“จิรายุ” เผย นายกฯ เน้นย้ำเร่งแก้ไขปัญหาคอลเซ็นเตอร์ รัฐบาลตั้งเป้าจัดการอาชญากรรมไซเบอร์และการหลอกลวงจะต้องหมดไปในปี 68 พร้อมย้ำ เงินหมื่นเฟส 2 ได้ใน ม.ค. ยันมีเฟส 3 แน่นอน

วันที่ 4 มกราคม 2568 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานจาก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้นำระบบดิจิทัลและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยให้กับประชาชน เพื่อป้องกัน ปราบปราม และรับมือกับอาชญากรรมที่มีการเปลี่ยนรูปแบบสร้างความเสียหายแก่ประชาชน ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันรวมทั้งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงประชาชน และดำเนินการไปพร้อมกับการกวดขันจับกุม

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ได้จัดทำแอปพลิเคชัน “Thailand Tourist Police” โดยมีจุดเด่นด้วยระบบปุ่ม SOS และ GPS ที่สามารถแชร์โลเคชันผู้แจ้ง เพื่อส่งพิกัดขอรับการช่วยเหลือจากตำรวจท่องเที่ยวที่รับผิดชอบพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวในพื้นที่ที่ปฏิบัติหน้าที่จะได้รับข้อมูลพร้อมกันทุกคน และในกรณีเหตุฉุกเฉิน ยังสามารถใช้เบอร์โทรศัพท์สายด่วนหมายเลข 1155 ของกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวเป็นช่องทางหลักในการรับเรื่องและประสานการดำเนินการแก้ไขปัญหา ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งมีสถานีตำรวจท่องเที่ยวเปิดให้บริการทั่วประเทศ ซึ่งจะมีล่ามช่วยแปลได้ถึง 8 ภาษา คือ อังกฤษ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น รัสเซีย ภาษาฮินดี เยอรมัน และฝรั่งเศส สามารถใช้แอปพลิเคชัน Thailand Tourist Police ได้แล้วทั้งในระบบ iOS, Android และ Huawei AppGallery

...

นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ยังมี Cyber Check ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่จะช่วยให้ประชาชนคัดกรองมิจฉาชีพจากเบอร์โทรศัพท์ปริศนาที่โทรเข้ามา รวมทั้งสามารถใช้แอปพลิเคชันนี้ตรวจสอบเลขบัญชีธนาคารก่อนจะโอนเงินได้ เพียงนำหมายเลขบัญชีไปใส่แล้วกดโทรออก ซึ่งจุดเด่นของ Cyber Check คือระบบไม่มีการดึงข้อมูลของผู้ใช้งานเหมือนแอปพลิเคชันอื่นๆ แต่ใช้ฐานข้อมูลจากระบบรับแจ้งความออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีการร้องเรียนและดำเนินคดีจริง โดยในอนาคตจะเป็นการสร้างความมั่นใจในการตัดสินใจซื้อสินค้าโดยแอปพลิเคชันนี้ จะมีการลงทะเบียนรวบรวมข้อมูลผู้ทำการค้าออนไลน์จริงเพื่อเป็นฐานข้อมูลให้ลูกค้าได้รับความไว้วางใจและเป็นการสร้างความปลอดภัยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ซื้อเพื่อจะกระตุ้นเศรษฐกิจ

สำหรับหน่วยงานราชการหรือเอกชนที่ถูกมิจฉาชีพนำข้อมูลไปแอบอ้าง สามารถติดต่อเพื่อขอลงข้อมูลให้ประชาชนทราบว่าผู้ที่แอบอ้างไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือเอกชนที่มีหน้าที่ติดต่อประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งหน่วยงานต่างๆ สามารถติดต่อขอลงทะเบียนข้อมูลได้ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) โดยประชาชนสามารถใช้แอปพลิเคชัน Cyber Check ได้แล้วทั้งในระบบ Android และ iOS โดยสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งบน Google Play และ App Store

โฆษกรัฐบาลยังเน้นย้ำด้วยว่า นายกรัฐมนตรีได้กำหนดเป้าหมายสำคัญด้านความมั่นคงในปี 2568 คือ การป้องกันอาชญากรรมอย่างรอบด้าน และปราบปรามเชิงรุก บูรณาการร่วมงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความปลอดภัยและเสริมสร้างความเชื่อมั่นของประชาชน ผ่านนโยบายและมาตรการต่างๆ เน้นการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ตอบสนองประชาชนอย่างทันท่วงที เพื่อสร้างความสงบสุขให้สังคมและลดอาชญากรรมในทุกมิติ ซึ่งรัฐบาลเชื่อมั่นว่าในปี 2568 อาชญากรรมไซเบอร์และการหลอกลวงจะต้องหมดไป

ขณะที่วันนี้ นายจิรายุ ยังได้เปิดเผยในรายการเสียงจากใจไทยคู่ฟ้า ถึงผลงานรัฐบาลรอบ 3 เดือน ในส่วนของกระทรวงการคลัง โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือคนพิการทั้งหมดกว่า 12 ล้านคน ได้รับเงินหมื่นเป็นที่เรียบร้อย ส่วนโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 2 สำหรับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ จะได้รับเงินหมื่นไม่เกินสิ้นเดือนมกราคม 2568 แน่นอน และเฟส 3 อย่างไรก็มาแน่ แจกเฟส 1 แล้ว มอบเฟส 2 แล้ว จะไม่มอบให้เฟส 3 ได้อย่างไร

นอกจากนี้ ยังมีผลงานรัฐบาลในส่วนอื่นๆ เช่น โครงการช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท โดยเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรจะได้รับเงินไร่ละ 1,000 บาทไม่เกินครัวเรือนละ 10 ไร่ มาตรการด้านภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ กระทรวงมหาดไทยทำโครงการประชาสุขใจค่าไฟยืดชำระ และกระทรวงพลังงานที่มีมาตรการช่วยลดราคาพลังงาน เป็นต้น.