3 นายกฯ ร่วมสัมมนาพรรคเพื่อไทย “แพทองธาร” โปรยหวาน พร้อมปรับตัวให้เวลาสภาฯ มากขึ้น “เศรษฐา” อวย “อิ๊งค์” เหมาะสุดนั่งนายกฯ ด้าน “ทักษิณ” บอกเจรจากับพระเจ้าขอเวลาอีก 17 ปี กร้าว ใครไม่อยากร่วมรัฐบาลต่อบอกมาได้ ใครไม่จบขอเตะกันคนละที

วันที่ 13 ธันวาคม 2567 เมื่อเวลา 12.30 น. ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคเพื่อไทยจัดสัมมนาภายใต้โครงการ เสริมศักยภาพ สส. และบุคลากรทางการเมือง มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ รวมถึงแกนนำพรรคเพื่อไทยทั้งรองนายกฯ รัฐมนตรี สส. และสมาชิกพรรคเข้าร่วมการสัมมนาอย่างพร้อมเพรียง

โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวเปิดงานสัมมนา ว่า วันนี้เป็นนิมิตหมายที่ดีที่มาเจอกัน ถือเป็นโอกาสพิเศษมากๆ ที่มีนายกฯ 3 ท่านมารวมตัวกัน ตนขอยึดตำแหน่งหัวหน้าพรรคไว้ก่อน วันนี้รู้สึกอบอุ่นเหมือนมากับครอบครัว มากันพร้อมหน้า ต้องขอขอบคุณทีมงานหลังบ้านของพรรคเพื่อไทยที่เตรียมงานครั้งนี้ทำให้เราจัดงานสัมมนาได้แข็งแรงทุกครั้ง นานๆ มีครั้งแต่เรารู้สึกอบอุ่น ตนเป็นนายกฯ มา 90 วัน แต่เป็นหัวหน้าพรรคมา 1 ปี 1 เดือน มีความผูกพันกับพรรคอย่างมาก ได้เห็น สส. หลายท่านพัฒนาตัวเองอย่างมาก เช่นการอภิปรายในสภาฯ เป็นดาวสภาฯ ทำให้อยู่ในสายตาของคนทั้งประเทศ และการก่อตั้งทีมอคาเดมีของพรรค ซึ่งพรรคเพื่อไทยขาดหายไป ต้องขอบคุณทีมอคาเดมี ที่อยู่เบื้องหลัง ไม่ว่า สส. รุ่นไหน อย่าคิดว่าเราอยู่กันคนละฝั่ง ตนอยากให้ทุกคนเข้าหากันให้ความรู้กัน ถ้าเราจะมีพลังคือเราต้องร่วมกันต่อสู้ นั่นคือสิ่งที่อยากเห็นในอนาคต และในฐานะหัวหน้าพรรค ตนยืนยันว่าไม่ว่า สส. ในทุกพื้นที่มีความสำคัญหมด เพราะติดต่อกับประชาชนโดยตรง ขอให้ทำพื้นที่ให้ดีที่สุด และ สส. ปาร์ตี้ลิสต์ ก็ต้องช่วยกัน เพื่อก่อให้เกิดพลังอันยิ่งใหญ่ ตนดีใจที่ได้มารวมตัวกัน จากนี้จะขอปรับปรุงตัวแบ่งเวลาให้ดีขึ้น จะได้คุยกันให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการประชุมพรรคหรือการประชุมสภาฯ จะได้เจอกันบ่อยขึ้นขอสัญญาไว้เลย

...

ขณะที่นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ได้พูดอย่างนี้มานาน 3 เดือน ที่ผ่านมาก็เลี้ยงหมาอยู่บ้าน มีหลายพื้นที่ที่เราไปหาเสียงร่วมกัน ช่วงที่ตนเป็นนายกฯ ได้พูดคุยกับ น.ส.แพทองธาร ตลอดเพื่อให้ช่วยพูดคุยแก้ปัญหาร่วมกับ สส. ตอนเป็นนายกฯ ได้รู้ว่าหลายเรื่องมันไม่ง่าย เนื่องจากเรามี 141 สส. ตนดีใจที่ได้รับการสนับสนุนจาก สส. หลังจากพ้นจากตำแหน่งนายกฯ มีสื่อขอสัมภาษณ์ แต่ตนคิดว่าไม่เหมาะสม เพราะต้องให้เกียรติกับ น.ส.แพทองธาร ตนมั่นใจเราสามารถช่วยกันสนับสนุนได้ดี แม้เรามีพรรคร่วมที่ค่อนข้างเหนื่อย แต่เราต้องช่วยเหลือกัน และต้องช่วยกันเผยแพร่ผลงาน เนื่องจากมีการพูดคุยที่ไม่เหมาะสมพูดถึงรัฐบาลของเรา ตนมั่นใจว่านายกฯ คนปัจจุบัน มีความเหมาะสมที่สุด และสมควรอย่างยิ่งที่จะได้รับการสนับสนุนจากพวกท่าน นายกฯ ทำหลายอย่างได้ดีมาก เราอยากได้ความร่วมมือที่ดีขึ้น แม้เราจะมี สส. 141 ซึ่งล่อแหลมมากและตำแหน่งมีน้อย ต้องสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป เชื่อว่ากรรมการบริหารพรรคจะดูแลทุกคนอย่างดี เราก็ต้องช่วยเหลือกันอย่างดี เรามาสร้างบ้านหลังนี้ให้แข็งแรงให้น่าอยู่ ตนเป็นคนนอกมาอยู่ 2 ปี ก็มั่นใจว่าบ้านหลังนี้เป็นสถาบันทางการเมืองที่แข็งแกร่ง มีแต่พรรคเราที่เป็นแบบนี้ ท่านนายกฯ ทักษิณ กลับมาแล้ว ท่านก็มาช่วยเราคิดนโยบาย ตนวันนี้ก็ต้องสนับสนุนท่านนายกฯ

“ทักษิณ” ต่อรองเวลาพระเจ้าขออยู่ต่อ 17 ปี

จากนั้นนายทักษิณ กล่าวในฐานะวิทยากรพิเศษว่า ต้องขอบคุณเพราะมีโพเดียมให้เกาะ เนื่องจากอายุ 75 ปีแล้ว ยืนพูดแบบนายเศรษฐาคงไม่ไหว นั่งอยู่ข้างล่างตอน นายกฯ แพทองธารพูด ก็คิดว่าทำไมลูกเราพูดเก่งขึ้น ดีใจที่ได้มาพูดคุยกันหลังจากที่เราไม่ค่อยได้พูดกันตัวเป็นๆ มานาน วันนี้ก็ได้กลับมาเมืองไทย คิดว่าคงจะทำอะไรให้เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองไม่มากก็น้อย เพราะเวลาเหลือไม่นานแล้ว 75 แล้ว ตนเป็นคนคิดบวกพูดเล่นอะไรก็อย่าแปลกใจ ที่บอกขออีก 40 ปี ก็จะเจรจากับพระเจ้าในประเทศไทย ว่าขอเวลาอีก 17 ปีที่หายไป และตอนนี้ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือการที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐทรัมป์ กลับมา มีคนบอกว่าอเมริกาจะจัดการกับเรา เนื่องจากเราได้เปรียบดุลการค้าจากเขา เราต้องระวังเรื่องการขึ้นภาษี ส่วนกรณีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะใช้หนี้อเมริกาจากบิทคอยน์ ที่พูดไม่ใช่จะให้ซื้อ แต่เทรนด์เป็นอย่างนั้น เงินคริปโตหลายสกุลออกมาแล้ว มีคนบอกว่าอีกหน่อยเราจะมีสกุลเงินมากกว่าจำนวนประเทศ วันนี้คนไทยต้องคิดจะรู้ทันมันให้ได้ นายกฯ อาจจะมอบให้ทางกระทรวงการคลังศึกษา เพื่อรับบิทคอยน์ได้หรือไม่ ใช้แซนด์บ็อกซ์ เช่น จ.ภูเก็ต ใช้บิทคอยน์ เพื่อให้คนถือบิทคอยน์มาใช้เงิน อีกเรื่องที่น่าติดตามคือเหรียญที่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน นายกฯ อาจจะให้กระทรวงการคลังศึกษา ด้วยการออกคอยน์ โดยมีบอนด์ของรัฐบาลค้ำประกัน เพื่อทำให้เงินไหลเวียนในเศรษฐกิจ ถ้าทำแบบนี้เชื่อว่า จีดีพีปีหน้า 3.5 ไม่น่าจะมีปัญหา ปี 69 จีดีพี 4.0 ไม่น่าจะมีปัญหา

ย้ำปีหน้าเป็นปีแห่งโอกาส

“วันนี้เม็ดเงินในเศรษฐกิจเราโดนดูดออกหมด เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ไม่ออกกู้ เราต้องหาเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยไม่ทำให้เกิดปัญหาของประเทศ วันนี้หนี้สาธารณะเราเยอะมาก เราต้องทำให้จีดีพีเติบโต และลดการขาดดุล เพื่อทำให้หนี้สาธารณะลดลง พรรคเพื่อไทยเราต้องทำให้ได้ โดยปีหน้าจะเป็นปีแห่งโอกาสของคนไทย วันนี้งบประมาณปีหน้าเป็นปีที่เราจะต้องทำงานให้มีประสิทธิภาพ ต้องกดหนี้สาธารณะลงให้ได้ ต้องให้รัฐวิสาหกิจที่มีหนี้เยอะออกพ้นจากรัฐวิสาหกิจ เอาเอกชนมาลงทุนแทนรัฐ เช่น การลงทุนป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ เราก็ต้องหาทางทำแต่จะทำอย่างไร ถ้ารัฐไม่มีเงิน งบลงทุนมันต่ำ ก็ต้องให้เอกชนมาลงทุน เอกชนต้องคิดว่าเขาจะทำประโยชน์คุ้มค่าหรือไม่ ต้องไปดูตรงนี้ วันนี้เราพูดเรื่องการผูกขาด เรื่องไฟฟ้า เรามีหน่วยงานของรัฐ แต่ทุกคนต้องมีสวัสดิการของตัวเอง ทำให้ค่าไฟฟ้าของเรามีราคาแพง เราไม่ควรเห็นเลข 4 บาท เลข 3 บาทปลายก็ไม่ควรเห็น ต้องอยู่ 3 บาทกลาง ๆ เพราะประชาชนอยู่ไม่ได้” นายทักษิณ กล่าว

กร้าว ใครไม่อยากร่วมรบ.ต่อบอกมาได้

นายทักษิณ กล่าวว่า สองวันก่อนมี พ.ร.ก.เกี่ยวกับมาตรการทางภาษีระหว่างประเทศ เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ปรากฏว่ามีพรรคร่วมบางพรรคหลบ ป่วย อย่างนี้ไม่ใช่เลือดสุพรรณนี่หว่า ถ้าอยู่ด้วยกันก็ต้องด้วยกันสิ วันหลังไม่อยากอยู่ต้องบอกให้ชัดเจน เราเป็นคนพูดรู้เรื่อง ห้ามหนี ต่อไปใครหนีก็บอกว่าถ้าหนีก็ส่งใบลาออกมาด้วย ง่ายดี ตนเป็นคนเกลียดพวกอีแอบ ตรงไปตรงมาง่ายๆ อยู่ก็อยู่ไม่อยู่ก็ไม่ต้องอยู่ ถ้าอยู่ก็ต้องสู้ด้วยกัน ในเมื่อเป็นนโยบายรัฐบาลร่วมกัน แถลงนโยบายคุณยกมือเห็นด้วย พอได้เก้าอี้ รัฐมนตรีค่อยๆ หลบมือออก ไม่ได้ ต้องตรงไปตรงมา

ลั่นใครไม่จบเตะกันคนละทีจะเป็นไร

นายทักษิณ กล่าวด้วยว่า ประเทศไทยแปลกอย่างหนึ่งคนไม่มีอาชีพ มีฐานะดีกว่าคนมีอาชีพ แสดงว่าคนไทยไม่อยากมีเรื่อง ใครหาเรื่องก็ปิดปาก ถ้าสรรพากรได้ยิน ป.ป.ง.ได้ยิน ก็ไปตรวจสอบ บางคนเมีย 3 ลูก 5 ไม่ได้ทำอาชีพอะไร บางคนส่งลูกไปเรียนต่างประเทศทั้งที่อาชีพไม่มี บางคนถึงเวลาต้องไปหยอดเหรียญ ถ้าไม่หยอดก็รวนมันพอได้แล้ว ร้องไปร้องมาคนไม่เชื่อมั่นประเทศไทย ตอนที่ตนโดน นักลงทุนต่างประเทศมาพบถามว่าวิตกไหม ตนบอกว่าเราเปิดช่องให้ใครก็ไม่รู้มาร้อง บางคนไม่เกี่ยวข้องก็มาร้อง คนไทยเรามันเจ้าคิดเจ้าแค้น 17 ปีโดนเล่นงานมายกหูหาก็จบนะ จะจบก็ต้องจบ ไม่จบก็ไม่เป็นไร เตะกันคนละทีจะเป็นไร ไม่อยากเสียเวลายาว เสียมา 17 ปีพอแล้ว เหมือนพรรคร่วมรัฐบาลต้องทำงานร่วมกันจริงๆ ตรงไปตรงมา มีอะไรไม่พอใจพูดกัน แต่สิ่งไหนที่เป็นนโยบายรัฐบาลคือต้องทำ ไม่ใช่ได้ตำแหน่งแล้วไม่เอาแล้ว รัฐบาลเป็นกลไกประชาธิปไตย มีหลายออปชั่น อยากส่งสัญญาณให้รู้ว่า วันนั้นไม่สวยเลย วันนี้ที่หายไปตอน พ.ร.ก.เข้า มันไม่ใช่ลูกผู้ชาย ให้รู้ว่าการทำงานร่วมกันง่ายมาก

“ผมไม่ได้ครอบงำนายกฯ ใครมีลูกสาวจะรู้ว่าพ่อกับลูกสาวคนเล็ก มันแพ้ทางกันอยู่ ผมนี่ถูกใช้นะ พ่อทำโน้นให้หน่อย ทำนี่ให้หน่อย เงินเดือน 700 นะ เป็นผู้ช่วยหาเสียงวันละ 300 แต่ตอนนี้งานชุกหน่อย ศรีสะเกษ ก็เตรียมตัวไว้ เชียงใหม่ มีตังค์หรือเปล่า ช่วงเลือกนายก อบจ. อาจจะรวยหน่อย” นายทักษิณ กล่าว

ยัน เอ็มโอยู 44 ไม่เกี่ยวเขตแดนทางบก

นายทักษิณ ยังกล่าวถึงประเด็น เอ็มโอยู 44 ด้วยว่า สมัยที่ตนเป็นนายกฯ เป็นการเซ็นร่วมกันระหว่างรมว.ต่างประเทศไทยกับกัมพูชา สมัยตนเป็นนายกฯ เพื่อคุยกันเรื่องที่เราไม่ได้คุยกันเรื่องที่เราคุยกันไม่ได้ คือเรื่องการลากเส้นเขตแดนทางทะเลของแต่ละประเทศที่ไม่ตรงกัน ซึ่งต้องอ้างกฎหมายระหว่างประเทศ ส่วนเรื่องเกาะกูดที่คนบอกจะเอาไปให้เขา คนพูดไม่ได้ดูเนื้อหาสาระ เกาะกูดเป็นของไทยตั้งนานแล้วอยู่ในสนธิสัญญาระหว่างสยามกับฝรั่งเศส มันชัดเจนแล้วแต่วิธีลากเส้นของกัมพูชามันไม่ถูก เรามั่นใจวิธีเราถูกกว่า แต่สุดท้ายไม่เป็นไรเรามาคุยเรื่องที่เรายังไม่ตกลงว่าคืออะไรกันแน่แค่วางกรอบแต่วันนี้โวยวายกันใหญ่ แต่ต้องถามว่าพลังงานที่อยู่ในทะเลอีกสัก 20 ปีใช้ไม่ได้แล้ว อีก 20 ปีจะทิ้งทรัพย์สินตรงนี้สัก 4 ล้านๆ บาท ถ้าตกลงกันได้ซึ่งมี 2 ส่วนคือผลประโยชน์ในทะเลและบนบกที่ไม่มีปัญหาทำให้ยังไม่จบต้องคุยกัน ซึ่งการปักปันเขตแดนทุกด้านมีปัญหาหมดแต่เราอยู่ร่วมกันอย่างนี้ เพียงแต่เรื่องเขตแดนมันไม่จบ ต้องคุยกันด้วยหลักสากล เรื่องนี้คือตกลงจะคุยเรื่องที่เรายังไม่ตกลง อย่าเพิ่งโวยวายไม่มีใครขายชาติหรอกถ้าขายคนเฮงซวยพอคุยได้แต่คงไม่มีคนเอา ยืนยันเรื่องบนบกไม่ต้องเถียงจบไปนานแล้วเหลือแต่เส้นทางทะเล แต่วันนี้เถียงกันแทบตายแต่คนที่ได้ประโยชน์คือคนที่ได้สัมปทานเดิม อย่างไรก็ตามการเป็นเพื่อนดีกว่าเป็นศัตรูแต่หลักการประเทศต้องมาก่อน ไม่ใช่เป็นเพื่อนแล้วบอกยกประเทศให้เพื่อนอันนั้นมันควายแล้ว

“สุวัจน์” ต้อนรับ “นายกฯ อิ๊งค์-ทักษิณ” ที่หัวหิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น. นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานพรรคชาติพัฒนา และ น.ส. พราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหารบริษัท พราว เรียลเอสเตท พร้อมประชาชนหัวหิน ได้มาร่วมต้อนรับ น.ส. แพทองธาร นายทักษิณ ชินวัตร พร้อมสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่เดินทางด้วยขบวนรถไฟพิเศษจากสถานีหัวลำโพงถึงสถานีหนองแก อ. หัวหิน จ. ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อมาสัมมนา ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท โดยได้มอบดอกไม้ พวงมาลัยของฝากจากชาวหัวหิน และน้ำมะพร้าวอ่อนจากโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท วานานาวา หัวหิน จากนั้นทั้งหมดเดินทางไปรับประทานอาหารกลางวันและประชุมที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท