“ณัฐพงษ์” เผย ดินเนอร์พรรคร่วมฝ่ายค้าน หารือโควตาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล แนวทางการทำงาน ไม่อึดอัดใจร่วมงาน “บิ๊กป้อม” มั่นใจ อภิปรายครั้งนี้ประชาชนไม่ผิดหวัง
เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 18 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศจากร้านเอิกเกริก ริมน้ำ เขตบางพลัด กทม. ซึ่งนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้นัดดินเนอร์แกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านเป็นครั้งแรกหลังเข้ารับตำแหน่ง โดยแกนนำแต่ละพรรคทยอยเดินทางเข้าร่วม ในส่วนพรรคประชาชน อาทิ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน)
ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อาทิ นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ สส.พังงา และรองหัวหน้าพรรค, นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ สส.หนองคาย ในฐานะกรรมการบริหารพรรค, นายปริญญา ฤกษ์หร่าย สส.กำแพงเพชร และนายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ ในฐานะรองโฆษกพรรค ทางด้านพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) นำโดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย นายชัชวาล แพทยาไทย สส.ร้อยเอ็ด ในฐานะเลขาธิการพรรค
สำหรับเมนูอาหารดินเนอร์พรรคร่วมฝ่ายค้าน ประกอบด้วย น้ำพริกโจร ปลากะพงทอดน้ำปลา ต้มยำปลาเก๋าน้ำข้น กุ้งซอสมะขาม ยำไข่เค็ม ไข่เจียว ออส่วนหอยนางรม ใบเหลียงผัดไข่ หมูสับหนำเลี๊ยบ ส่วนอาหารหวาน คือ บัวลอยเผือกมะพร้าวอ่อน

...

ต่อมา นายณัฐพงษ์ ให้สัมภาษณ์ถึงหัวข้อการพูดคุยกับพรรคร่วมฝ่ายค้านในวันนี้ ว่า หลักๆ จะหารือในเรื่องการจัดสรรเวลาในการอภิปรายต่างๆ ทั้งการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 151 และอีกประเด็นคือการหารือการทำงานของพรรคฝ่ายค้าน เช่น ในเวทีผู้นำฝ่ายค้านพบประชาชน ซึ่งก่อนหน้านี้ นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้าน ก็มีการจัดเวทีผู้นำฝ่ายค้านพบประชาชนแล้ว ก็พยายามสานต่อเวทีนี้
เมื่อถามว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านยังมีจำนวนเท่าเดิมหรือไม่ หลังพรรคไทยสร้างไทยเหมือนมีจุดยืนทางการเมืองร่วมกับฝั่งรัฐบาล นายณัฐพงษ์ ยืนยันว่า ในส่วนของพรรคไทยสร้างไทยเป็นเรื่องภายในของแต่ละพรรค แต่ตัวเราเองยึดในหลักการ ซึ่งมีการส่งเทียบเชิญและมีการส่งตัวแทนของพรรคมาร่วมรับประทานอาหารร่วมกัน ขณะที่กระบวนการภายในของแต่ละพรรคเป็นอย่างไร พรรคประชาชนไม่สามารถก้าวก่ายได้
ในประเด็นคำถามว่าข้อมูลการอภิปรายต้องมีการเอามาแชร์กันหรือไม่ หลังบทบาทพรรคพลังประชารัฐที่ออกมาติดตามเรื่องนโยบายและการตรวจสอบรัฐบาล นายณัฐพงษ์ ตอบว่า ปกติการทำงานของพรรคฝ่ายค้านใช้วิธีการจัดสรรโควตาในการอภิปราย ส่วนเนื้อหาในการอภิปรายอย่างไรนั้น ที่ผ่านมาในกระบวนการปกติ ไม่ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกัน เพราะแต่ละพรรคมีการทำโจทย์และการทำการบ้านของตัวเองในการอภิปรายแล้ว ดังนั้น การหารือในการรับประทานร่วมกันในวันนี้จะพูดคุยเรื่องการทำงานกับพรรคร่วม


เมื่อถามต่อไปว่าจะมีการอภิปรายเรื่อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ นายณัฐพงษ์ ระบุว่า มีหลายเรื่องที่ตอนนี้เราได้รับข้อมูลมาจากหลายฝ่าย นอกจากที่มาสื่อสารเรื่องการพูดคุยของพรรคร่วมฝ่ายค้านแล้ว ตนอยากสื่อสารถึงประชาชน ข้าราชการที่ทำงานอยู่ในทุกส่วนราชการ ถ้ามีข้อมูลอะไรที่พบการทุจริตคอร์รัปชัน หรือการดำเนินนโยบายของรัฐที่ไม่ถูกต้อง สามารถส่งข้อมูลมาที่พรรคประชาชนหรือพรรคร่วมฝ่ายค้านได้เลย
ส่วนจะมีข้อมูลใหม่หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาคนผิดหวังกับการอภิปรายนั้น นายณัฐพงษ์ ย้ำว่าไม่ผิดหวังแน่นอน อยากให้ติดตาม ทั้งจากที่ นายปกรณ์วุฒิ แถลงข่าวไปก่อนหน้านี้ ซึ่งในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างแน่นอน และเนื้อหาในการอภิปรายเข้มข้นอย่างแน่นอน
นายณัฐพงษ์ ยังกล่าวถึงการอภิปรายภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรี ว่า ในวันนี้เราหารือกัน เชื่อว่ามีประเด็นที่เราเห็นว่าการทำงานของรัฐบาลยังไม่ตอบโจทย์หรือว่าหลายอย่างของสังคม รวมถึงข้อสงสัย แน่นอนว่าทุกเรื่องอยู่ในญัตติเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่นอน ส่วนภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรี เป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีต้องทำให้เห็นว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่คนอื่น ส่วนเรื่องการลงพื้นที่การดูปัญหาต่างๆ ในพื้นที่ เป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีควรต้องทำ เพื่อให้เข้าใจถึงปัญหาอย่างแท้จริง


ในส่วนนี้มีความคิดเห็นว่าไม่ใช่ทุกปัญหาต้องลงไปดูด้วยตนเอง บางปัญหาถ้าติดภารกิจจำเป็น สามารถมอบให้ผู้อื่นดำเนินการแทนได้ แต่ใจความสำคัญคือการกำกับดูแลอย่างมีประสิทธิภาพ และในฐานะนายกรัฐมนตรีคือความรับผิดชอบต่อสภาผู้แทนราษฎรในการมาตอบกระทู้ถามสดในสภา คิดว่ามีความจำเป็น ในเมื่อวันประชุมสภาล็อกอยู่แล้วว่าเป็นวันพฤหัสบดี เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะมาตอบฝ่ายนิติบัญญัติที่ทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุล ดังนั้น นายกรัฐมนตรีสามารถล็อกตารางล่วงหน้าได้ อยู่ที่การจัดลำดับความสำคัญของเรื่องนี้
ทางด้านคำถามว่า จะไว้วางใจพรรคร่วมฝ่ายค้านอย่างไร โดยเฉพาะกับพรรคพลังประชารัฐ นายณัฐพงษ์ ระบุว่า เป็นเรื่องของความมืออาชีพของแต่ละพรรค ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้าน ตนบอกไปแล้วว่าเราจัดสรรโควตาและกระบวนการผ่านวิปในการพูดคุยกัน เราจะมีการจัดสรรเวลาในการอภิปรายอย่างไร ส่วนประเด็นแต่ละประเด็นเป็นหน้าที่ของแต่ละพรรคที่จะไปจัดสรรโควตา และเตรียมมาอภิปราย
พร้อมกันนี้ นายณัฐพงษ์ ยืนยันด้วยว่า จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพราะการเชิญรับประทานอาหารร่วมกัน เราก็เชิญทุกพรรค ไม่ได้มีการกีดกันอะไร สำหรับกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้เดินทางมาด้วยตนเอง แต่ส่งตัวแทนมา มีนัยอะไรหรือไม่ โดยนายณัฐพงษ์ มองว่าเป็นเรื่องที่แต่ละท่านจะตัดสินใจด้วยตัวเอง ยืนยันว่าตอนที่ส่งเทียบเชิญ เราส่งเทียบเชิญไปทุกพรรคด้วยหมายที่เท่ากัน แต่ท่านจะตัดสินใจมาร่วมหรือไม่อย่างไร


ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าผิดหวังหรือไม่ที่พรรคพลังประชารัฐไม่ได้ส่งแกนนำของพรรคร่วมมา แต่ส่ง สส. มาแทน นายณัฐพงษ์ ตอบในประเด็นนี้ว่า สส. ก็มีสถานะเป็นผู้แทนราษฎรเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้น การตัดสินใจว่าจะส่งตัวแทนภายในพรรคใครมาหรือไม่มา ก็เป็นเรื่องภายในของแต่ละพรรค ซึ่งวันนี้ตัวแทนที่มาร่วมของทุกพรรค เราจะพูดคุยกันในส่วนตัวเนื้อหาเป็นหลัก และเชื่อว่าตัวแทนที่แต่ละพรรคส่งมา สามารถประสานงานต่อไปในพรรคได้ไม่น่ามีปัญหาอะไร
เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้ที่มีสโลแกนว่า “มีลุง ไม่มีเรา” แต่ครั้งนี้เป็นพรรคฝ่ายค้านร่วมกันแล้ว จะทำอย่างไรให้จุดยืนการทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้านตรวจสอบการทำงานรัฐบาลได้ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การทำงานของพรรคฝ่ายค้าน กลไกอาจต่างกับฝ่ายบริหาร อาจไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันถึงเนื้อหาในรายละเอียดว่ามีทิศทางในการอภิปรายอย่างไร เพราะแต่ละพรรคจะมีจุดยืนทางการเมืองของตัวเอง มีเนื้อหาที่ตัวเองนำเสนอด้วย เพราะฉะนั้น ในกรอบการทำงานของพรรคฝ่ายค้านในวันนี้จะมาพูดคุยเรื่องกรอบการจัดสรรเวลาและทิศทางการทำงานในอนาคต รวมถึงเวทีผู้นำฝ่ายค้านพบประชาชน หากพรรคพลังประชารัฐมีความยินดีอยากเสนอประเด็นอะไรที่ใช้เวทีผู้นำฝ่ายค้านในการลงไปเจอประชาชนในแต่ละพื้นที่ เราก็ยินดีไม่ปฏิเสธ
อย่างไรก็ตาม นายณัฐพงษ์ ยังได้กล่าวถึงการรับฟังคำแนะนำจาก พล.อ.ประวิตร หรือคีย์แมนของพรรคพลังประชารัฐ ว่า ไม่น่าเกี่ยวข้องกับการรับฟังข้อคิดเห็น เพราะทุกพรรค กระบวนการในการทำงานผ่านวิป และเรื่องเนื้อหาหลักของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในคำถามว่าครั้งนี้ “มีลุง มีเรา” ไม่อึดอัดใจใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ ยืนยันว่าไม่อึดอัดใจ และบรรยากาศวันนี้น่าจะเป็นไปได้ดี.



(ภาพ : ธนัท ชยพัทธฤทธี)