“ชวน-บัญญัติ-จุรินทร์” ร่อนหนังสือ “อิทธพร” แก้ปม “ท้องถิ่น” ชิงลาออก ทำประเทศสูญเสียงบประมาณซ้ำซ้อน ยกกฎหมาย กกต. เร่งแก้ไขผลาญงบฯ แผ่นดิน
วันที่ 27 ธ.ค. 2567 นายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยว่า ตนพร้อมกับนายบัญญัติ บรรทัดฐาน และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมทำหนังสือถึงประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เรื่องการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่มีบางจังหวัดนายกฯ อบจ. ลาออกก่อนครบวาระ ทำให้ต้องมีการจัดการเลือกตั้งใหม่ และจะต้องมีการจัดการเลือกตั้งเฉพาะตำแหน่งสมาชิก อบจ. ในบางจังหวัดที่อยู่ครบวาระอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดเดียวกันต้องจัดการเลือกตั้งถึง 2 ครั้งในระยะเวลาที่ไม่ห่างกัน ทำให้รัฐสูญเสียงบประมาณแผ่นดินซึ่งเป็นภาษีของประชาชน และยังส่งผลกระทบต่อความเชื่อถือศรัทธาของประชาชนต่อระบบการเมือง การปกครอง เพิ่มภาระการคลังของประเทศ และประชาชนโดยไม่จำเป็น จึงขอให้มีการพิจารณา และศึกษาแนวทางเพื่อปรับปรุงกฎหมาย และเสนอต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องต่อไป
นอกจากนี้เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา ตนยังได้ทำหนังสือถึงนายอิทธพร บุญประครอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่องการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี ที่จะครบวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปีในวันที่ 28 มี.ค. 2568 โดยระบุว่า ตามมาตรา 11 ของ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 กำหนดให้จัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน นับแต่วันที่สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่นดำรงตำแหน่งครบวาระ แต่ขณะนี้ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ในหลายเทศบาลนายกเทศมนตรีได้ลาออกจากตำแหน่ง และเชื่อว่าจะมีการทยอยลาออกจากตำแหน่งก่อนครบวาระ เหมือนกรณีนายก อบจ. ที่มีการลาออก ทำให้มีการจัดการเลือกตั้งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเดียวกันซ้ำ 2 รอบในระยะเวลาใกล้เคียงกัน ส่งผลให้ต้องสูญเสียงบประมาณแผ่นดิน ที่มาจากภาษีอากรของประชาชนโดยไม่จำเป็น และไม่เกิดประโยชน์แต่อย่างใด
...
นายชวน กล่าวอีกว่า โดยมาตรา 22 วรรคสอง ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 ที่บัญญัติให้ กกต. มีหน้าที่และอำนาจในการควบคุมกำกับดูแลการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม หรือเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ให้ถือเป็นหน้าที่ และอำนาจของคณะกรรมการที่จะต้องดำเนินการสอดส่ง และสอบสวน หรือไต่สวน เพื่อป้องกันและขจัดการกระทำ หรือการงดเว้นการกระทำใดอันจะก่อให้เกิดความไม่สุจริต หรือเที่ยงธรรมในการเลือกตั้งได้ ไม่ว่าจะเป็นเวลาในระหว่างประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งหรือไม่ก็ตาม ดังนั้นเพื่อปกป้องประโยชน์ของส่วนรวมและประชาชนจึงขอให้ประธาน กกต. ได้รับทราบและพิจารณาดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง อันจะทำให้เกิดความตระหนักทั้งผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และต่อประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในผลเสียหายที่จะเกิดจากการลาออกก่อนครบวาระการดำรงตำแหน่ง แม้การลาออกก่อนครบวาระจะเป็นสิทธิ์ที่สามารถกระทำได้ตามกฎหมายก็ตาม รวมทั้งให้สำนักงาน กกต. ได้พิจารณาศึกษาเพื่อหาแนวทางการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวในอนาคต