“รมต.ภูมิธรรม” ตื่นเต้น ฮ.ไปฐานทหารชายแดนสั่น บอกแค่อยากดูสถานที่จริงว่าไม่มีการสู้รบตามข่าว โต้แหลก เกรียนคีย์บอร์ดปั่นข่าวรัฐบาลดูแลน้ำท่วมภาคใต้ล่าช้า เตรียมเยียวยาเรียบร้อยแล้ว ชี้ รัฐบาลกัมพูชา ถูกกดดันฟ้องศาลโลก ทวงเกาะกูดคืนจากไทย ไม่กระทบเจรจา

วันที่ 30 พ.ย. 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว. กลาโหม ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมฐานปฏิบัติการนอแล อ.ฝาง จ.เชียงใหม่

โดย นายภูมิธรรม พร้อมด้วย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ออกเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์แบบแบล็คฮอว์ค และคณะติดตามที่เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ MI-17 ออกจากกองบัญชาการกองพลทหารราบที่ 7 (พล.ร.7) อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ไปยังฐานปฏิบัติการนอแล แต่ปรากฏว่าเมื่อเฮลิคอปเตอร์ใกล้ถึงพื้นที่เป้าหมาย สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ทัศนวิสัยไม่ดี มีหมอกลงจัด และเมฆลอยต่ำ ในบริเวณที่จะนำเฮลิคอปเตอร์ลงจอด เพื่อความปลอดภัย นักบินจึงได้แจ้งว่าจะไม่นำอากาศยานลงจอด และขอบินกลับ พล.ร.7 ทันที

นายภูมิธรรม กล่าวกรณีที่ไม่สามารถไปตรวจเยี่ยมฐานทหารบริเวณตามแนวชายแดนตามกำหนดการเดิมว่า การปฏิบัติงานของกองกำลังที่ฐานนอแลไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว เพราะเขามีการประสานงานกันอย่างเต็มที่ ซึ่งวันนี้ตนมีความตั้งใจเดินทางไปดูพื้นที่จริง เพื่อให้เห็นว่าไม่มีการสู้รบอย่างที่เป็นข่าวแต่น่าเสียดายฟ้าไม่เปิดมาก เมฆลอยต่ำ

เมื่อถามว่า ระทึกใจหรือไม่เครื่องลงไม่ได้ นายภูมิธรรม หัวเราะพร้อมทั้งตอบว่า ต้องถามสื่อว่าระทึกไหม แต่ความรู้สึกส่วนตัว เมื่อผ่านเมฆไปเครื่องก็จะสั่น ก็ตื่นเต้นดีเหมือนกัน

...

โต้แหลก เกรียนคีย์บอร์ดปั่นข่าวรัฐบาลดูแลน้ำท่วมภาคใต้ล่าช้า

นายภูมิธรรม ยังให้สัมภาษณ์ถึงการช่วยเหลือน้ำท่วมภาคใต้ ว่า ตนได้ส่ง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ลงไปดูสถานการณ์ ซึ่งอยากให้พล.อ.ณัฐพล ได้รายงานสถานการณ์เบื้องต้น ด้านพล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า จากการลงพื้นที่สถานการณ์น้ำท่วม ที่ จ.ยะลา หนักที่สุด โดยมวลน้ำทั้งหมด จะเคลื่อนย้ายไป จ.ปัตตานี จากการพยากรณ์อากาศ ฝนจะตกในพื้นที่จ.สงขลา กับ จ.สตูล ดังนั้นใน 2-3 วันนี้ ต้องเฝ้าระวัง จ.ยะลา จ.ปัตตานี จ.สงขลา จ.สตูล และคาดว่า ปริมาณน้ำ 1-2 วันนี้สถานการณ์จะเบาลง และดีขึ้น ส่วนพื้นที่ปักธงแดงน้ำ ยังคงท่วมสูงการเข้าออกบางพื้นที่ต้องใช้รถใหญ่ เส้นทางสัญจรค่อนข้างลำบาก มีปัญหาเรื่องการส่งกำลัง ทั้งน้ำมัน แก๊สหุงต้ม อาหาร ที่จะส่งเข้าไปในพื้นที่ ที่ทางรมว.กลาโหมได้สั่งการทุกหน่วยให้เร่งแก้ปัญหาเรื่องนี้ ทั้งนี้ น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ จะเป็นเพียงน้ำไหลผ่าน จะไม่เหมือนกับน้ำท่วม จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย

นายภูมิธรรม กล่าวเสริมว่า ช่วงนี้เป็นฤดูน้ำหลาก ในส่วนรัฐบาลเตรียมการเรื่องการเยียวยาความเสียหายให้กับประชาชน แต่เบื้องต้น ให้ รมช.กลาโหม ไปดูการจัดสรรกำลังในพื้นที่ดูแลประชาชนให้ทั่วถึง ขณะนี้ ให้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ทำหน้าที่บูรณาการ ในส่วนของกองทัพถ้าเป็นหน่วยเสริมสนับสนุน ตนได้สั่งการเตรียมเงินเยียวยา และเงินดูแลส่วนต่างๆ เหมือนที่ดูแลจังหวัดอื่นๆ ปัจจุบันเตรียมการเสร็จแล้ว ยืนยันดูแลอย่างเหมาะสม รวมถึงการฟื้นฟูหลังน้ำลด ส่วนที่รัฐบาลถูกโจมตีว่า ลงพื้นที่ดูแลน้ำท่วมภาคใต้ ล่าช้านั้น ยืนยันว่าไม่ล่าช้า เราลงพื้นที่ ทันทีเมื่อทราบสถานการณ์ อย่างพล.อ.ณัฐพล ก็ลงไปตั้งแต่วันแรก นอกจากนั้น ยังมีรัฐมนตรี คนอื่นๆ เช่น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย รวมถึง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ก็ลงพื้นที่

รมว.กลาโหม ยืนยัน ดูแลประชาชน ทั้งประเทศเท่าเทียมกัน เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องดูแลอยู่แล้ว อยากให้ประชาชนเข้าใจในสิ่งเหล่านี้ อย่าไปฟังโซเชียลมากนัก ซึ่งไม่ได้รู้สถานการณ์ที่แท้จริง ปั่นโซเชียลอยู่แต่ในบ้านแล้วมาวิพากษ์วิจารณ์ อยากให้อยู่กับความเป็นจริง อยากให้สื่อเป็นตัวแทนสื่อสารข้อเท็จจริง ไปยังประชาชน ขณะที่ในส่วนของกองทัพเอง ทางผบ.ทบ.ก็ระดม ยุทโธปกรณ์ และกำลังพล ไปดูแลพื้นที่เต็มที่อยู่แล้ว พร้อมทั้งกองกำลังจิตอาสา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวลงไปในพื้นที่ด้วย ยืนยันเราดำเนินการเป็นมาตรฐานเดียวกัน

รัฐบาลกัมพูชา ถูกกดดันทวงเกาะกูดคืนจากไทย ไม่กระทบเจรจา

นายภูมิธรรม ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายนพดล ปัทมะ สส.เพื่อไทย เสนอให้ใช้มาตรา 152 เปิด อภิปรายเรื่องเอ็มโอยู 44 ในรัฐสภาทำข้อเสนอแนะให้รัฐบาลป้องกันม็อบลงถนนว่า ถือเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจ แต่ เรื่องนี้ต้องมาดูตามความเป็นจริง ต้องดูพรรคร่วมรัฐบาลด้วยจะว่าอย่างไร เป็นเรื่องที่ต้องร่วมกันคิด แต่ขณะนี้ยังไม่ไปถึงตรงนั้น ตอนนี้เราก็ใช้วิธีการชี้แจง หลายช่องทาง การแก้ปัญหาไม่ได้มีแค่วิธีเดียว ถ้าทำไม่ได้ก็เปลี่ยนวิธี สิ่งที่นายนพดลเสนอ ก็น่าจะเสนอได้

เมื่อถามว่า นายจักรภพ เพ็ญแข เสนอให้รัฐบาล ยื่นเงื่อนไขเจรจาแบ่งผลประโยชน์พื้นที่ทับซ้อนไทยกัมพูชา ภายใต้เงื่อนไขเคารพกฎหมายระหว่างประเทศ กฎหมายทางทะเล และสนธิสัญญา จะทำให้ทุกอย่างเดินหน้าไปได้

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างการจัดตั้งคณะกรรมการเทคนิคร่วมฝ่ายไทย (JTC) ส่วนที่ว่าตนนั่งเป็นประธาน ยังต้องรอมติครม. สุดท้ายต้องคุยกันก่อน เมื่อจัดตั้งได้ ก็ต้องมีการหารือกัน ยืนยันว่า การเจรจาก็อยู่ภายใต้กรอบ JTC และ MOU 2544 ตรงนั้นชัดเจนอยู่แล้ว ว่าจะไม่ไปกระทบ สิ่งที่เกี่ยวข้อง และต้องเป็นความเห็นชอบของประชาชนทั้งสองฝ่าย รวมถึงกฎหมายทางทะเล กฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงกรอบนโยบายต่างๆ ที่เราต้องคำนึงด้วย

เมื่อถามว่าการประชุมทวิภาคีกัมพูชาจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข่าวปลอมที่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของสองประเทศหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เป็นแค่เพียงการพูดคุยเกี่ยวกับข่าวปลอมที่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ไม่ถึงกับตั้งคณะกรรมการ เพียงแต่ให้แต่ละประเทศช่วยกันชี้แจง เพราะบางครั้งมีเสียงลือเสียงเล่าอ้าง อยากให้ทั้งสองประเทศช่วยกันตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะข้อเท็จจริงที่คลาดเคลื่อนจะส่งผลให้ทั้งสองประเทศไม่เข้าใจกัน และไม่ส่งผลดี รวมถึง MOU 2544 และเรื่องอื่นด้วย

เมื่อถามว่ารวมถึงการปั่นข่าวว่ากัมพูชาเคลมหมูเด้ง เคลมลิซ่าด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า อย่าฟังเสียงเล็กเสียงน้อยแล้วเอามาเป็นประเด็น