“ปิยรัฐ จงเทพ” จี้ รัฐบาลเร่งปราบปรามอาชญากรรม เร่งจับกุมคนร้ายก่อเหตุยิง “ลิม กิมยา” ชี้ไม่ใช่เรื่องปกติ เชื่อเกี่ยวข้องเรื่องการเมืองในกัมพูชา
วันที่ 8 มกราคม 2568 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ได้เปิดให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อน โดยนายปิยรัฐ จงเทพ ส.ส.กทม. พรรคประชาชน หารือว่าขอให้รัฐบาลเร่งจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุยิงนายลิม กิมยา อดีตส.ส.ฝ่ายค้านกัมพูชา เสียชีวิตเมื่อ 7 มกราคมในพื้นที่กลางกทม.โดยเร็วที่สุด ทราบว่าศาลอนุมัติหมายจับแล้วหวังว่าจะจับกุมได้รวดเร็ว ไม่ให้ต่างชาติมองประเทศไทยเป็นแหล่งซ่องสุมของอาชญากร ต้องเร่งแก้ไขและปราบปรามการก่ออาชญากรรมโดยเร็ว หลายฝ่ายตั้งคำถามถึงเหตุจูงใจมาจากการเมืองในกัมพูชาหรือไม่ ที่ผ่านมาผู้ตายเคยถูกข่มขู่จากรัฐบาลกัมพูชา รัฐบาลควรตระหนักว่าไม่ใช่เรื่องปกติ เพราะไม่ใช่การเสียชีวิตของชาวกัมพูชา แต่เป็นชาวฝรั่งเศส สถานะของผู้ตาย ต่างชาติให้ความสนใจ แม้พรรคการเมืองต้นสังกัดถูกยุบ แต่ผู้ตายยังขับเคลื่อนพรรคการเมืองเป็นหัวหอกสำคัญของฝ่ายค้านในกัมพูชา บทบาทจึงมีความสำคัญมาก
ต่อมาเมื่อเวลา 9.30 น. นายปิยรัฐ พร้อมด้วย นายจุลพงศ์ อยู่เกษ ส.ส.พรรคประชาชน ได้แถลงข่าวเพิ่มเติมในกรณีดังกล่าว เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลปราบปรามขบวนการอาชญากรรมให้หมดสิ้นไป พร้อมทั้งติดตามจับกุมคนร้ายที่ลอบยิง นายลิม กิมยา อดีต ส.ส.ฝ่ายค้าน พรรคสงเคราะห์ชาติกัมพูชา (Cambodia National Rescue Party: CNRP) โดยเร็ว
นายปิยรัฐ กล่าวอีกว่า นายลิม กิมยา เป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมือง วัย 74 ปี และยังคงมีการเคลื่อนไหวทางการเมือง ศาลตัดสินยุบพรรคดังกล่าวทำให้สมาชิกพรรค CNRP ทั้งหมด 118 คน ถูกห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมืองนาน 5 ปี และส่งผลให้ไม่ได้ลงเลือกตั้งทั่วไปในปี 2561 แต่มีจุดยืนอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลโดยเฉพาะกับ สมเด็จ ฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีของราชอาณาจักรกัมพูชามาโดยตลอด ที่ผ่านมา ศาลกัมพูชาเคยมีคำสั่งตัดสินยุบพรรค CNRP เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2560 ในข้อกล่าวหาว่ามีการวางแผนสมคบคิดกับต่างชาติในการโค่นล้มรัฐบาลของ สมเด็จฯ ฮุน เซน ทำให้สมาชิกพรรค CNRP ทั้งหมด 118 คน ถูกห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมืองนาน 5 ปี และส่งผลให้ไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งทั่วไปในปี 2561 โดยอดีต ส.ส. และครอบครัวได้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันถือสัญชาติฝรั่งเศส เชื้อชาติกัมพูชา และถูกลอบยิงอย่างโจ่งแจ้งบนถนนในกรุงเทพฯ ซึ่งครั้งนี้ มีลักษณะเฉพาะของการลอบสังหารทางการเมือง ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นการยกระดับการปราบปรามข้ามชาติอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากนายลิม กิมยา พร้อมภรรยาและผู้ติดตามได้เดินทางเข้ามายังประเทศไทยในฐานะนักท่องเที่ยว การเสียชีวิตของเขาในครั้งนี้จึงถือเป็นเรื่องใหญ่ไม่ใช่เพียงเพราะตัวเขาเป็นอดีต ส.ส.ของกัมพูชา แต่เรื่องราวชีวิตที่ผ่านมาของเขาเองจึงทำให้เรื่องนี้เป็นประเด็นที่ถูกตั้งคำถามจากสังคมถึงมูลเหตุจูงใจของการก่อเหตุในครั้งนี้ว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องปัญหาทางการเมืองในประเทศกัมพูชา จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล ในฐานะสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนของ UN ต้องเร่งปราบปรามอาชญากรรมให้หมดสิ้นไป และกอบกู้ความเชื่อมั่นด้านความมั่นคง ความยุติธรรมกลับมาสู่สายตาและความรู้สึกที่ดีของคนไทยและชาวโลกโดยเร็วที่สุด ก่อนที่ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางของเหล่าแก๊งอาชญากรและยาเสพติดต่าง ๆ
...