีหน้าที่เปิดตลาดค้าขาย เลือกวันที่ 1 ก.พ. นี้ วันที่ 2 ก.พ. ทำงานได้เลย เรียกว่าคนรุ่นใหญ่และคนรุ่นใหม่รวมตัวกันมีประสบการณ์ ทำงานการเมืองมานาน จันทบุรีไม่เปลี่ยนตอนนี้ก็ไม่รู้จะเปลี่ยนตอนไหนแล้ว การเลือกตั้งท้องถิ่นมีความสำคัญมาก พร้อมย้ำแนวคิดเดิมว่า อบจ. ครู คลัง ช่าง หมอของจังหวัด

นายพิธาระบุว่า ผู้สมัคร อบจ. จันทบุรีมีแนวคิด 1 หมู่บ้าน 1 แหล่งน้ำ เพื่อจะให้ปลูกต้นไม้ ปลูกผักได้ แต่ปัญหายังมีอยู่ เลือกตั้งแบบท้องถิ่นเรียกล่วงหน้าไม่ได้ เลือกข้ามเขตไม่ได้ เลือกข้ามประเทศไม่ได้ พี่น้องจะต้องอยู่จันทบุรีแล้วมาเลือกตั้ง ต้องวางแผนล่วงหน้าเดินทางกลับมาที่จันทบุรี

“ไม่ได้กลัวคู่แข่ง กลัวแรงเฉื่อยทางการเมือง ประชาชนรู้สึกสิ้นหวัง ประชาชนรู้สึกว่าเบื่อจำเจ ซ้ำซาก ยิ่งถ้ารู้สึกเบื่อ รู้สึกเหนื่อยง่าย รู้สึกท้อแท้กับการเมือง เลือกไปกี่ครั้งก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ครั้งนี้เป็นครั้งสำคัญที่สุดที่ท่านจะต้องออกไปเข้าคูหาและเลือกตั้ง ถ้าเกิดมีคนไปใช้สิทธิ์น้อยการควบคุมการเลือกตั้งย่อมเกิดขึ้นได้ง่าย” นายพิธากล่าว

นายพิธาย้ำว่า จะชนะหรือแพ้อยู่ที่พี่น้องประชาชนชาวจันทบุรี ไม่ต้องเชื่อในตัวของตน แต่เชื่อในตัวพวกท่านเอง ถ้าประชาชนไม่ทิ้งพรรคประชาชน ตนเชื่อว่าพรรคประชาชนก็จะไม่ทิ้งพวกท่านเช่นเดียวกัน

“ขอส่งกำลังใจให้กับพ่อแม่พี่น้องประชาชนทั่วประเทศที่กำลังจมฝุ่นและเมาฝุ่นอยู่ตอนนี้ ขอส่งกำลังใจให้กับเพื่อนของผมทุกคน ขอส่งกำลังใจให้นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ขอให้เขาใช้ความสามารถและตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน ในการแก้ไขปัญหาเรื่องฝุ่น PM 2.5 ที่มันซ้ำซากจำเจ วนมาอย่างนี้ 4-5 ปีตลอดเวลา เพื่อสุขภาพ เพื่อเศรษฐกิจเพื่อสังคมที่ดีกว่าของคนไทย” นายพิธากล่าว

“ไอติม” ปลุก กา อบจ. ตั้งรัฐบาลพรรคส้มในจันทบุรี

ด้าน นายพริษฐ์ ปราศรัยตอนหนึ่งว่า จันทบุรีเป็นเมืองผลไม้ คิดว่าผลไม้ที่ขายดีที่สุดน่าจะเป็นส้มมากกว่า และขายดีนานมาแล้ว ตั้งแต่ปี 62 และปี 66 สส.พรรคส้ม ชนะยกจังหวัด โอกาสในการเปลี่ยนจังหวัดของท่านมาถึงแล้ว วันที่ 1 ก.พ. ปากกา ด้ามละ 10 บาท ในมือท่าน จะมีมูลค่าถึง 3,000 ล้านบาท ปากกาในมือท่าน จะเป็นตัวกำหนดว่านายก อบจ. และส.อบจ. จะผลักดันนโยบายและการใช้งบ 700 ล้านบาทใน 4 ปีข้างหน้าอย่างไร วันเสาร์ที่ 1 ก.พ.นี้ จึงไม่ใช่เวลาโยนปากกาทิ้ง แต่เป็นเวลาที่หยิบปากกาขึ้นมาขีดเขียนอนาคตไปด้วยกัน เพื่อใช้ปากกาตั้งรัฐบาลพรรคส้ม ในจันทบุรีไปด้วยกัน

“วิโรจน์” ขอคนจันทบุรี ได้เวลากา นายก อบจ. ด้วยความหวังแล้ว

ขณะที่นายวิโรจน์ ปราศรัยความตอนหนึ่งว่า ตนบอกกับพรรคว่าการเลือกตั้งท้องถิ่น หากเราต้องการได้ใจคนจันทบุรีต้องแสดงความตั้งใจที่อยากจะทำให้จังหวัดจันทบุรีดีขึ้นกว่านี้จริงๆ แกนนำพรรคอื่นอาจจะไปที่อื่นแต่ตนขอปักหลักอยู่ที่นี่ ตนไม่ได้สู้กับใครแต่สู้กับวลีหนึ่งที่ระบุว่า “จันทบุรีดีอยู่แล้ว” ในช่วงฤดูแล้งที่ชาวสวนทุเรียนขาดน้ำต้องซื้อน้ำวันละ 20,000 บาท เหมือนถูกกระชากสร้อยวันละ 2 สลึง ปัญหาช้างป่าที่บุกรุกสวนทุเรียนทำให้ชาวสวนสิ้นเนื้อประดาตัว ทุก 40 วันมีผู้ถูกช้างเหยียบเสียชีวิต 1 คน นี้หรือจันทบุรีที่ดีอยู่แล้วไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไร ไม่ต้องเดินหน้าไม่ต้องแก้ปัญหาแล้ว ส่วนแรงงานชาวสวนลำไยขาดแคลนต้องไปขึ้นทะเบียนแรงงาน ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเกือบ 6,000 บาท ล่าสุดปัญหาการนำทุเรียนไปจุ่มเบสิค เยลโล่ทู ที่จีนระงับการนำเข้าทุเรียน ทุเรียนไม่ใช่แค่ผลไม้แต่คือชีวิตความหวังอนาคตของคนจันทบุรี แต่ตนไม่เห็นการทำงานของอบจ. ที่กระตือรือร้นประสานงานกับสส. ในการแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจจริงจังเลย 1 ก.พ. ที่จะถึงหลายคนกำลังจะกาด้วยความกลัว แต่ตนยืนยันว่าได้เวลากาด้วยความหวังแล้ว

“ปิยบุตร-พรรณิการ์” ยกทัพหาเสียงมุกดาหาร ปลุกชาวบ้านกาเพื่อเปลี่ยน

วันเดียวกันนี้ นายปิยบุตร แสงกนกกุล และนางสาวพรรณิการ์ วานิช ผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน พร้อม สส. พรรคประชาชน ร่วมหาเสียงช่วย นายสุพจน์ สุอริยพงษ์ หรือทนายเล็ก ผู้สมัครนายก อบจ. มุกดาหาร เบอร์ 1 โดยมีการเปิดเวทีย่อยดาวกระจาย 4 เวที ใน 3 อำเภอ คือ อ.คำชะอี อ.หนองสูง และ อ.เมืองด้วย

“พรรคประชาชนไม่ได้ใช้เงินซื้อเสียง เข้าไปรับตำแหน่งจึงไม่ต้องถอนทุน สามารถนำงบประมาณมาใช้ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย หากประชาชนอยากกาเพื่อเปลี่ยนแปลง เอาเงินภาษีประชาชนมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับประชาชน ขอให้ออกมากาให้กับคุณสุพจน์ เบอร์ 1” นายปิยบุตร กล่าว

“ธนาธร” โพสต์ภาพเอกสารแนะนำตัวผู้สมัครอบจ.ส้ม ที่สมุทรปราการมีปัญหา

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคปชน. โพสต์เฟซบุ๊กเปิดเผยภาพป้ายแนะนำตัวผู้สมัครอบจ. สมุทรปราการ พรรคปชน.มีปัญหาหลายจุด คือ หน่วยเลือกตั้งที่ 24 ต.บางปูใหม่ หมู่ 9 ไม่มีการติดเอกสารแนะนำตัวเบอร์ 3 ผู้สมัครนายก อบจ. พรรคปชน. หน่วยเลือกตั้งที่ 35 ต.ปากคลองบางปลากด ผู้สมัคร สจ. พรรคปชน.เบอร์ 3 แต่เอกสารแนะนำตัว แปะเบอร์ 1-2-1-4 โดยไม่ได้ติดเบอร์ 3 รวมถึงต.บางพลีใหญ่ ติดเอกสารแนะนำตัวผู้สมัครเป็นปึก โดยมีผู้สมัครเบอร์ 1 อยู่ เป็นแผ่นแรก

นายธนาธร ยังระบุว่า การจัดการเลือกตั้งที่ไม่ยุติธรรม สะท้อนการเมืองแบบเดิมๆ เอกสารแนะนำตัวผู้สมัคร นายกอบจ. และ สจ. สมุทรปราการ พรรคปชน.ที่ติดอยู่หน้าหน่วยเลือกตั้ง บางหน่วยติดไม่ครบ ข้ามเบอร์ของผู้สมัครพรรคประชาชนไปเฉยๆ การทำแบบนี้ผิดกฎหมาย ผมได้สอบถามไปยังผู้สมัครรับเลือกตั้ง นายก อบจ. และ สจ. พรรคปชน. สมุทรปราการ ได้รับการยืนยันว่า พวกเขาจะดำเนินการอย่างถึงที่สุดตามกฎหมายต่อเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย โดยผ่านทาง กกต. นี่คืออนาคตที่คุณอยากเห็นหรือไม่? นี่คือสมุทรปราการ ที่คุณอยากให้ลูกหลานเติบโตมาและใช้ชีวิตอยู่หรือ? เสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ ไปเลือกตั้งกันครับ เลือกเพื่อเปลี่ยนสมุทรปราการ ให้ดีกว่านี้