“แทนคุณ จิตต์อิสระ” ยื่นหลักฐานต่อสภาฯ ให้เอาผิดทางจริยธรรม สส.หญิง สูบบุหรี่ไฟฟ้าในอาคาร ฝ่าฝืนกฎหมายบ้านเมือง ทั้งที่เป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้าในประเทศไทย แฉเพิ่ม มี สส. อีกหลายคนที่สูบ
วันที่ 16 มกราคม 2568 เวลา 10.00 น. ที่ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร รับยื่นหนังสือจากนายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม และคณะ เรื่อง ขอให้ดำเนินการทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่รัฐสภาและขอติดตามเรื่องการขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติความเหมาะสมและความมีส่วนได้เสียด้านผลประโยชน์ของกลุ่มผู้สนับสนุนบุหรี่ไฟฟ้าในการเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษากฎหมายและมาตรการควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย
นายแทนคุณ จิตต์อิสระ กล่าวว่า ตามที่มีภาพข่าวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งใช้บุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่รัฐสภาไทยซึ่งแม้เป็นพื้นที่สาธารณะอันอาจจัดเขตสูบบุหรี่ได้ตามพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 แต่เนื่องด้วย “บุหรี่ไฟฟ้า” เป็นสินค้าที่ต้องห้ามนำเข้าในประเทศไทยตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่องกำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 และห้ามขาย ห้ามบริการ ห้ามผลิตเพื่อขายตามคำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการ ที่ 24/2567 เรื่องห้ามผลิตเพื่อขาย ห้ามขาย หรือให้บริการสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าตลอดจนการครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ซึ่ง ส.ส.คนดังกล่าวอยู่ในฐานะเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ย่อมมีอิทธิพลต่อประชาชน ข้าราชการประจำ ที่ได้มีการกระทำในลักษณะตรวจสอบ
...
แต่กลับพบว่า ส.ส. คนนี้กลับฝ่าฝืนกฎหมายของบ้านเมืองเสียเอง ซึ่งมีภาพหลักฐานปรากฏว่ามีการสูบอยู่ในพื้นที่รัฐสภาอย่างชัดเจน การกระทำดังกล่าวที่ฝ่าฝืนข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ พ.ศ. 2563 ในหมวด 1 อุดมคติของการเป็นสมาชิกและกรรมาธิการ ข้อ 7 ที่บัญญัติว่า “สมาชิกและกรรมาธิการต้องรักษาไว้และปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยโดยเคร่งครัด” ซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 50(3) บัญญัติว่า “บุคคลมีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด” ซึ่งตามข้อ 29 ของข้อบังคับฯ เป็นการฝ่าฝืนหมวดที่ 1 ถือเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง” ดังนั้น จึงขอให้ทางประธานสภาผู้แทนราษฎรได้โปรดดำเนินการจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่ปรากฏภาพการใช้บุหรี่ไฟฟ้าต่อสื่อสาธารณะและสถานที่ราชการ ซึ่งเป็นสถานที่ออกกฎหมาย
นายแทนคุณยังกล่าวอีกว่า นอกจาก ส.ส. คนนี้แล้ว ยังพบว่ายังมีบุคคลที่เชื่อว่าเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกหลายท่านที่มีการสูบบุหรี่ไฟฟ้า พกพาหรือแสดงออกว่ามีการใช้บุหรี่ไฟฟ้าทั้งแบบเปิดเผยในที่สาธารณะ และนำไปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย ซึ่งการกระทำดังกล่าวย่อมขัดกับความรู้สึกของพี่น้องประชาชนที่ปฏิบัติตามกฎหมายโดยเคร่งครัด ก็จะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียของภาพลักษณ์ และข้อคุณสมบัติที่เหมาะสมของสภาผู้แทนราษฎรแห่งนี้ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อเด็ก เยาวชน ซึ่งก็มีแนวโน้มว่าจะปฏิบัติตามบุคคลที่เป็นไอดอลสำคัญทั้งการเมืองและสังคมในการเลียนแบบพฤติกรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งควรจะเป็นแบบอย่างที่ดีทั้งในและนอกสภา การนำสิ่งที่ผิดกฎหมายอยู่ในขณะนี้ ย่อมเป็นการไม่สมควร เพราะจะทำให้ข้าราชการซึ่งมีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าตลอดจนประชาชนที่เห็น จึงให้ความสำคัญ มีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่ให้ความสำคัญกับการควบคุมการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยเนื่องจากมีผลกระทบต่อสุขภาพโดยตรง
ด้านนายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ประเด็นนี้เป็นสิ่งที่ต้องค้นหาความจริง ทั้งในสิ่งที่ผู้ร้องได้นำเอาเรื่องของภาพถ่ายต่างๆ และจะนำเรียนประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อที่จะติดตามพฤติกรรมต่างๆ ของสมาชิก ในส่วนที่ทำไม่ถูกต้อง ในแง่ของจริยธรรม และทำไม่ถูกต้องในเรื่องของกฎหมายด้วย เพราะตัวสมาชิกนั้นเป็นแบบอย่างกับเยาวชนและสังคมด้วย