เข้าสู่โค้งสุดท้าย 2 พรรคลุยแหลก “อิ๊งค์” นำทีมช่วยผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม อ้อน ขอเสียงมาช่วยปราบยาบ้า ลั่นเพื่อไทยมาใครยังจนอยู่รวยขึ้นแน่นอน แซะนักร้องเสียงดีจ้องจับผิดเยอะเหลือเกิน ยกสถานะ “คุณพ่อทักษิณ” เป็นพ่อใหญ่ “พิธา” บุกสันกำแพงบ้าน “ชินวัตร” ชิงนายก อบจ.เชียงใหม่ เชื่อคนเมืองเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนเลย สายน้ำไม่ไหลกลับ “เท้ง” ฟิตเดินทางภาคตะวันออก 3 จังหวัดรวด จันทบุรี-ระยอง-ชลบุรี “วิโรจน์” โวยถูกข่มขู่เอาชีวิต ผู้การจันทบุรีออกหน้าเคลียร์ให้ คู่กรณีขอโทษอ้างไม่มีเจตนา “เสี่ยอ้วน” โยนเป็นเรื่องของตำรวจ “ทวี” มั่นใจแจงปมชั้น 14 ได้ทุกช็อต
เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายหาเสียงเลือกตั้ง นายกอบจ.ทั่วประเทศ 2 พรรคใหญ่เร่งลุยหาเสียง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยกทีมชุดใหญ่ช่วยผู้สมัครฯ ที่ จ.นครพนม ขณะที่พรรคประชาชน แกนนำแบ่งทีมกันเดินสาย 3 จังหวัดในภาคตะวันออก และภาคเหนือ ที่ จ.เชียงใหม่
“อิ๊งค์” นำทีมลุยหาเสียงนครพนม
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 ม.ค.ที่สนามกีฬาเทศบาลตำบลนาแก อ.นาแก จ.นครพนม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) นำคณะประกอบด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ช่วยนายอนุชิต หงษาดี ผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม พรรคเพื่อไทย หาเสียง มีนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม และกลุ่มมวลชนผู้สนับสนุนมารอต้อนรับตั้งแต่ที่สนามบินนครพนม ทันทีที่มาถึงประชาชนที่รอฟังการปราศรัยจำนวนมากตะโกนต้อนรับ พร้อมกรูกันเข้ามาสวมมาลัยดอกดาวเรือง ดอกกุหลาบและผูกผ้าขาวม้าที่เอว น.ส.แพทองธารต้องเดินแหวกฝูงชนขึ้นเวทีปราศรัยทักทายว่า “สบายดีบ่ กินข้าวหรือยัง คิดฮอดกันบ่” วันนี้ดีใจมาก ปีใหม่ได้มานครพนมจังหวัดแรก ได้รับการต้อนรับอย่างดี พรุ่งนี้วันจันทร์กลับไปมีกำลังใจจากพี่น้องนครพนมแน่นอน
...
ฟุ้ง พท.มาคนที่จนอยู่รวยขึ้นแน่
น.ส.แพทองธารกล่าวว่า วันนี้ขอฝากนายอนุชิต คนทำงานหนักเป็นชาวนครพนมแท้ๆ เข้าใจปัญหาของนครพนมอย่างแท้จริง และมีดีเอ็นเอเพื่อไทยแท้ๆ ช่วยเหลือประชาชนเต็มที่ พรรคเพื่อไทย มาทีไรใครจนอยู่ต้องรวยแน่นอน วันนี้ปัญหายาเสพติดหนักหน่วง ลูกหลานไปยุ่งเกี่ยวกับยาบ้าที่ราคาถูกและเข้าถึงง่าย นายอนุชิตบอกว่าจะเอาคนติดยามาบำบัดเรียนรู้อาชีพ ให้กลับเข้าไปอยู่ในสังคม เพราะคนที่มีปัญหายาเสพติดไม่ใช่คนไม่ดี เพียงแต่อาจมีปัญหา เราพร้อมรับเขากลับมาหลังผ่านการบำบัดแล้ว เป็นสิ่งที่นายอนุชิตจะทำ อย่างไรก็ตามท้องถิ่นต้องประสานส่วนกลางเพื่อทำงานสอดคล้องกันทั้งประเทศ วันที่ 1 ก.พ.ขอให้มั่นใจว่านายอนุชิตไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน “ขอบคุณพี่น้องชาวนครพนมเด้อ รักทุกๆคนเด้อ”
นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม กล่าวปราศรัยว่า การเลือกตั้งนายก อบจ. เป็นการเลือกตั้งท้องถิ่นที่ต้องทำงานเป็นโซ่คล้องกันกับรัฐบาล น.ส.แพทองธารขอให้พี่น้องสนับสนุนให้ได้เข้าไปทำงานพัฒนาเมืองนครพนม ขอโอกาสให้นายอนุชิตได้ทำงาน
แซะนักร้องเสียงดีเยอะเหลือเกิน
ต่อมาเวลา 12.35 น. ที่หอประชุมอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง มหาวิทยาลัยนครพนม อ.เมืองนครพนม น.ส.แพทองธารขึ้นเวทีปราศรัยเวทีแห่งที่ 2 ว่า วันนี้ชาวนครพนมมีนางมนพรเป็นรัฐมนตรีของตัวเอง และนายสุริยะ 2 คนนี้พูดน้อยแต่ทำงานหนัก เกิดปัญหาอะไรแจ้งได้ ปัญหาหมดแน่นอน วันนี้มา ฝากนายอนุชิตจะได้ช่วยดูแลปัญหา เช่น เรื่องยาเสพติด พรรคเพื่อไทยจะแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง “บ่ขี้ตั๋ว บ่อขี้คร้าน ทำงานหนักเหลือเกิน ขอให้เลือกนายอนุชิต ฝากไว้ในอ้อมใจพี่น้องนครพนม คนนี้รู้ปัญหาดีจะมาแก้ปัญหาได้แน่นอน วันนี้มาถึงพูดอะไรได้ไม่มากโดนมองจับผิด ว่าจะผิดกฎข้อนั้นข้อนี้ ตอนนี้นักร้องเสียงดีเยอะเหลือเกิน แต่เมื่อกี้ตอนเดินเข้ามามีชาวบ้านมากดไลค์ในโซเชียลให้ทุกวัน ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้ มาหาเสียงวันนี้เป็นข้ออ้าง อยากได้กำลังใจจากพี่น้องชาวนครพนม จะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ ยืนยันปีนี้เป็นปีแห่งโอกาสแน่นอน”
ยกสถานะ “ทักษิณ” เป็นพ่อใหญ่
จากนั้นช่วงบ่าย น.ส.แพทองธารเดินทางไปปราศรัยต่อเวทีที่ 3 ที่อาคารโดมสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ อ.ศรีสงคราม ด้วยการทักทายผู้มาฟังปราศรัยว่า “กินข้าวหรือยัง คิดฮอดกันบ่ คิดฮอดพ่อใหญ่ (ทักษิณ) บ่ ดูคนหน้าเหมือนไปก่อนเด้อ ไปมา 3 เวที เวทีสุดท้ายยังไม่อยากกลับ พี่น้องนครพนมต้อนรับดี วันนี้อยากบอกว่าเรามั่นใจในนายอนุชิต วันนี้พี่น้องประชาชนรวยหรือยัง ถ้ายังไม่รวยต้องช่วยเต็มที่ ยาเสพติดเราก็จะช่วยแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ ยาเสพติดมันเยอะมาตั้งแต่หลังสมัยพ่อใหญ่ เราจะกำจัดให้หมดภายในปีสองปี ปีนี้ต้องเอาให้หมดให้ได้ พรรคเพื่อไทยจะส่งนายอนุชิตเข้าไปดูว่าคนที่ออกจากยาเสพติดได้แล้วมีงานหรือไม่ ถ้ายังไม่มีจะนำไปฝึกอาชีพ และตนจะคอยตรวจการบ้านเองว่าเมื่อประชาชนเลือกแล้วทำหน้าที่ให้เต็มที่หรือไม่ ขอให้คนของพรรคเพื่อไทยมาช่วยดูแลประชาชนให้อยู่ดีกินดี หนี้ลดลง และในเรื่องการศึกษาตนอยากส่งเสริมการศึกษาให้ลูกหลานมีโอกาสได้เข้ามหาวิทยาลัยดีๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ต้องทำให้ลูกหลานมีการศึกษา มีอาชีพ มีหน้าที่การงาน จะได้กลับมาพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต รอบนี้มาแล้วมาอ้อนวอนให้เลือกนายอนุชิต
“พิธา” บุกสันกำเเพงบ้าน “ชินวัตร”
ช่วงเช้าวันเดียวกัน ที่ตลาดอุ๊ยทา อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ พื้นที่บ้านเกิดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน (ปชน.) ลงพื้นที่ช่วยนายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ หาเสียง เริ่มที่เดินตลาดถือโทรโข่งขอคะแนนเสียงช่วยนายพันธุ์อาจเสียงดังว่า ขอบคุณพี่น้องชาวสันกำแพงที่ไม่เคยลืมพวกเรา พวกเราจะไม่ลืมชาวสันกำแพงแน่นอน จากนั้นนายพิธาให้สัมภาษณ์ว่าที่ต้องมาที่นี่ เพราะเป็นเขต สส.พรรค ปชน. นึกถึงความไว้วางใจที่ชาวสันกำแพงมอบให้มา ยังจำได้อยู่ ภาพที่เห็นก็เป็นครอบครัวก้าวไกล-ประชาชน เป็นครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น ครอบครัวในเชียงใหม่เราใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตั้งใจมาชวนพี่น้องชาวเชียงใหม่ให้ความไว้วางใจอีกครั้ง ให้ครอบครัวของเราขยายมากขึ้น จะได้ดูแลพวกท่าน หากครอบครัวพวกเราใหญ่ขึ้น นั่นหมายความว่าการเมืองในสภาฯ การแก้กฎหมายสำคัญ การแก้ไขปัญหาพื้นที่รวมถึงงบประมาณที่จะนำมาใช้ อบจ.มีหน้าที่โดยตรง เราจะได้ทำงานอย่างไร้รอยต่อกับท้องถิ่น
ชี้คนเมืองเปลี่ยนเเล้วเปลี่ยนเลย
นายพิธายังกล่าวถึงการพูดคุยกับนายทักษิณในงานฉลองมงคลสมรส สส.พรรค พท.และพรรคปชน.ว่า ไม่มีอะไร วันนั้นทักทายตามปกติ พอเสร็จงานก็แพ็กของมาลงพื้นที่หาเสียงที่ จ.ลำพูน จ.เชียงใหม่ต่อ เชื่อว่าประชาชนต้องการการแข่งขันทางการเมืองที่เข้มข้นตรงไปตรงมา มาเชียงใหม่ครั้งนี้ยังอบอุ่นเหมือนเดิม ไม่ว่าจะไปที่ไหนได้รับการต้อนรับอุ่นหนาฝาคั่ง เชื่อว่าเป็นเพราะนโยบายที่ตอบโจทย์และโดนใจ เชื่อว่าพี่น้องเชียงใหม่เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนเลย สายน้ำไม่ไหลย้อนกลับ ให้โอกาสคนที่ตอบโจทย์กับยุคสมัย เราต้องการคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังวังชาและเจอกับความท้าทายใหม่ๆของเชียงใหม่
“เท้ง” ฟิตเดินทางภาคตะวันออก
ที่ จ.จันทบุรี นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรค สส.พรรค และผู้สมัครสมาชิก อบจ. ลงพื้นที่ช่วยนายมานะ ชนะสิทธิ์ ผู้สมัครนายก อบจ.จันทบุรี พรรคประชาชน หาเสียง ช่วงเช้านายณัฐพงษ์เดินแจกแผ่นพับแนะนำตัวผู้สมัคร ที่ตลาดน้ำพุ ตลาดสวนมะม่วง ขอคะแนนเสียงกับพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอยในตลาด มีกลุ่มแฟนคลับเข้ามาขอเซลฟี่ บางคนนำพวงมาลัยดอกดาวเรืองมามอบให้ นายณัฐพงษ์ให้สัมภาษณ์ว่า
จ.จันทบุรี เป็นจังหวัดที่ประชาชนให้ความไว้วางใจเลือก สส.ของพรรคทั้ง 3 เขต เชื่อว่าในวันที่ 1 ก.พ. จะได้รับโอกาสนี้อีกครั้ง เรามีนโยบายเรื่องเศรษฐกิจดี การเมืองดี สังคมดี ปัญหาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร 1 หมู่บ้าน 1 แหล่งน้ำ ปัญหาช้างป่า มีการหาแนวทางแก้ไข มีโดรนจับความร้อน มีกล้อง AI แจ้งเตือนการบุกรุกของช้างป่า ทำ อบจ.จันทบุรีทันใจ มีความโปร่งใส รับใช้ประชาชน
3 จว.รวดจันทบุรี-ระยอง-ชลบุรี
ต่อมาช่วงบ่าย นายณัฐพงษ์ไปหาเสียงต่อที่ จ.ระยอง ร่วมกับผู้สมัครนายก อบจ.ระยอง โดยขึ้นรถปราศรัยที่หน้าตลาดเทพจินดา อ.บ้านฉาง ว่า เป็นโอกาสสร้างความเปลี่ยนแปลง เป็นโอกาสแห่งความหวัง เป็นโอกาสสร้างอนาคตที่ดีให้กับลูกหลานชาวระยอง เทศกาลดนตรี กีฬา อาหาร มีจัดตลอดทั้งปีแน่นอน ปัญหาน้ำท่วมในตัวเมืองไม่ต้องห่วง เนื่องจากผู้สมัครของเราจบปริญญาเอกด้านบริหารจัดการน้ำ แก้ปัญหาให้กับพ่อแม่พี่น้องได้แน่ หลังเสร็จกิจกรรมที่ จ.ระยอง นายณัฐพงษ์ไปช่วยหาเสียงต่อให้ผู้สมัครนายก อบจ.ชลบุรี เดินแจกแผ่นพับที่แจ๊ส วิลเลจ อมตะ อ.เมืองชลบุรี
“วิโรจน์” โวยถูกข่มขู่เอาถึงชีวิต
ด้านนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ขอบคุณ พล.ต.ต.ผดุงศักดิ์ รักษาสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.จันทบุรี ที่ช่วยดูแลความปลอดภัย แม้จะถูกขู่ถึงกับเอาชีวิตแต่ยังคงมีกำลังใจดี และยังคงมุ่งมั่นหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.จันทบุรีต่อไป เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 11.00 น. นายจิรวัฒน์ อินทอง (ผู้ใหญ่ไว้) ผู้สมัคร ส.อบจ. อ.มะขาม ต.วังแซ้ม ต.ปัถวี และ ต.ฉมัน ไปร่วมประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดวังแซ้ม อยู่ดีๆนาย ส. ซึ่งเป็นผู้ติดป้ายหาเสียงของผู้สมัครนายก อบจ.จันทบุรี ที่เป็นคู่แข่งขัน เข้ามาพูดจาในลักษณะข่มขู่หมายเอาชีวิตตนว่า “เดี๋ยววิโรจน์จะถูกยิง” นายจิรวัฒน์จึงรีบโทรศัพท์มาแจ้งให้ทราบเพื่อระวังตัว จึงโทรศัพท์ไปปรึกษา พล.ต.ต.ผดุงศักดิ์ และเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สถานีตำรวจภูธร จ.จันทบุรี ในวันที่ 11 ม.ค. เวลาประมาณ 20.00 น. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 337 (1) ฐานขู่ว่าจะฆ่า ขู่ว่าจะทำร้าย
คู่กรณีขอโทษอ้างไม่ได้มีเจตนา
นายวิโรจน์ระบุอีกว่า ระหว่างปรึกษาข้อกฎหมายกับพนักงานสอบสวน พล.ต.ต.ผดุงศักดิ์ ได้ประสานให้นาย ส. โทรศัพท์เข้ามาพูดคุย ให้พนักงานสอบสวนร่วมรับฟังเป็นพยานด้วย นาย ส. ยอมรับว่าได้พูดกับนายจิรวัฒน์ ในลักษณะที่รับฟังได้ว่าเป็นการข่มขู่หมายเอาชีวิตจริง และยอมรับว่าเป็นผู้ติดป้ายหาเสียงให้กับผู้สมัครนายก อบจ.จันทบุรี ที่เป็นคู่แข่งขันจริง แต่นาย ส. อ้างว่าไม่มีเจตนาจะยิงตนตามที่ได้พูดข่มขู่ พร้อมขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ในฐานะผู้แทนราษฎรปกติไม่อยากดำเนินคดีกับประชาชนอยู่แล้ว และ พล.ต.ต.ผดุงศักดิ์รับปากว่าจะพยายามสอดส่องดูแลความปลอดภัยให้ จึงตัดสินใจไม่ดำเนินคดีกับนาย ส. ขอเพียงลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐาน ดังนั้นไม่ต้องเป็นห่วงยังคงมีกำลังใจที่ดี ยังคงมุ่งมั่นตั้งใจช่วยหาเสียงให้กับนายมานะ ชนะสิทธิ์ ผู้สมัครนายก อบจ.จันทบุรี พรรคประชาชน อย่างไม่ย่อท้อต่อไป
“อ้วน” โยนเป็นหน้าที่ของตำรวจ
ที่ จ.เชียงราย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวว่า กรณีของนายวิโรจน์เราได้เน้นย้ำดูแลรักษาความปลอดภัยในการเลือกตั้งนายก อบจ. เช่นเดียวกับนโยบายปราบผู้มีอิทธิพล รู้ว่าปีนี้ต้องเผชิญกับสิ่งเหล่านี้มากขึ้น เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง และมีมาตรการชั้นต้นช่วยดูแล เมื่อมีการร้องเรียนเข้ามาเรารับฟัง เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติดำเนินการได้ เมื่อถามว่าเกิดเหตุเฉพาะกับพรรค ปชน. ก่อนหน้านั้นก็โดนตามประกบลงพื้นที่หาเสียงภาคเหนือ นายภูมิธรรมตอบว่า ต้องไปดูข้อเท็จจริง ขัดกันอะไรกันเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ในข้อเท็จจริงของการก่ออาชญากรรม ไม่อยากให้แปลเป็นเรื่องการเมือง
“ทวี” มั่นใจแจงปมชั้น 14 ได้หมด
ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายประเด็นการช่วยเหลือนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นอนพักรักษาที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ มีผลกระทบต่อกระบวนการยุติธรรมไทยว่า ข้าราชการที่เกี่ยวข้อง 12 คน พร้อมไปชี้แจงต่อ ป.ป.ช. เราเชื่อมั่นกรมราชทัณฑ์ว่าทำตามระเบียบ ทั้งหนังสืออายัดตัวไปที่ สน.ปทุมวัน สมุดการควบคุมลงวันละ 24 ชั่วโมง ใครเข้าออกมีหลักฐานหมด เวชระเบียนมีทั้งเวชระเบียนนอกและไทย หลักฐานพวกนี้ไม่สามารถสร้างเรื่องได้ เมื่อถามว่าไม่หนักใจกรณีนายทักษิณ พ.ต.อ.ทวีตอบว่า ในราชทัณฑ์ไม่ได้ดูแลนายทักษิณคนเดียว วันนี้คนเจ็บป่วย 143 เรือนจำก็ไปโรงพยาบาล อยู่ที่พิเศษหมด ไม่ใช่นายทักษิณคนเดียว มีตัวเลขชี้แจงได้ ดังนั้นเมื่ออยู่ในชั้น ป.ป.ช.ยิ่งไม่สมควรนำมาอภิปราย เมื่อถามว่าถูกจับตาเป็นพิเศษมีความสนิทสนมตระกูลชินวัตร ขยับอะไรดูเอื้อให้หมด พ.ต.อ.ทวีตอบว่า นายทักษิณมีคนรักเป็นเรื่องปกติ ตนรู้จักกับทุกฝ่าย ต้องยอมรับระบอบประชาธิปไตย เมื่อประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทย นายทักษิณเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามที่ทุกคนเรียกร้อง เชื่อว่าสังคมส่วนใหญ่เข้าใจ เราชี้แจงได้
นายกฯวางคิวตรวจบึงบอระเพ็ด
วันเดียวกัน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 13 ม.ค.เสร็จ ช่วงบ่ายนายกฯมีกำหนดเดินทางลงพื้นที่ จ.นครสวรรค์ ติดตามการบริหารจัดการน้ำตามนโยบายรัฐบาล แก้ไขปัญหาน้ำแล้งและน้ำท่วมอย่างยั่งยืน ที่บึงบอระเพ็ด ต.แควใหญ่ ถือเป็นจุดสำคัญเป็นพื้นที่รับน้ำของแม่น้ำปิง วัง ยม น่าน ที่มารวมกันที่ปากน้ำโพเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาไหลลงสู่ภาคกลางและ กทม. นอกจากนี้นายกฯจะเป็นประธานพิธีมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ ในโครงการ “ธนารักษ์เอื้อราษฎร์ สัญญาเช่าที่ดิน พลิกชีวิตประชาชน” ในงบประมาณปี 2568 ที่อาคารอเนกประสงค์บึงบอระเพ็ด ให้ประชาชนมีพื้นที่อยู่อาศัยและทำกิน จากนั้นไปประตูดำ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดนครสวรรค์ ติดตามการบริหารจัดการน้ำ การขุดลอกพื้นที่กักเก็บน้ำ จุดนี้หากเร่งแก้ไขจะทำให้แก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งในพื้นที่ภาคกลางสำเร็จได้
“ราเมศ” ป้อง “ชวน” ทองแท้ตัวจริง
นายราเมศ รัตนะเชวง เลขานุการนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวตอบโต้นายวรชัย เหมะ อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย พูดพาดพิงนายชวนว่า ให้กลับไปดูประวัติศาสตร์การเมืองไทย คนที่ เป็นนายกฯมา 2 สมัย ประธานสภา 2 สมัย ผู้นำฝ่ายค้าน 3 สมัย ยุคที่นายชวนนำพาพรรค ปชป. มีความสำเร็จ มีโครงการที่ดีเกิดขึ้นมากมายที่ประชาชนได้ประโยชน์ เน้นพัฒนาทุกจังหวัดอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติแบ่งแยก ทั้งวางโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคม พัฒนาการท่องเที่ยว โครงการนมโรงเรียนเด็กเล็ก ริเริ่มโครงการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ริเริ่มเงินเบี้ยผู้สูงอายุจาก 200 บาท เป็น 300 บาท สมัยรัฐบาลทักษิณ 5 ปี ไม่ได้เพิ่มให้แม้แต่บาทเดียว การนำพาพรรค ปชป.สมัยนายชวน เป็นรากฐานให้หลายพรรคทำต่อ ที่สำคัญคือไม่เคยเป็นนักโทษคดีทุจริต พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยถูกยุบในสมัยนายชวน อยากฝากประโยคนี้ไปว่า “ทองแท้ไม่แพ้ไฟ คนโกงชาติแพ้ภัยคือทองเก๊ของจริง”
“สุดารัตน์” จี้ รบ.ปราบแก๊งสีเทา
ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวว่า เราเดินมาถึงจุดที่ประเทศไทยกลายเป็น HUB หรือศูนย์กลางของสิ่งชั่วร้ายได้อย่างไร ทั้งค้ามนุษย์ อาชญากรรมข้ามชาติ เช่น กรณีของซิงซิง ดาราชาวจีน ที่ถูกหลอก จากไทยไปยังเมียนมา ซึ่งเป็นฐานสแกมเมอร์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ กระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของไทย ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของชาวจีนที่จะเดินทางมายังไทยในช่วงวันหยุดตรุษจีน ถึงเวลาที่รัฐบาลต้องเอาจริงเอาจัง ลงมือจัดการกับเรื่องชั่วร้ายเหล่านี้ เมื่อนายทักษิณ อดีตนายกฯ รู้ข้อมูลดี และยังมีความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ดีกับผู้นำกัมพูชาและเมียนมา รัฐบาลจึงควรเร่งดำเนินการ
กวาดล้างแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติเหล่านี้ทันที และ ขอฝากอดีตนายกฯทักษิณ ให้กวาดล้างผู้มีอำนาจในไทยที่ได้รับประโยชน์จากคนพวกนี้ ท่านน่าจะรู้ดีว่าใครได้รับผลประโยชน์มหาศาลจากเรื่องเหล่านี้
โพลชี้ “นายใหญ่” ไม่มีผลชิง อบจ.
อีกเรื่อง นิด้าโพลเปิดผลสำรวจความเห็นประชาชน 1,803 หน่วยตัวอย่าง เรื่อง “ทักษิณปราศรัยเชียงใหม่-เชียงราย แล้วเราควรตัดสินใจอย่างไร” ระหว่างวันที่ 7-10 ม.ค. พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 37.11 ระบุว่าไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจ เพราะจะไม่เลือกพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว รองลงมาร้อยละ 23.24 ระบุว่าส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกพรรคเพื่อไทย และร้อยละ 17.06 ระบุว่าไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจ เพราะจะเลือกพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว มีร้อยละ 13.59 ที่ยังไม่ตัดสินใจ นอกจากนี้ ส่วนใหญ่ยังมองว่าการเลือกตั้งนายก อบจ.ครั้งนี้ ไม่ส่งผลต่อการเลือกตั้งสส. เชียงใหม่ในครั้งถัดไป เมื่อถามถึงความคิดเห็นต่อผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ครั้งนี้ อาจส่งผลต่อการเลือกตั้ง สส.เชียงรายครั้งถัดไป ส่วนใหญ่ร้อยละ 36.96 ระบุว่าไม่ส่งผลเลย รองลงมาร้อยละ 25.95 ระบุว่าส่งผลมาก ร้อยละ 20.24 ระบุว่าค่อนข้างส่งผล ร้อยละ 16.44 ระบุว่าไม่ค่อยส่งผล
เด็กไทยอยากได้นักการเมืองโปร่งใส
ขณะที่ซูเปอร์โพลเปิดผลสำรวจเรื่อง “เด็กคิดอย่างไรต่อการเมือง” กรณีศึกษาตัวอย่างเด็กและเยาวชนอายุ 14-19 ปี จำนวน 1,089 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 9-11 ม.ค. พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 77.1 ต้องการเห็นนักการเมืองที่มีความโปร่งใส, ซื่อสัตย์ และไม่ใช้ความรุนแรง ร้อยละ 65.8 มองว่านักการเมืองแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม ร้อยละ 63.7 รู้สึกเบื่อหน่ายกับนักการเมือง แต่ยังคงสนใจติดตามข่าวสารทางการเมือง รองลงมามองว่านักการเมืองทำงานได้ดีเฉพาะในเรื่องที่พวกเขาสนใจเท่านั้น รู้สึกดีต่อนักการเมืองท้องถิ่น เชื่อมั่นว่านักการเมืองสามารถทำตามสัญญาได้ มีนักการเมืองที่เป็นแรงบันดาลใจ สนใจมีส่วนร่วมทางการเมือง และมีร้อยละ 10.8 สนใจที่จะเป็นนักการเมืองในอนาคต
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่