“สมศักดิ์” รมว.สาธารณสุข ยัน “ผิง ชญาดา” ไม่ได้นวดบิดคอเสียชีวิต ชี้ ผลตรวจ MRI ไม่มีกระดูกคอหักหรือเคลื่อน เผย เป็นโรคไขสันหลังอักเสบ ต่อมาติดเชื้อในกระแสเลือด

วันที่ 9 ธันวาคม 2567 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ถึงกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.ชญาดา พร้าวหอม หรือ “ผิง ชญาดา” นักร้องสาว ที่ระบุว่ามีสาเหตุมาจากการนวดบิดคอ หลังไปนวดที่ร้านนวดแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี ว่า ตนได้รับรายงานเรียบร้อยแล้ว ผู้เสียชีวิตมีอาการเจ็บไข้ได้ป่วย ปวดเมื่อย เป็นเวลาหลายวัน ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2567 และไปตรวจที่โรงพยาบาล 28 ตุลาคม 2567 เข้าออกโรงพยาบาลหลายครั้ง โดยมีการเอ็กซเรย์ และทำเอ็มอาร์ไอ โดยเป็นภาพที่ชัดเจนว่าไม่เกี่ยวข้องกับการนวดแผนไทย ซึ่งตนก็อยากให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อไป จากรายงานพบว่า วันที่ 6-11 พฤศจิกายน 2567 ผู้เสียชีวิต ได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลอุดรธานี ได้แอดมิทแผนกกระดูกและข้อ แพทย์ตรวจพบว่าแขนขาอ่อนแรง และตรวจเอ็มอาร์ไอเพิ่ม พบว่าไม่มีกระดูกคอหักหรือเคลื่อน ตรวจโดยเจาะน้ำไขสันหลัง สรุปวินิจฉัยเป็น “โรคไขสันหลังอักเสบ” ซึ่งได้ให้ยารักษา หลังจากนั้นอาการเริ่มดีขึ้นจึงกลับไปพักที่บ้าน แต่ 1 สัปดาห์ต่อมายังมีอาการเกร็งกระตุกตามร่างกาย จนวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 มีอาการเกร็งและอ่อนแรงมากขึ้น จึงเข้าไอซียู โรงพยาบาลอุดรธานี มีอาการช็อกจากติดเชื้อในกระแสเลือด กระทั่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2567 ส่วนรายละเอียดทั้งหมดขอให้รอฟังจากผู้เชี่ยวชาญ

ผิง ชญาดา
ผิง ชญาดา

...

เมื่อถามว่าจะสร้างความมั่นใจเรื่องการนวดอย่างไร เพราะเกี่ยวข้องกับนโยบายแพทย์แผนไทยด้วย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขอให้มั่นใจ เพราะผลการตรวจเอ็มอาร์ไอเป็นที่ชัดเจนแล้ว ซึ่งเป็นการใช้เทคโนโลยียืนยัน จึงขอให้ประชาชนสบายใจ

นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงประชุมวันนี้ด้วยว่า คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ มีการพิจารณาเรื่องวัคซีนของโรคที่พบขณะนี้ ทั้งไข้หวัดนกที่พบในมนุษย์ในต่างประเทศ แต่ประเทศไทยยังไม่มี โรคหัด ที่ยังมีผู้ป่วยจำนวนมากใน 4 จังหวัดชายแดนใต้ ที่ประชุมก็ต้องการเพิ่มวัคซีน ส่วนโรคไข้หวัดใหญ่ และโรคโควิด-19 ก็อยู่ทรงๆ ทั้งนี้ ที่ประชุมยังมีการสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถซื้อวัคซีนได้ และยังมีการพิจารณาการฉีดวัคซีน HPV ที่จะเริ่มวันที่ 20 ธันวาคม 2567 ที่ จ.ปทุมธานี และจะดำเนินการต่อไป เพราะขณะนี้เรามีวัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์ จำนวน 700,000 กว่าเข็ม ส่วนคนที่ฉีดไปบ้างแล้ว 2 สายพันธุ์ ก็ขอให้ซ้ำเข็มที่ 2 ได้.