“แพทองธาร” ไม่เขิน “ทักษิณ” พูดก่อน ยินดีฟังวิสัยทัศน์ เล่นตัวเองบอกนายกฯ ดื้อสุด ยัน ปมเช่าอพาร์ตเมนต์แจ้ง ป.ป.ช. ถูกต้อง ออกโรงป้องพ่อ ยันไม่ได้เหยียดเชื้อชาติ
วันที่ 7 มกราคม 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงคำถามว่ารู้สึกอย่างไรกับการเคลื่อนไหวของ นายทักษิณ ที่พูดทั้งเรื่องนโยบายและเรื่องการเมือง เป็นการบดบังรัศมีของนายกฯ หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าทุกท่านเวลาที่พูดกันว่า นายกฯ ตัวจริงบ้าง นายกฯ กี่คนบ้าง พอดีตนเป็นลูก ไม่ได้เป็นคู่แข่งกับท่าน โตขึ้นมาในบ้านที่ท่านเป็นหัวหน้าครอบครัว การที่ท่านพูดหากเรานำมาประยุกต์ได้มันคือสิ่งดี ทุกอย่างเป็นแหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้าน นักวิชาการ รัฐมนตรี อย่างตัวคุณพ่อเองเคยเป็นนายกฯ มาก่อน และประสบความสำเร็จอย่างมาก รับฟังได้อยู่แล้ว และความจริงถ้ารู้สึกไม่แฮปปี้เมื่อไหร่สื่อมวลชนก็ต้องรู้หลังไมค์กันแน่นอน เวลาคนในครอบครัวคุยกันอย่างไรตนก็เป็นแบบนั้น ถามว่ารู้สึกอะไรหรือไม่ที่ท่านพูดออกไป ก็ไม่ มันเป็นสไตล์การพูดของท่าน
เมื่อถามย้ำเรื่องที่ นายทักษิณ พูดนโยบายออกมาก่อนแล้วรัฐบาลมักจะตาม น.ส.แพทองธาร ตอบว่า “ก็นั่นคือการคุยกันหลังไมค์ก่อน และตัวดิฉันก็กำหนดไว้ว่าการให้สัมภาษณ์ของดิฉันคือวันอังคารหลัง ครม. เท่านั้น พอ นายทักษิณ ออกไปพูดคุยก่อน ก็เป็นรอบที่ท่านได้พูดก่อน ก็ไม่เป็นไร เพราะประโยชน์อยู่ที่ประเทศ ถ้ามันเกิดขึ้นจริง และดิฉันไม่ได้กระทบอะไร ไม่ได้รู้สึกว่านายกฯ 2 คน 3 คน แล้วต้องเสียใจหรืออะไร”
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า เหมือนแบ่งบทกันให้พ่อเป็นฝ่ายบู๊ ลูกเป็นฝ่ายประนีประนอม น.ส.แพทองธาร ระบุว่า สิ่งที่นายทักษิณ พูดหลายอย่างมันก็ไม่ได้เกิดขึ้น หลายอย่างต้องผ่านมติคณะรัฐมนตรี มติพรรค นายทักษิณ เป็นคนมีวิสัยทัศน์คิดต่อยอด ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ท่านไม่ได้ดำรงตำแหน่งอะไร เป็นวิสัยทัศน์ จะนำมาปฏิบัติหรือไม่อยู่ที่ฝ่ายบริหาร ต้องแยกว่าวิสัยทัศน์เป็นอย่างนั้น ฝ่ายบริหารว่าอย่างไรต้องแยกภาพให้ชัด มันไม่ได้กระทบกันทั้งหมดถ้ากระทบเรื่องดีมันก็ดี
...
ส่วนคำถามว่าวันนี้ยังไม่มีพรรคไหนดื้อหรือรัฐมนตรีคนไหนยังไม่ผ่านงานใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ยืนอยู่ด้านหลัง น.ส.แพทองธาร ได้หันไปจับแขน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมกับถามว่า “ดื้อหรือเปล่า” ก่อนจะตอบเองว่า “มีแต่น่ารัก ไม่มีดื้อ” ทำให้ น.ส.แพทองธาร ถึงกับหัวเราะและบอกว่า “ท่านบอกว่ามีแต่น่ารัก ไม่มีดื้อ สรุปนายกฯ ดื้อสุด”
สำหรับกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน มีรายการเช่าอพาร์ตเมนต์ที่ประเทศอังกฤษ เป็นการเช่าในนามบริษัทหรือส่วนตัว น.ส.แพทองธาร ตอบว่า ตนได้แจ้ง ป.ป.ช. ไปแล้วเกี่ยวกับสิทธิการเช่า จริงๆ ไม่อยากตอบรายละเอียด แต่จะเล่าให้ฟังว่าที่อังกฤษเขาให้เช่า ข้อกฎหมายเขาไม่เหมือนบ้านเรา ซึ่งรายละเอียดตนแจ้ง ป.ป.ช. ถูกต้องตามกฎหมายไปหมดแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าในเวลาต่อมา ระหว่างที่ น.ส.แพทองธาร เดินจากตึกบัญชาการไปยังตึกไทยคู่ฟ้า มีการโทรศัพท์สอบถามกับทางบ้านถึงอาการไข้ของ เด็กชายพฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์ หรือ น้องธาษิณ บุตรชาย ที่เป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A และมีอุณหภูมิร่างกายกว่า 38 องศาเซลเซียส โดยได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่าตนก็เป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A แต่หายแล้ว ตอนนี้ไข้หวัดกำลังระบาดเยอะ อย่าลืมฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่กัน เพราะปกติเวลาฉีดยาไข้หวัด พอเป็นแล้วคนที่ฉีดยาและไม่ฉีดยาจะมีอาการแตกต่างกัน
เมื่อถามต่อถึงประเด็นดราม่ากรณีที่ นายทักษิณ ปราศรัยหาเสียงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ถึงการผลักดันหญิงไทยให้เป็นนางแบบระดับโลก โดยเปรียบเทียบกับชาวแอฟริกา น.ส.แพทองธาร ตอบว่า “จากที่ฟังเนื้อความพูดเหยียดจริงๆ หรือไม่ ขอให้ลองไปฟังที่คุณพ่อพูดดู ก็ค่อนข้างมั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์เลยว่าเจตนาเรื่องการเหยียดผิวไม่มีแน่ๆ คุณพ่อเคยบอกก่อนหน้านี้ว่าคนไทยจะไปทำศัลยกรรมทำไม เราก็สวยแบบไทยของเรา รวมถึงการเพิ่มโอกาสให้กับคนที่ไม่ต้องเสียเงินไปทำจมูก ไปทำศัลยกรรม เราก็สามารถประกวดในแบบของเราได้ นี่คือความตั้งใจของพ่อในเรื่องของโอกาส ลองไปฟังต้นฉบับก่อน มั่นใจเลยว่าพ่อไม่เคยเหยียดเรื่องนี้ พ่อเป็นคนที่ไม่ได้เหยียดคนอยู่แล้ว ถ้าได้ยินหรือเข้าใจผิดอย่างนั้นคิดว่าไม่ใช่แน่นอน”
ทางด้านคำถามว่าเมื่อพูดถึงชาติอื่นก็อาจจะเป็นการไปเหยียดเชื้อชาติเขาหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า โอ๊ย ไม่มีทาง ทุกชาติเขาก็มีความสวยเป็นธรรมชาติของเขา เหมือนที่เรามองว่าคนนี้ต้องเป็นคนญี่ปุ่นแน่เลย คนนี้ต้องเป็นคนเกาหลีแน่เลย ก็เป็นเรื่องเชื้อชาติ มองเห็นว่าเป็นคนชาติไหนก็แค่นั้น อย่างไรก็ตามเมื่อถามว่า สว. อยากให้นายกฯ ไปเตือนนายทักษิณในเรื่องนี้ นายกฯ ระบุว่า ก็มีการคุยกันอยู่แล้ว และทราบถึงความตั้งใจ เพราะเรื่องนี้นายทักษิณพูดมาก่อนที่จะสัมภาษณ์ด้วยซ้ำ มันไม่ใช่เรื่องของการเหยียด ฉะนั้นก็ไม่ต้องเตือนอะไร.