“ณัฐวุฒิ” ยัน รัฐบาลอยู่ครบเทอม “ทักษิณ” อ้อนชาวเชียงรายหนุน “สลักจฤฎดิ์” มั่นใจ “นายกฯ อิ๊งค์” แก้ปัญหาประเทศได้แน่ รัฐบาลเตรียมทุบค่าไฟเหลือ 3.70 บาท แง้มเงิน 10,000 เฟส 3 ช่วง มี.ค.
เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 5 มกราคม 2568 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศรัยในฐานะผู้ช่วยหาเสียง นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย พรรคเพื่อไทย (พท.) ที่โรงเรียนปล้องวิทยาคม อ.เทิง จ.เชียงราย ว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเจ้าของสถิติที่ไปจังหวัดไหนก็ชนะทุกที่ ไม่ว่าจะปทุมธานี อุดรธานี อุบลราชธานี ก็ชนะมาหมด และมาที่เชียงราย เวทีไหนก็เวทีนั้น ไม่เคยแพ้ และเวทีนี้ นายทักษิณมาเอง เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีผลงานและประสบความสำเร็จมากที่สุดในประเทศไทย และเป็นคนเหนือ เป็นคนที่พูดภาษาเดียวกันกับพี่น้อง ก่อนที่นายณัฐวุฒิ จะเล่นมุกว่า “ยอดรัก สลักใจ นายกเชียงรายต้องสลักจฤฎดิ์”
...
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อไปว่า หลายคนถามตนขึ้นปีใหม่นายกรัฐมนตรีจะไปรอดหรือไม่ เลยตอบกลับไปว่ารัฐบาลอยู่ครบเทอมอีก 2 ปี จนถึงเลือกตั้ง แล้วก็กลับมาใหม่ หลายคนบอกว่านายกรัฐมนตรีต้องมีพ่อคอยสอน มีพ่อคอยแนะ ก็เขาเป็นพ่อลูกกัน แล้วพ่อก็เคยเป็นนายกรัฐมนตรีมาก่อน ทำงานมีประสบการณ์ มีผลงานมาก่อน จะแนะนำให้คำปรึกษาลูกแปลกตรงไหน หรือพวกคุณต้องการนายกรัฐมนตรีที่พ่อแม่ไม่สั่งสอน ขนาดนายกรัฐมนตรีมาเลเซียยังเชิญนายทักษิณ ไปเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน
นับประสาอะไรกับนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ที่เป็นลูกสาว จะขอคำชี้แนะไม่ได้ ตนมองว่าเป็นกำไร เพราะ น.ส.แพทองธาร กำลังสดใหม่ บวกกับนายทักษิณ ก็เป็นนายกรัฐมนตรีระดับโลก และการลงไปเจรจากับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียในเรือกลางทะเล ถือเป็นการลงเรือลำเดียวกัน อาเซียนไปไหนไปด้วยกัน ทั้งนี้ ทุกนโยบายที่รัฐบาลประกาศกำลังจะเกิดขึ้นในปีนี้ พรรคเพื่อไทยทำให้คนรวยทุกคนไม่ได้ แต่สร้างโอกาสให้ทุกคนได้ปลดหนี้ และต้นปีรัฐบาลจะประกาศการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับประชาชน
อ้อนคิดถึงชาวเชียงราย เลือกตั้งหน้าขอ สส. คืนเพื่อไทย
ต่อมาเวลา 11.30 น. นายทักษิณ ขึ้นเวทีในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของ นางสลักจฤฎดิ์ โดยมีมวลชนนับหมื่นจาก 4 อำเภอ คือ อ.เทิง อ.พญาเม็งราย อ.ขุนตาล และ อ.เชียงของ มาฟังปราศรัย นายทักษิณ กล่าวว่า วันนี้มาด้วย 3 เหตุผล คือ 1. คิดถึงประชาชนชาวเชียงราย ไม่ได้เจอกันมา 20 กว่าปี 2. นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นน้องรัก สร้างพรรคมาด้วยกัน เมื่อนายยงยุทธ ตัดสินใจส่งนางสลักจฤฎดิ์ ลงนายก อบจ. จึงมาสนับสนุนให้ชนะเลือกตั้ง และ 3. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นลูกสาวตน ตนก็มีหน้าที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย เพราะตนสร้างมา จึงต้องมาเชียร์นางสลักจฤฎดิ์ เต็มที่
นายทักษิณ เผยต่อไป เดิมตนก็ไม่ได้สนใจการเมืองท้องถิ่น เพราะก่อนหน้านั้นเป็นรัฐบาลมาจากพรรคใหญ่ มีกลไกในทุกกระทรวง แต่วันนี้เราไม่ได้มี สส. 200 เหมือนเมื่อก่อน ในการเลือกตั้งสมัยหน้าก็ขอให้คืน สส. ให้กับพรรคเพื่อไทยให้หมด ดังนั้น พรรคจึงมองว่าการเมืองท้องถิ่นเป็นกลไกสำคัญ และตอนที่ตนกลับมา มานั่งดูปัญหาทุกเรื่องสิ่งที่เคยแก้ไว้มันหายไปหมด 17-18 ปีที่ไม่ได้อยู่ในประเทศไทยระบบเสียหายไปหลายอย่าง วันนี้เลยต้องมานั่งดูว่าจะทำอย่างไรบ้างให้ต่างจังหวัดฟื้นก่อน หากเศรษฐกิจในต่างจังหวัดฟื้น มีกินมีใช้ อีกหน่อยเศรษฐกิจประเทศก็จะดี
อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า หมู่คนแอฟริกา เดินแบบครั้งหนึ่งเป็นล้านบาท เด็กบ้านเรายังหน้าตาดีกว่า ไม่ต้องไปทำจมูก เสริมกราม ต่อไปนี้เราจะคัดคนบ้านเราที่เป็นชนชาติไทย คนดอย คนกระเหรี่ยง ที่สวยธรรมชาติ ใครบุคลิกดีส่งไปเป็นนางแบบระดับโลก ใครเล่น TikTok บ้าง 2-3 วันนี้ตนว่าง วันหยุดก็เลยนั่งดูตามโซเชียล บางคนมองโลกแย่ไปหมด ตื่นเช้ามาก็ด่ารัฐบาล บ่ายมาก็ด่ารัฐบาล ด่าอยู่นั้น รู้สึกสมเพชคนพวกนี้ อยากจะเอามาฝึกอาชีพ แต่ดูท่าแล้วจะเป็นคนไม่ขึ้นซ้าง ทำนองว่ามีหลักไว้ให้แต่ไม่เลื้อยขึ้น เลื้อยลงตลอด เราเอาคนไทยทั้งหมดอยากขึ้นซ้าง อย่างนั้นเรามาทำซ้างให้คนไทยขึ้น
“อิ๊งค์” อาสาเป็นนายกฯ เสียสละทำงานให้บ้านเมือง
พร้อมเล่าต่อไปว่า ตนถามคนในครอบครัวว่าใครจะอาสาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกฯ อิ๊งค์ ลูกคนเล็กอาสาเพื่อจะเสียสละทำงานให้บ้านเมือง ที่ผ่านมามีคนไปกระท่อนกระแท่นว่า น.ส.แพทองธาร มีเครื่องแต่งตัวเยอะ นายกฯ อิ๊งค์ เป็นลูกคนสุดท้อง ตนเป็นคนหลงลูกสาว จึงซื้อของแต่งตัวให้เยอะ มีอะไรก็ซื้อให้หมด ก็เลยมีของเยอะเพราะพ่อซื้อให้ ซื้อให้เอาใจ แล้วปีนี้เลยต้องใช้งาน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าในช่วงนี้มีมวลชนตะโกนว่าให้นายทักษิณกลับมาเป็นนายกฯ นายทักษิณ ตอบว่า “แก่แล้ว ขอสนับสนุนให้ลูกเป็นแล้วคอยส่งเสริมดีกว่า ได้ค่าช่วยหาเสียงวันละ 300 บาท วันนี้มา 3 เวที ได้เวทีละ 100 บาท มาลำบากก็ตอนแก่ เมื่อตอนไม่เล่นการเมืองก็สบาย มีเงินอยู่ 60,000 ล้านบาท พออยู่ไปอยู่มา ก็จนลง เพราะโดนยึดบ้าง โดนหาเรื่องบ้างสารพัดอย่าง พวกนี้หาว่าผมไปเอาตังค์ที่ไหนมา ก็ผมรวยตั้งแต่ปี 2535-2536 แล้ว ตอนนั้นผมรวยที่สุดในประเทศ แต่ตอนนี้จนพอๆกับชาวเชียงราย"
นายทักษิณ ปราศรัยด้วยว่า วันนี้ความคิดของคนไม่เหมือนกัน ตนมีความคิดแบบคนสมัยใหม่ คนรุ่นเก่าบางคนออกมาด่าตนสารพัด มีอยู่คนหนึ่งหาว่าตนสร้างความวุ่นวาย ตั้งแต่แพ้การเลือกตั้งเมื่อปี 2544 ก็แค้นจนถึงทุกวันนี้ คนที่มาด่าตน เขตเลือกตั้งมี 450 คน เลือกเขาแค่ 47 คน แก่แล้วยังลงเลือกตั้งอยู่ แต่ตนพอแล้ว ไม่อยากอะไรแล้ว ช่วยประชาชนดีกว่า ทำงานให้บ้านเมือง ไม่มีเงินก็ไม่เป็นไร ตอนนี้เป็นชาวเกาะ แก่แล้วกลับมาเป็นชาวเกาะ เกาะเมียกิน
เงิน 10,000 เฟส 3 รอระบบเสร็จ มี.ค. 2568
ในประเด็นดิจิทัลวอลเล็ต นายทักษิณ ระบุว่า ที่รัฐบาลประกาศไว้เทคโนโลยีจะเสร็จเดือนมีนาคม 2568 พอเสร็จแล้วเราก็จะโอนเงินให้คนที่มีอายุ 60 ลงมา ส่วนวันที่ 29 มกราคม 2568 จะเป็นเงินให้สำหรับคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และจะให้คนหนุ่มสาวเรียนรู้การใช้เทคโนโลยี เพราะอีกหน่อยการติดต่อกับรัฐบาลจะผ่าน ดิจิทัลวอลเล็ตหมด เงินไม่ใช่ทุกอย่าง แต่เป็นเกือบทุกอย่าง ถ้าไม่มีเงินไม่รู้จะทำอย่างไร ใช้เงินสร้างเศรษฐกิจ สร้างความสุขในครอบครัว ถ้าเศรษฐกิจไม่ดีก็ลำบาก
ทั้งนี้ มีคนหนึ่งมาหาตน บอกมีวันนี้ได้เพราะสมัยที่ตนเป็นนายกฯ กลับมาวันนี้ตนเห็นประเทศทรุดไปมาก ถามว่าจะทำได้หรือไม่ ทำได้แต่อาจจะยากหน่อย และมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยภายใต้การนำของนายกฯ แพทองธาร จะแก้ปัญหาประเทศรอบนี้ได้ ปี 2568 ประชาชนจะเห็นว่าเริ่มฝันได้ และปลายปีก็จะต้องฝันแล้วว่าปีหน้าเราจะทำอะไร ปี 2568 ต้องเป็นปีที่ทุกคนขยันทำงาน ทั้งรัฐบาลและองค์กรท้องถิ่น รวมถึงจะจัดการให้เรียบทั้งปัญหายาเสพติดและแก๊งคอลเซ็นเตอร์
จ่อทุบค่าลงเหลือ 3.70 บาท ขอเวลา 2 ปี หนี้ประเทศลด
นายทักษิณ กล่าวในตอนท้าย ต้องยอมรับว่าตอนนี้บ้านเราหนี้ประชาชนสูง หนี้ประเทศสูง ขอเวลาอีก 2 ปี หนี้ประเทศจะลดลง บ้านเรามีเสือนอนกิน มีทุกที่ทุกวงการ กำลังนั่งไล่ให้รัฐมนตรีไปพูดกับข้าราชการ ก็มีคำแก้ตัวสารพัด นายกฯ ก็ไปพูดกับรัฐมนตรีว่าต้องทำให้ได้ ถ้าทำไม่ได้จะเปลี่ยนคนมาแทน รัฐมนตรีจึงจะกระเตื้อง
“อย่างเรื่องข้าว เรื่องไฟฟ้า ปีนี้ค่าไฟฟ้าจะต้องลงไปอยู่ที่เลข 3 ไม่ใช่เลข 4 ใจตนอยากให้เหลือ 3.50 บาท แต่คงได้แค่ 3.70 บาท กำลังให้เขาช่วยทุบอยู่ ปีนี้ค่าไฟลงแน่ เห็นตัวเลขแล้วทุบได้ ต่อไปค่าอาหารสัตว์ ค่าปุ๋ย ค่ายาก็จะให้ลง เรื่องนี้จะต้องทำให้เป็นจริงภายในปีนี้ให้หมดทุกอย่าง ถึงบอกว่าปีนี้รัฐบาลต้องทำงานหนัก 1. ยาเสพติด ต้องเอาให้เกลี้ยง 2. คอลเซ็นเตอร์ต้องเอาให้เกลี้ยง 3. การผูกขาดทุกรูปแบบต้องเอาให้หมด เพื่อให้พี่น้องมีค่าใช้จ่ายในชีวิตต่ำลง ทำรายได้ให้ดีขึ้น มีโอกาสดีขึ้น”
ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นในปี 2568 ส่วนเรื่องโฉนดที่ดินทำกินทั้งหลาย กำลังคุยกันอยู่ อย่างที่ดินสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร (ส.ป.ก.) จะให้เป็นแค่โฉนด ส.ป.ก. ไม่ได้ แต่ต้องเปลี่ยนเป็นโฉนดจริง ทำมาหากินได้ ส่วนที่ถูกนายทุนยึดไปก็ยึดคืนมา แต่ถ้าเขาเอาไปสร้างสิ่งปลูกสร้างแล้วก็ต้องให้เขาเสียค่าเช่า เพราะเจตนารมณ์ ส.ป.ก. เพื่อช่วยชาวบ้านที่ไม่มีที่ทำกินและไม่มีเอกสารสิทธิ์ที่แน่นอน เชื่อว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาประเทศได้ไม่เกินมือ.