“คารม” เผย องค์การเภสัชกรรม เตรียมผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดนก ในระดับอุตสาหกรรม 1-4 แสนโดส/ปี สร้างความมั่นคงด้านวัคซีน รองรับการระบาดในสถานการณ์ฉุกเฉิน รัฐบาลยันพร้อมสนับสนุน

วันที่ 14 มกราคม 2568 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีการระบาดของโรคไข้หวัดนก (Avian influenza, AI) สายพันธุ์ A (H5) ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีการแพร่ระบาด จากข้อมูลสถิติองค์การอนามัยโลก (WHO; World Health Organization) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 - พ.ศ. 2567 พบว่ามีผู้ป่วยสะสม 889 ราย และเสียชีวิต 463 ราย จาก 23 ประเทศทั่วโลก แต่ยังไม่มีรายงานยืนยันการแพร่จากคนสู่คน

รองโฆษกรัฐบาลระบุต่อไปว่า ขณะนี้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) จัดทำแผนขยายกำลังการผลิตวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์ (H5N2) ชนิดเชื้อเป็น (Fluvac H5) เพื่อรองรับการระบาด (Emergency Use Authorization) โดยองค์การเภสัชกรรมมีแผนจะขยายกำลังการผลิตเพื่อขอรับใบอนุญาตในระดับอุตสาหกรรม และเพื่อพัฒนาการผลิตวัคซีนให้สอดคล้องกับมาตรฐานปัจจุบัน โดยจะดำเนินการผลิตวัคซีนจำนวน 100,000-400,000 โดสต่อปี เพื่อให้ได้ข้อมูลประกอบการยื่นขอทะเบียนตำรับ (Rolling submission) สำหรับการผลิตในระดับอุตสาหกรรมได้ภายในปี พ.ศ. 2568 ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยมีความพร้อมในการผลิตในระดับอุตสาหกรรม เพื่อเป็นการสร้างความมั่นคงด้านวัคซีนของประเทศในการรองรับการระบาดของโรคไข้หวัดนกในสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไป

...

สำหรับสถิติผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตสะสมจากโรคไข้หวัดนก (Avian influenza, AI) สายพันธุ์ A (H5N1) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 - พ.ศ. 2567 ในประเทศไทย พบว่ามีผู้ติดเชื้อจำนวน 25 คน และเสียชีวิตจำนวน 17 คน ส่วนสถิติของผู้ติดเชื้อทั่วโลกในช่วงปี พ.ศ. 2567 พบว่าในทวีปยุโรปและสหรัฐอเมริกา มีการระบาดของไข้หวัดนกสายพันธุ์ A (H5N1) ในกลุ่มเดียวกัน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อจากฟาร์มโคนม ฟาร์มสุกร และในฟาร์มกลุ่มสัตว์ปีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกา มีรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อจำนวน 66 คน ซึ่งส่วนมากเป็นผู้ที่ทำงานในฟาร์มโคนม โดยไม่มีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไข้หวัดนก H5N1 ในกลุ่มนี้

นายคารมระบุในช่วงท้ายว่า “การเตรียมความพร้อมเรื่องวัคซีนของประเทศไทยให้มีศักยภาพผ่านการผลิตภายในประเทศเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็น เพราะการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ๆ มีโอกาสเกิดขึ้นได้ทั่วโลก และมักพบอยู่ประปราย ซึ่งโอกาสที่ไวรัสจะเปลี่ยนสายพันธุ์ก็เกิดขึ้นได้เสมอ หากเกิดการระบาดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อวงกว้าง รัฐบาลมองเห็นถึงปัญหาและให้ความสำคัญ พร้อมสนับสนุนเตรียมความพร้อมในเรื่องดังกล่าวเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน”

(ภาพบางส่วนจากองค์การเภสัชกรรม)