“นายกฯ อิ๊งค์” ยืนยันพบตัว “ซิงซิง” ดาราจีน ที่ชายแดนแม่สอด ตำรวจกำลังรอรับตัว สั่ง ก.ดิจิทัลฯ ดูข่าวลือไม่ให้กระทบภาพลักษณ์ไทย “สรวงศ์” ฝากทูตจีน เคลียร์ปมปล่อยข่าวไทยไม่ปลอดภัย รับกระทบท่องเที่ยวระยะสั้น

วันที่ 7 มกราคม 2568 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีดาราจีนหายตัวไปบริเวณชายแดนแม่สอด จังหวัดตาก ว่า พบตัว ซิงซิง ดาราจีน บริเวณชายแดนแม่สอด จังหวัดตากแล้ว รอส่งตัวมาที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยตำรวจภูธรภาค 6 กำลังรอรับอยู่

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าจะต้องทำเรื่องนี้ให้ดี ไม่ให้กระทบกับการท่องเที่ยว เพราะตอนนี้มีเรื่องเกิดขึ้นจริง และข่าวลือจำนวนมากบนโซเชียลว่าประเทศไทยมีความน่ากลัว จึงพยายามดูแลอย่างเต็มที่ โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ต้องมาช่วยดูเรื่องการปล่อยข่าวลือด้วย

เมื่อถามถึงว่าจะมีมาตรการคุมเข้มอย่างไร เพราะมีขบวนการของจีนมาใช้พื้นที่ในประเทศไทยในการก่อเหตุ นายกรัฐมนตรี ตอบว่า เราประสานไปยังทูตจีน พูดคุยกันอย่างเข้มข้น และตอนประชุมต่างประเทศ ผู้นำก็พูดคุยเรื่องนี้เช่นกัน เพราะนอกจากกระทบการท่องเที่ยวแล้ว ยังกระทบความปลอดภัยทางเทคโนโลยีและการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย เช่น การโกง และคอลเซ็นเตอร์ทั้ง 2 ประเทศ เน้นย้ำเรื่องนี้มาก และไม่ใช่แค่จีนกับไทยเท่านั้น ยังรวมถึงประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ ด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด โดยไทยจะใช้รัฐมนตรีต่างประเทศพูดคุยเรื่องนี้เสมอ และเมื่อมีอะไร จะติดต่อกับทูตประเทศนั้นทันที เช่น ครั้งนี้ ก็ติดต่อทูตจีน

...

ส่วนที่ฝ่ายค้านมีการเสนอว่าอยากจะให้จัดโซนนิ่งเรื่องของการฟรีวีซ่าจีน แนวทางนี้เป็นไปได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องรอคุยกันดูว่าจะต้องว่าเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน แต่จริงๆ การฟรีวีซ่า รัฐบาลซับพอร์ตมาโดยตลอดอยู่แล้ว เดี๋ยวจัดอันดับความสำคัญและตกลงระหว่างประเทศ ยืนยันว่าอย่างไรก็ต้องมีต่อ อะไรที่เป็นข้อเสนอที่ดีก็รับฟัง

ทางด้าน นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุถึงข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ให้ติดตาม ซิงซิง ดาราจีน สูญหายชายแดนไทย-เมียนมา เพราะเป็นเหตุสะเทือนขวัญและกระทบการท่องเที่ยว ว่า เรื่องของซิงซิง ตั้งแต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับทราบ ได้มีการกำชับมายังตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจภูธรภาค 6 พร้อมประสานไปที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ได้รับคำยืนยันว่าเดินทางเข้าประเทศไทยจริง และมีการประสานไปยังสถานทูตจีนประจำประเทศไทยเพื่อติดตาม ซึ่งพบตัวตั้งแต่เย็นวานนี้ (6 มกราคม 2568) โดยได้รับการประสานจากทางการเมียนมา และจะมีการส่งมอบตัวข้ามแดนให้กับไทยภายในวันนี้ (7 มกราคม 2568)

ทั้งนี้ กระบวนการดังกล่าวไม่ใช่เป็นครั้งแรก ส่วนในการสืบสวนสอบสวนทางตำรวจจะออกมาชี้แจงอีกครั้งว่า ซิงซิง เข้ามาทำงานจริงหรือไม่ หรืออาจขาดการติดต่อ หรือเป็นการหลอกลวงตั้งแต่ต้นทาง ประเทศไทยถือเป็นเป้า และตนได้พูดคุยกับเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยแล้ว และอยากให้สถานทูตช่วยด้วยเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการปล่อยข่าวที่ประเทศจีน ว่ามาประเทศไทยไม่ปลอดภัย

“ยอมรับว่ากรณีที่เกิดขึ้นไม่ใช่กรณีแรก ขอให้รอฟังความชัดเจนจากตำรวจหลังจากรับตัว แล้วจะดำเนินการอย่างไร พร้อมทั้งยอมรับว่ากระทบการท่องเที่ยว พอเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่ไม่ใช่ระยะยาว ทั้งนี้ การพบตัวแล้วเป็นสิ่งที่ดี ซึ่งหน้าที่ของรัฐบาลและกระทรวงท่องเที่ยวฯ สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ผมมั่นใจว่าคนที่เคยมาประเทศไทยแล้วเข้าใจสถานการณ์”

นายสรวงศ์ ยังตอบประเด็นกรณี นายชวน หลีกภัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรคประชาธิปัตย์ เคยเตือนปัญหาเหล่านี้ นายสรวงศ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้เกิดเฉพาะประเทศไทย ประเทศเพื่อนบ้านก็ถูกใช้เป็นฐานปฏิบัติการ แก๊งมิจฉาชีพ แก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่แล้ว ซึ่งตนเป็น สส.ชายแดน ได้ช่วยเหลือพี่น้องหลายคนได้กลับมาสัปดาห์หนึ่งจำนวนไม่น้อย สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นกระบวนการ ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน ถ้าจะขจัดปัญหาเหล่านี้ ซึ่งจากข้อมูลพบว่า เหตุเกิดน้อยลง แต่วิธีการก่อเหตุเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ แต่ความเสียหายอาจเท่าเดิมหรือมากขึ้น เพราะจำนวนเงินที่มีการหลอกลวงแต่ละครั้งมีมูลค่ามากขึ้น ถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องเข้าไปแก้ไขปัญหา รวมถึงการพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อร่วมมือกัน พร้อมทั้งยอมรับว่าการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะทำกันเป็นกระบวนการ ทั้งเอเชีย ยุโรป อเมริกา ก็มี

พร้อมกันนี้ นายสรวงศ์ ยอมรับว่า ส่วนตัวก็เกือบโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเช่นกัน ดังนั้น ต้องช่วยกันกระจายวิธีการหลอกลวงใหม่ๆ ให้ประชาชนได้รับทราบ ส่วนกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ปีนี้จะปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้หมดไปนั้น นายสรวงศ์ ระบุว่า เป็นวิสัยทัศน์และเป็นเป้าหมายที่ต้องพยายามทำให้ได้ ไม่ว่าจะเป็น นายทักษิณ พูดหรือใครพูดก็ตาม ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็มีความคิดอยู่แล้วว่าอย่างไรก็ต้องปราบให้ได้ โดยเฉพาะสิ่งที่เป็นปัญหากับประชาชน และทำให้เร็วที่สุด.