“นายกฯอิ๊งค์” โพสต์เฟซบุ๊กอวยพรปีใหม่ ให้คำมั่นปี 68 เป็นปีแห่งโอกาส ความหวังและความฝันของคนไทย ยันรัฐบาลลุยเต็มที่ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน “ยิ่งลักษณ์” ขอเป็นกำลังใจให้ก้าวข้ามทุกอุปสรรค “ภูมิธรรม” การันตีรัฐบาลเดินทางต่อครบ 4 ปี ไร้รัฐประหาร อวดสัมพันธ์ปึ้กขุนทหาร นัดกอดคออี๋อ๋อหม่ำข้าวพร้อมหน้า ผบ.เหล่าทัพ เด็ก พท.โอ่ รบ.พร้อมโชว์ผลงานหักล้างข้อหาบนเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจ “ณัฐพงษ์” ปลุกคนไทยอย่าทิ้งความหวัง สานฝันสร้างความเปลี่ยนแปลง ปักธงเดือน มี.ค.เปิดมีดซักฟอกขย่มรัฐบาล ตอกลิ่มสารพัดรอยร้าวพรรคร่วมฯเบ่งบาน สะท้อนรัฐนาวาไม่ได้มีเอกภาพแท้จริง
เริ่มต้นศักราชใหม่ปี 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมอวยพรให้กำลังใจพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งการันตีว่ารัฐบาลจะเร่งเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทย ขณะที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายค้าน ระบุไทม์ไลน์การยื่นญัตติ ขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลจะเกิดขึ้นในเดือน มี.ค.แน่นอน
“อิ๊งค์” ยัน รบ.เต็มที่เพื่อโอกาสคนไทย
เมื่อเวลา 06.25 น. วันที่ 1 ม.ค. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เนื่องใน โอกาสขึ้นปีใหม่ 2568 ว่า สวัสดีปีใหม่ 2568 ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก ดลบันดาลให้ท่านและครอบครัวประสบแต่ความสุขความเจริญ ขอให้เป็นปีแห่งโอกาส ความหวัง และความฝันของคนไทย รัฐบาลจะทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของพี่น้องทุกคนค่ะ นอกจากนี้ ยังได้โพสต์ภาพกราฟิกข้อความว่า “โอกาสประเทศไทย EMPOWERING THAIS”
“ยิ่งลักษณ์” เป็นกำลังใจก้าวข้ามอุปสรรค
...
ขณะที่เมื่อเวลา 12.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra ว่า สวัสดีปีใหม่ 2568 นะคะ ขอให้ปีใหม่ ปี 2568 นี้ เป็นปีที่ดีของทุกคน ให้ได้มีโอกาสและคุณภาพชีวิตที่ดี สุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัย มีพลังกายพลังใจ ทำกิจการใดๆ ให้เจริญรุ่งเรือง ประสบความสำเร็จในทุกสิ่งที่หวัง ดิฉันขอส่งกำลังใจให้ทุกท่านก้าวข้ามอุปสรรคทุกอย่างไปได้ค่ะ
“ภูมิธรรม” มั่นใจ รบ.ครบ 4 ปี ไร้ รปห.
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีการมองกันว่า การเมืองปี 68 จะร้อนแรง ไม่ว่าเรื่องกระแสข่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะเดินทางกลับประเทศ เพื่อเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย หรือกรณีปัญหาเอ็มโอยู 44 จะเป็นปฏิกิริยาเร่งให้คนลงถนนหรือไม่ ในฐานะดูแลด้านความมั่นคง จะทำอย่างไร ไม่ให้สถานการณ์ของรัฐบาลพรรค พท. ถูกปฏิวัติแบบในอดีตว่า ยังไม่คิดมองไปถึงขั้นอันตราย มากอย่างที่กังวลใจกัน เพราะหลายเรื่องยังเป็นเรื่องสมมติ เมื่อถามว่าที่ผ่านมาตั้งแต่เป็นรัฐบาลพรรค ไทยรักไทย (ทรท.) จนมาถึงพรรค พท. จะโดนลักษณะนี้ มีวิธีการป้องกันหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ต้อง เคารพและเชื่อมั่นในสิ่งที่เป็นอยู่ ต้องทำความเข้าใจกับคนในสังคม ให้เข้าใจกลไกที่ทำหน้าที่ชี้ให้เห็นถึง ความผิดพลาดเลวร้ายที่เกิดขึ้นและความเสียหาย ส่วนจะทำได้มากแค่ไหนอยู่ที่กระบวนการและพัฒนาการ ประชาธิปไตยภายในประเทศเรา ดังนั้น ไม่กังวลใจกับคำถามที่ว่าปีหน้าจะวุ่นวาย ถ้าเชื่อว่าจะวุ่นวายจะโดนรัฐประหาร ต้องไม่เชื่อมั่นว่าจะครบ 4 ปี ตอนนี้ยังเชื่อมั่นว่าจะอยู่ครบ 4 ปี และเชื่อว่าทุกปัญหา เราจัดการได้ด้วยความเข้าใจและอดทน
ดักคอ ปชต.ไม่ควรสะดุดขาดตอน
เมื่อถามว่าแสดงว่ามั่นใจจะไม่มีอุบัติเหตุทาง การเมือง ถึงมีอย่างไรจะไม่ยุบสภาใช่หรือไม่ นาย ภูมิธรรมกล่าวว่า พูดไปตามกลไกและตามระบบและ อยากเห็นกลไกและระบบมันทำหน้าที่ แต่เวลามีปัจจัย มีเงื่อนไขที่แทรกซ้อนที่ไม่ได้เกิดตามระบบและไม่ใช่ เกิดจากตัวเรา แต่เกิดจากคนอื่น แต่ขณะที่ตนเป็น ตัวแทนมาจากระบบและกำลังเดินตามระบบ ต้องเชื่อมั่นระบบ ถ้าไม่เชื่อมั่นระบบแล้วจะเชื่อมั่นอะไร ถ้าเชื่อมั่นแนวทางอื่น ซึ่งไม่ใช่วิถีทางที่ดีตามระบอบประชาธิปไตย จึงเชื่อมั่นแต่จะถูกจะผิด จะมีตัวแปรอื่น ต้องดูตามความเป็นจริง และเชื่อว่าถ้าเราเดินในจุดหมายทางนี้ได้ชัดเจน และประชาชนเข้าใจมากขึ้น ประชาธิปไตยไม่ควรสะดุดขาดตอน แม้จะเปลี่ยนผ่าน มือใคร ควรให้มีพัฒนาการไป ประเทศประชาธิปไตย ที่เขาเจริญแล้ว มีพัฒนาการทั้งนั้น และคิดว่าพัฒนาการ ที่เกิดขึ้นคือคนเรียนรู้ระบอบประชาธิปไตย ดีกว่ามา ตัดตอนหรือหาทางลัด ไม่เห็นด้วย
อี๋อ๋อทหารจ่อกินข้าว ผบ.เหล่าทัพ
นายภูมิธรรมกล่าวว่า ส่วนกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ บอกว่าจะไม่มีการยุบสภา ถ้าจะยุบก็ยุบก่อน 3-4 วันก่อนครบเทอม ไม่มีเหตุอะไรที่จะต้องยุบสภา เมื่อมาถึงเราอยากทำงานอยู่แล้วรัฐบาลนี้ไม่กลัวอุปสรรค ส่วนกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์คงอยากกลับตามธรรมดาของคนไปอยู่ต่างประเทศ เป็นเพราะไม่มีที่ไหนมีความสุขเท่ากับบ้านของเรา แต่ทุกอย่างต้องมีกระบวนการยุติธรรมต้องมีเหตุและผล ถ้าเข้ามาโดยมีเหตุและผล มีสังคม มีกติกา มีกฎหมายยอมรับ ไม่เห็นว่าจะมีปัญหาอะไร น.ส.ยิ่งลักษณ์เคยถูกข้อกล่าวหาอะไรต้องเคลียร์ข้อกล่าวหานั้นให้จบ และมีกระบวนการยุติธรรมในหลายมิติ ใช้กระบวนการยุติธรรมนั้น ถ้าใช้ได้เป็นกระบวนการยุติธรรมที่มีการเสนอไม่มีปัญหาอะไร เมื่อถามว่าไม่มีอะไรกับทหารใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมร้อง “โอ๊ย!” พร้อมกล่าวว่า ไม่มีๆ ดี ดีมาก อีกไม่กี่วันจะไปทานอาหารที่บ้านผู้บัญชาการทหาร และจะชวน ผบ.ทหารเหล่าทัพทั้งหมดไปนั่งกินข้าวด้วยกัน เห็นบอกมีผู้บัญชาการทหารคนหนึ่งทำอาหารอร่อย บอกว่าท่านทำเลยเดี๋ยวไปกินด้วยกัน
ชูผลงานรัฐบาลกลบศึกซักฟอก
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลช่วงต้นปี 2568 ว่า เป็นสิทธิฝ่ายค้านจะยื่นหรือไม่ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาลมีความพร้อมและมั่นใจในผลงานที่ผ่านมา พร้อมรับฟังความคิดเห็น และตอบคำถามทุกประเด็น การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นส่วนหนึ่งของกลไกประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ ช่วยให้การตรวจสอบรัฐบาลเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ รัฐบาลจะใช้โอกาสนี้แสดงความโปร่งใส สร้างความเข้าใจต่อประชาชน ผลงานรัฐบาลช่วง 90 วันแรก สะท้อนความมุ่งมั่นการพัฒนาประเทศอย่างชัดเจน มีผลงานเด่นชัด เช่น โครงการแจกเงินหมื่นฟื้นเศรษฐกิจดิจิทัลวอลเล็ต การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน การบริหารจัดการน้ำท่วม-น้ำแล้ง การแก้ปัญหายาเสพติด การลดปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 การส่งเสริมสินค้าโอทอป การยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนผ่านมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย การแก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกร การผลักดันนโยบายเรียนฟรีถึงระดับปริญญาตรี รัฐบาลพร้อมใช้เวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมา เดินหน้าผลักดันนโยบายสำคัญ เร่งแก้ปัญหาค่าครองชีพ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน สร้างความมั่นคงให้ประเทศระยะยาว
ลูกหาบเหน็บ “ชวน” ดีอยู่คนเดียว
นายพายัพ ปั้นเกตุ ที่ปรึกษานายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีนายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) วิจารณ์นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทำการเมืองปั่นป่วนทั้งที่ไม่มีหน้าที่ว่า นิสัยนายชวนเป็นแบบนี้ถาวรไม่เคยเปลี่ยน คิดว่าตัวเองดีอยู่คนเดียว คนอื่นเลวหมดใช้วาทกรรมเดิมๆ เหยียดหยันคู่ต่อสู้ทางการเมือง วันนี้คนพรรค ปชป.ส่วนหนึ่งเห็นแก่ประเทศ ตัดสินใจร่วมรัฐบาล นายชวนควรไปเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านตัวเอง ถ้าเป็นคนดีที่สุดกว่าคนอื่นในประเทศ แล้วปล่อยให้พรรคตกต่ำได้อย่างไร ส่วนการลงพื้นที่ทำกิจกรรมการเมืองของนายทักษิณเป็นไปตามกรอบกฎหมาย คนมีความรู้ ความสามารถห่วงใยบ้านเมือง อะไรที่ทำให้ประเทศได้ถือเป็นเรื่องดี ทุกฝ่ายควรช่วยกัน ไม่นิ่งดูดาย หรือพูดว่าตัวเองดีแล้วคนอื่นแย่เหมือนนายชวนทำ นายชวนเป็นคนเก่าแก่ ควรเห็นแก่ประโยชน์บ้านเมือง ทำใจให้กว้างกว่าอคติส่วนตัว เลิกร้อนตัวหวาดระแวงนายทักษิณจะทำประโยชน์ให้ประชาชนมากกว่า จนคนลืมชื่อชวน หลีกภัย
“เท้ง” ปลุกคนไทยอย่าทิ้งความหวัง
วันเดียวกัน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวอวยพรประชาชนเนื่องในโอกาสปีใหม่ 2568 โดยระบุว่า อยากให้ทุกคนมองปี 2568 เป็นปีแห่งความหวัง ถึงประเทศไทยจะมีความท้าทายทั้งจากบริบทโลกและจากระบบการเมืองในประเทศก็ตาม แต่เมื่อไหร่ที่เราทิ้งความหวัง เราจะไม่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ เรื่องการเมืองท้องถิ่น อยากให้ทุกคนออกไปใช้สิทธิใช้เสียงกันมากๆ เพื่อให้ได้ตัวแทนในระดับองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และระดับเทศบาล ที่จะเลือกตั้งในปี 2568 ให้มาทำงานเพื่อประชาชนจริงๆ อยากให้ประชาชนช่วยกันผลักดันวาระแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตอนนี้ปลดล็อกด่านแรกได้แล้ว คือเรื่องการทำประชามติ ทำเพียงแค่ 2 ครั้งได้ ประธานรัฐสภายอมบรรจุในระเบียบวาระ อยู่ที่ฝ่ายการเมืองว่าจะเอาอย่างไร มีเพียงเสียงของประชาชนเท่านั้นที่จะกดดันฝ่ายการเมืองได้ นอกจากนี้ยังอยากให้ร่วมกันผลักดันปณิธานประชาชน 2568 ไปด้วยกัน ช่วยกันส่งเสียงสนับสนุนชุดกฎหมายเปลี่ยนประเทศทั้ง 6 ชุด ของพรรคประชาชน และจะมีชุดกฎหมายที่มากกว่านี้ในอนาคต
ปักธง มี.ค.เปิดเวทีซักฟอกขย่ม รบ.
เมื่อถามถึงรายละเอียดการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในต้นปีหน้า นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ตามที่ได้มีการหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน กรอบเวลาจะอยู่ในช่วงเดือนมีนาคมแน่นอน เรื่องการจัดสรรโควตาการอภิปรายจะมีการหารือต่อไป แต่รายละเอียดของเนื้อหาอภิปรายยังไม่ได้มีการหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน และแนวปฏิบัติที่ผ่านมาพรรคร่วมฝ่ายค้านจะไม่ได้แบ่งปันข้อมูลกัน เพราะการทำงานจะต่างจากรัฐบาล แต่ละฝ่ายจะมีข้อมูลของตนเอง
ตอกลิ่มสารพัดรอยร้าวพรรคร่วมฯ
เมื่อถามว่าสำหรับอุดมการณ์พรรคร่วมฝ่ายค้านที่แตกต่างกันจะแก้ไขอย่างไร นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ไม่น่ามีปัญหาหรืออุปสรรคอะไร ขณะเดียวกันพรรคร่วมรัฐบาลเองอาจแสดงออกว่าไม่ได้เกิดเอกภาพในพรรคร่วมรัฐบาล ยกตัวอย่างกรณีล่าสุด เรื่องการชะลอซื้อพลังงานของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) นายกฯไม่ได้เข้าร่วมประชุม แต่ให้ รมว.พลังงาน เป็นประธานแทน จะเห็นว่าจุดยืนที่พรรคเพื่อไทยไม่เคยแสดงออกมาตลอด แต่ รมว.พลังงานกลับแสดงออกชัดเจน ตามที่เคยส่งหนังสือมาก่อนหน้านี้ และสั่งชะลอรับซื้อพลังงานไฟฟ้าได้ นอกจากนี้ยังมีประเด็นการเสนอกฎหมายจัดระเบียบกระทรวงกลาโหม การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พรรคร่วมรัฐบาลมีจุดยืนจะผลักดัน แต่สุดท้ายถูกแตะเบรก เพราะมีรอยร้าวความเห็นไม่ตรงกันในพรรคร่วมฯ สิ่งเหล่านี้น่าติดตามต่อไปในปี 2568
“วันนอร์” ห่วงการเมืองปี 68 ร้อนแรง
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองปี 2568 ว่า การเมืองปี 2568 รัฐบาลย่างเข้าสู่ปีที่ 2 เป็นเวลาเกือบครึ่งเทอม เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีความเข้มข้นทางการเมืองมากกว่าปีแรกๆ รวมทั้งปัญหาเศรษฐกิจปากท้องประชาชนยังไม่ได้รับการแก้ไขอีกมาก จึงเชื่อว่าปี 2568 การเมืองอาจรุนแรงมากกว่าปี 2566 และ 2567 อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลแก้ปัญหาต่างๆของประชาชนที่เดือดร้อนขณะนี้ได้ ความร้อนแรงจะลดลง รัฐบาลอาจจะอยู่ครบเทอมก็ได้ ขึ้นอยู่กับการแก้ปัญหาของรัฐบาล ส่วนการเมืองที่ร้อนแรงขึ้นจะมีผลให้การทำงานของสภาต้องสะดุดลงหรือไม่นั้น สภาคงไม่มีอะไร จะมีร้อนแรงหน่อยคือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นเรื่องปกติ ฝ่ายค้านสามารถยื่นอภิปราย มีเกือบทุกสมัยประชุม เชื่อว่าฝ่ายค้านเตรียมพร้อมเสนอญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ฝ่ายรัฐบาลก็ต้องพร้อมตอบเป็นบทบาททางการเมืองที่พิสูจน์ให้ประชาชนเห็นการทำงานทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านเป็นอย่างไร
ชม สส.–สว.ทำงานดีสภาไม่ล่ม
นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า ในฐานะประธานรัฐสภาเห็นว่า สส.และ สว.มีพัฒนาการในทางสร้างสรรค์มากขึ้น การอภิปราย การทำการบ้านของสมาชิกรัฐสภาเป็นไปด้วยดี การประชุมสภาปี 2567 ที่ผ่านมาไม่เคยล่ม องค์ประชุมครบ อยู่ทำงานดึกดื่นเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย หวังว่าปี 2568 ในด้านนิติบัญญัติจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยเหมือนปีที่ผ่านมา มีกฎหมายอีกหลายฉบับรอให้สมาชิกพิจารณาให้จบ รวมทั้งญัตติความเดือดร้อนต่างๆจำเป็นต้องใช้รัฐสภาพิจารณาแก้ไข ประชาชนหวังใช้สภาแก้ปัญหาบ้านเมือง มากกว่าแก้ด้วยวิธีอื่นๆ วิถีประชาธิปไตยคือการใช้รัฐสภาถกเถียงแก้ปัญหาบ้านเมือง สภาพร้อมทำงานอย่างหนักเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ
“ชวน” กระตุ้นคนไทยปรับตัวทันโลก
นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกรัฐมนตรี อดีตประธานสภาฯ กล่าวอวยพรเนื่องในโอกาสปีใหม่ 2568 ให้พี่น้องประชาชนว่า เราได้ผ่านเหตุการณ์ในปี 2567 มาทั้งบวกและลบมากมายแล้ว ในวิถีชีวิตของพวกเราต้องเจอทั้งสิ่งที่ดีและร้ายในอนาคตเช่นเดียวกัน แต่หวังว่าส่วนใหญ่ขอให้เป็นสิ่งที่ดี และขอให้พี่น้องประชาชนคนไทยประสบความสำเร็จในภารกิจด้วยความมุ่งมั่น ความพยายาม ส่วนตัวผมอยากให้คนไทยมีความเข้มแข็งด้วยการช่วยเหลือตัวเองได้ จึงไม่ค่อยสนับสนุน ในการทำให้คุณอ่อนแอด้วยการแจกเงิน แต่อยากให้พี่น้องได้มีโอกาสสร้างเนื้อสร้างตัว ด้วยความมานะของตัวเองแล้วเราจะภูมิใจ และพี่น้องจะไม่มีวันตกต่ำ ถ้าทำอะไรด้วยตัวเราเอง แต่ถ้ารุ่งเรืองด้วยเงินแจกมันไปไม่รอด วันหนึ่งมันก็ย้อนกลับไปสู่ความยากจนและการช่วยตัวเองไม่ได้ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพี่น้องจะได้ตระหนัก เงินใครก็อยากได้ แต่ขอให้เราต้องตระหนักว่าเราต้องพยายามพัฒนาตัวเองให้ทันต่อความเปลี่ยน แปลงของบ้านเมือง ไม่เช่นนั้นเราจะสู้กับเขาไม่ได้ ก็ขอให้พี่น้องทั้งหลายให้เจริญด้วยจตุรพิธพรชัย อายุ วรรณะ สุขะ พละ สำหรับพี่น้องชาวพุทธและก็มีความสันติสุข ความเจริญรุ่งเรืองสำหรับพี่น้อง ที่มีความเชื่อทางศาสนาอื่น ขอบพระคุณครับ
พท.โวยนักวิชาการชี้นำเลือกตั้ง อบจ.
ช่วงค่ำ นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิเคราะห์การเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่ จะวัดบารมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯและส่งผลถึงการเมืองระดับชาติ หากพรรคเพื่อไทยแพ้พรรคประชาชน (ปชน.) อาจทำให้ สส.หลายคนย้ายไปซบพรรคอื่นว่า เคารพความคิดเห็นของนายปริญญา แต่ไม่น่าจะเกี่ยวกัน นายปริญญาเป็นนักวิชาการอาจมองในมุมไม่เหมือนนักการเมือง แม้การเลือกตั้งจะขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชน แต่ความเห็นนักวิชาการมีผลแน่นอน เมื่อสื่อมวลชนให้ความสำคัญและให้พื้นที่นักวิชาการเยอะ กลายเป็นเหมือนหาเสียงทางอ้อม แม้จะออกตัวไม่ได้เลือกข้าง ไม่ได้พูดจูงใจให้ประชาชนเลือกพรรคหนึ่งพรรคใด แต่อาจส่งผลให้ประชาชนเปลี่ยนแปลงความคิดได้ พรรค พท.ทำดีที่สุดเต็มที่ที่สุด และผู้สมัครเอง ทำเต็มที่อย่างที่สุด ที่เหลือขึ้นอยู่กับประชาชน นักวิชาการมีผลหรือไม่ ถ้าเลือกตั้งคราวนี้แพ้อาจจะมีผล
เอือมการเมืองวังวนพูดจาให้ร้ายกัน
เมื่อถามว่า นายปริญญายังวิเคราะห์ว่าการเลือกตั้งนายก อบจ.ที่จะเกิดขึ้นในเดือน ก.พ.ยังมีอีกกว่า 40 จังหวัด จึงเป็นข้อได้เปรียบของพรรคปชน.ที่จะเรียกความนิยมคืน เพราะยังมีไพ่อีกหลายใบ แต่พรรค พท.เหลือเพียงไพ่ใบสุดท้ายคือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯที่จะเรียกคะแนนนิยม นายสรวงศ์ตอบว่า พรรค พท.ให้ความสำคัญทำเต็มที่ในทุกจังหวัดที่ส่งผู้สมัครลง เพราะคิดว่ามีโอกาสพรรค ปชน.จะมีไพ่กี่ใบแล้วแต่ สุดท้ายทุกคนสู้กันเต็มหน้าตัก มีอีกหลายองค์ประกอบ สำคัญที่สุดคือประชาชนคงจะรู้แล้วว่าอะไรคือความจริงหรืออะไรเป็นแค่คำพูด ขณะนี้การเมืองในประเทศไทยกลับมาเป็นแบบเดิม โจมตีกันไปกันมาพูดจาให้ร้ายกัน
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่