“ภูมิธรรม” ชม “ประยุทธ์” สส.เพื่อไทย ฟังเสียงค้าน ถอนร่างกฎหมายสกัดรัฐประหาร บอกทางออกต้องพัฒนาระบบประชาธิปไตย ยัน ไม่หมิ่นประมาทม็อบ เป็นสิทธิของประชาชน แต่ “สนธิ” เป็นแค่หนึ่งความเห็น หลังเรียกร้องยกเลิก MOU 44

เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 11 ธันวาคม 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงกรณีนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ถอนร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ว่า ร่างที่ถอนออกไปเป็นร่างส่วนตัวของนายประยุทธ์ ต้องดูว่าจะปรับอย่างไร ไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย เพราะยังไม่ได้เข้าที่ประชุม สส. รวมถึงที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย แต่ถือเป็นเรื่องดีที่นายประยุทธ์รับฟังเสียงแล้วนำไปปรับแก้ คิดว่าเรื่องนี้เราทำเพื่อแก้ปัญหาก็ควรให้แต่ละฝ่ายได้ช่วยกันพิจารณา เพื่อจะได้ตอบสนองความต้องการของประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามต่อ ได้เห็นร่างของกระทรวงกลาโหม เรื่องเค้าโครงการให้อำนาจนายกรัฐมนตรีสกัดการปฏิวัติ โดยให้อำนาจ รมว.กลาโหมพิจารณาว่าจะเอาหรือไม่เอาหรือยัง นายภูมิธรรมระบุว่า เห็นร่างแล้ว เป็นร่างที่นายสุทิน คลังแสง อดีต รมว.กลาโหม เสนอไว้ ตนได้ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรอง รมช.กลาโหม ก็ได้รับเรื่องกลับไปทบทวน ตนได้บอกว่าให้นำกลับเข้ามาเร็วที่สุดเพื่อที่จะได้ประกบร่างกับของฝ่ายค้านที่ยื่นไว้แล้ว ทุกอย่างให้รอความเหมาะสม เมื่อถามย้ำว่าส่วนตัวเห็นด้วยหรือไม่กับการให้อำนาจนายกรัฐมนตรีสกัดการรัฐประหาร นายภูมิธรรมตอบว่า ขอเอาข้อสังเกตของทุกฝ่ายไปดูเพื่อหาสิ่งที่ดีที่สุดดีกว่า

...

ทางด้านคำถามว่า การป้องกันรัฐประหารใช้แค่กฎหมายเพียงพอหรือไม่ หรือต้องพัฒนาวัฒนธรรมการเมืองของไทย นายภูมิธรรมเผยว่า กฎหมายการป้องกันรัฐประหารมีอยู่แล้ว รัฐธรรมนูญบอกไปแล้วว่าการทำรัฐประหารเป็นเรื่องไม่ถูกต้องและเป็นกบฏ แต่ในความเหมาะสมและความเป็นจริงควรเป็นเรื่องที่ให้ทุกฝ่ายเห็นว่าอะไรเป็นสิ่งที่จะช่วยระงับการรัฐประหาร เช่น การสร้างวัฒนธรรมในการยอมรับระบอบประชาธิปไตย และบรรยากาศขณะนี้ทุกฝ่ายคุยกันได้หมดไม่มีปัญหาอะไร กับพรรคร่วมก็ไม่มีปัญหา ตนคิดว่าเรื่องนี้ยังไม่ใช่เรื่องที่มีการตัดสินใจอะไร และยังไม่ใช่เรื่องที่มีความขัดแย้งจนเป็นปัญหาเพียงแต่เป็นความเห็น ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ค้างคาในสังคมมานานแล้ว

นอกจากนี้ นายภูมิธรรมยังได้ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเสนอของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เรียกร้องให้ยกเลิก MOU 2544 ว่า ส่วนตัวยังไม่เห็นเงื่อนไข คิดว่าเป็นสิทธิของผู้เสนอ ไม่ใช่เฉพาะนายสนธิ ประชาชน นักข่าว หากใครมีข้อคิดเห็นก็ข้อเสนอได้ เราก็รับฟัง เมื่อถามต่อไปประเมินว่าม็อบนี้จะจุดติดหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตนเองไม่หมิ่นประมาทการจัดม็อบ ถือเป็นสิทธิของประชาชนภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญ ขอเพียงอย่างเดียวคือทำให้เหมาะสม รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังทำงานไม่ครบ 100 วัน ก็มากันเยอะแล้ว แต่ขออย่างเดียวต้องพูดให้ตรงกับข้อเท็จจริง และเป็นความเห็นต่างได้ เพราะข้อเท็จจริงควรจะเห็นในมุมที่ต่างกัน ยกตัวอย่างว่า ปี๊บใบหนึ่งแต่ละด้านไม่เหมือนกัน มีสิทธิมองเพื่อให้เกิดความรอบคอบ และรอบด้านขึ้น

ส่วนประเด็นที่นายสนธิเรียกร้องให้ตั้งเวทีสาธารณะพูดคุยเรื่องนี้นั้น นายภูมิธรรมบอกว่า ต้องดูมวลรวม และให้คนที่รับผิดชอบไปดู ต้องเอาความเห็นทุกคนมาดู นายสนธิเป็นแค่หนึ่งเสียงในหนึ่งกลุ่มคนที่รู้สึก ซึ่งคิดว่ายังมีคนเห็นต่างแบบนี้อีกเยอะ การบริหารประเทศไม่ควรโฟกัสแค่คนคนเดียวหรือส่วนเดียว ส่วนการตั้งคณะกรรมการด้านเทคนิค (JTC) ว่า ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า ต้องรอการทำความเข้าใจกันทั้งหมด แต่คงพยายามทำให้เร็วที่สุด.