“เอกนัฏ” เปิดปฏิบัติการสุดซอย จับโรงงานลักลอบขนย้ายขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกยึดอายัดจากปราจีนฯ มามหาชัย เครือข่ายเดียวกับ 2 โรงงานที่ถูกสั่งปิด เจอลอตใหม่อีกกว่า 1,200 ตัน สั่งดำเนินคดี
วันที่ 5 มกราคม 2568 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้สั่งทีมตรวจการสุดซอย นำโดย น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงาน รมว.อุตสาหกรรม และนายเอกนิติ รมยานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ตรวจสอบ บริษัท ซี เอช เอช รีไซเคิล จำกัด จ.สมุทรสาคร โดยมี พ.ต.อ.อภิสัณฐ์ ไชยรัตน์ ผู้กำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ด้วย
ทั้งนี้ พบมีการลักลอบประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต ครอบครองวัตถุอันตรายขยะอิเล็กทรอนิกส์กว่า 1,200 ตัน และยังพบเครื่องจ่ายไฟฟ้าสำหรับเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ไม่แสดงเครื่องหมายมาตรฐานผลิตภัณฑ์ (มอก.) โดยของกลางบางส่วนคาดว่านำมาจาก บริษัท ทีแอนด์ที เวสต์ แมเนจเม้นท์ 2017 จำกัด จ.ปราจีนบุรี ซึ่งถูกกระทรวงอุตสาหกรรมสั่งปิดไปตั้งแต่เดือนกันยายน 2567 เนื่องจากฝ่าฝืนพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535
...
นายเอกนัฏ กล่าวต่อไปว่า สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร จึงบังคับใช้มาตรา 37 แห่ง พ.ร.บ.โรงงาน สั่งให้ บริษัท ซี เอช เอช รีไซเคิล จำกัด หยุดประกอบกิจการ และยึดอายัดของกลางทั้งหมด พร้อมแจ้งข้อหาและดำเนินคดีฐานกระทำผิด พ.ร.บ.โรงงาน ดังนี้
1. ตั้งโรงงานและประกอบกิจการจำพวกที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต มีบทกำหนดโทษตามมาตรา 50 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. เปลี่ยนแปลงเครื่องจักรโดยไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ เป็นความผิดตามมาตรา 19 อันมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 51 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท
3. ครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาตต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
4. เจ้าหน้าที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ยังได้แจ้งข้อหาในส่วนของเครื่องจ่ายไฟฟ้าไม่มีเครื่องหมาย มอก. มีโทษตามมาตรา 55 จำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จะแจ้งข้อหาร่วมกันลักลอบเคลื่อนย้ายทำลายของกลาง มีโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป และปรับตั้งแต่ 40,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ
น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าวเสริมว่า ปฏิบัติการครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2568 รถบรรทุกของบริษัท ซี เอช เอช รีไซเคิล จำกัด ทำของหล่นบนท้องถนน เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการตรวจสอบ พบว่า ขนของออกมาจากบริษัท หัวไท่เซิงเหอ จำกัด ต.ศรีมหาโพธิ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นโรงงานถูกดำเนินคดีประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีสิ่งของที่อยู่ระหว่างคำสั่งยึดอายัด จากอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรี อีกทั้งจากการสอบปากคำผู้รับจ้างที่เป็นเจ้าของรถบรรทุก ได้รับการติดต่อประสานงานทางไลน์กลุ่มผู้ประกอบการรถบรรทุก จึงมารับจ้างขนจากโรงงาน โดยขนมาจำนวน 2 คัน เป็นรถหัวลากพื้นเรียบ โดยมีปลายทางคือ บริษัท ซี เอช เอช รีไซเคิล จำกัด นายเอกนัฏ จึงได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการสุดซอย ขยายผลเข้าตรวจสอบจนพบการกระทำผิดดังกล่าว.