“วิสุทธิ์” เผย ประธานสภาฯ เคาะ 12 ธ.ค. ถกวิป 3 ฝ่าย ดักทางอย่ายก MOU 44 ปลุกม็อบลงถนน ลั่นต้องจบในสภา เผย ยังไม่เห็นร่างกฎหมายห้ามปฏิวัติ ลั่น ตอบแทนพรรคอื่นไม่ได้


วันที่ 9 ธันวาคม 2567 นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ที่รัฐสภา ภายหลังเข้าหารือกับ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า ตนหารือกับ นายวันมูหะมัดนอร์ เพื่อขอความกรุณาให้เลื่อนวันประชุมวิป 3 ฝ่าย จากวันที่ 13 ธันวาคม ซึ่งตรงกับวันที่พรรคเพื่อไทย จะไปจัดงานสัมมนาพรรคที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ มาเป็นวันที่ 12 ธันวาคม เพราะเป็นตรงกับวันที่มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรอยู่แล้ว ซึ่ง สส.พรรคเพื่อไทยมาประชุมเช่นกัน โดยนายวันมูหะมัดนอร์ เห็นชอบตามนั้น และจะมีการประชุมวิป 3 ฝ่าย ในวันที่ 12 ธันวาคม 2567 เวลา 13.00 น. รวมถึงเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีการยื่นเข้ามา 17 ฉบับ และการประชุมที่ต้องอาศัยเสียง 3 ฝ่ายเกี่ยวกับกฎหมาย ป.ป.ช. ที่ขณะนี้มีร่างของคณะรัฐมนตรี (ครม.) และฝ่ายค้านแล้ว

ส่วนกรณีพรรคร่วมฝ่ายค้านจะตั้งกระทู้ถามรัฐบาลเกี่ยวกับบันทึกความเข้าใจว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิ์เส้นไหล่ทวีปราชอาณาจักรไทยกับกัมพูชา (MOU 2544) นั้น นายวิสุทธิ์ ตอบว่า ไม่ทราบว่าฝ่ายค้านจะถามวันใด แต่เชื่อมั่นรัฐบาลชี้แจงได้ แต่ตั้งแต่ปี 2544 ยังไม่มีการเจรจาใด ตามหลักการเรื่องนี้จะสำเร็จได้ ต้องตกลงในสภาฯ จะตกลงหรือเจรจาโดยไม่ผ่านสภาฯ ไม่ได้ ผ่านมา 20 ปี ยังไม่มีการอนุมัติใดๆ จากสภาฯ ในเรื่องนี้ ที่พูดหรือวิตกกังวลก็พูดกันไป แต่ความจริงยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น

...

เมื่อถามถึงกรณี นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ยกเลิกเอ็มโอยู 44 นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เป็นสิทธิที่จะร้องได้ แต่จะจบ หรือตกลงกันอย่างไร สุดท้ายต้องจบที่รัฐสภา เพราะการเจรจากับต่างประเทศเรื่องนี้สามารถพูดในสภาฯ ไม่จำเป็นต้องไปปิดถนนทำให้ประชาชนเดือดร้อน สร้างความเดือดร้อนให้ประเทศชาติบ้านเมืองมามากพอสมควรแล้ว เรื่องเหล่านี้หากอยากพูดในสภาฯ ตนยินดีรีบจัดให้ทันที

ในประเด็นที่มีการโจมตีเรื่องเอ็มโอยู 44 เพื่อเขย่ารัฐบาล นายวิสุทธิ์ ระบุว่า เขย่าอย่างไร ในเมื่อยังไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง และยังไม่เสียดินแดนแม้แต่นิ้วเดียว ยังไม่เสียแก๊สไปสักกระป๋อง การจะทำอะไรตามหลักการต้องผ่านรัฐสภาก่อน เมื่อถามอีกว่าพรรคเพื่อไทยจะเปิดอภิปรายเรื่องเอ็มโอยู 44 หรือไม่ นายวิสุทธิ์ เผยว่า ภายในพรรคยังไม่ได้มีการหารือ แต่มีพรรคอื่นพูดกันแล้ว หากมีการยื่นมา สภาฯ ก็พร้อม ไม่มีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการยื่นกระทู้สด อภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 หรือการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เราก็พร้อมทั้งนั้น

ทางด้านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เกี่ยวกับการนิรโทษกรรมของพรรคเพื่อไทย นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ร่างดังกล่าวยังไม่ได้เข้าที่ประชุมของ สส.ของพรรค เพราะการจะเสนออะไรต้องผ่านมติพรรคก่อน แต่ตนยังไม่เห็นรายละเอียด ทราบเพียงว่า นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ร่างแล้ว

สำหรับกรณีที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) คัดค้านร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ที่เสนอโดย นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นนั้น นายวิสุทธิ์ เผยว่า ยังไม่เห็นรายละเอียดร่างฉบับของนายประยุทธ์ และไม่สามารถตอบแทนพรรคการเมืองอื่น เพราะมีเรื่องที่รอบรรจุวาระจำนวนมาก ซึ่งการเสนอร่างกฎหมายต้องผ่านมติของพรรค รวมถึงวิปรัฐบาล ส่วนการพิจารณากฎหมายต่อต้านการรัฐประหาร หากมีเป็นเรื่องที่ดี เพราะไม่มีใครอยากให้มีการปฏิวัติ หากรัฐบาลทำงานดีก็ไม่จำเป็นต้องมีทหารมารัฐประหาร เพราะทหารควรไปดูแลเรื่องความมั่นคงชาติ

ผู้สื่อข่าวถามต่อ ร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ที่อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็น หากมีความเห็นคัดค้านสามารถทบทวนได้หรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า หากคนไม่เห็นด้วย อยากให้มีรัฐประหาร เขาไปคัดค้านเอา เมื่อถามย้ำว่ามีหลายเรื่องที่พรรคภูมิใจไทยไม่เห็นด้วย เช่น ร่าง พ.ร.บ.ประชามติ นายวิสุทธิ์ มองว่า เป็นความสวยงามในระบอบประชาธิปไตย เมื่อมีผู้ไม่เห็นด้วย คือ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ตามกระบวนการต้องยับยั้งร่างกฎหมายดังกล่าวไว้ 180 วัน

ขณะที่การคัดค้านของพรรคร่วมรัฐบาลส่วนใหญ่จะเป็นอุปสรรคต่อการเดินหน้านโยบายของพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น นายวิสุทธิ์ ตอบว่า นโยบายสำคัญของรัฐบาลหลายอย่างทำไปได้ดี และยอมรับว่า มีบางอย่างที่ติดขัด ที่ต้องทำความเข้าใจกัน การเป็นรัฐบาลผสมหลายพรรคต้องมีปัญหาบ้าง แต่อะไรที่เห็นไม่ตรงกันหรือติดขัด ต้องเจรจาทำความเข้าใจกัน.