การฟอร์ม “ครม.อิ๊งค์ 1” ของ คุณแพทองธาร ชินวัตร ลูกสาว สุดเลิฟของ อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร นายกฯหญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย และนายกฯคนที่ 3 จากตระกูลชินวัตร คาดว่าสัปดาห์นี้น่าจะเสร็จเรียบร้อย  ผู้มีบทบาทสำคัญในการจัดตั้ง ครม.ครั้งนี้ส่วนใหญ่มาจากทีมงาน “ทำเนียบจันทร์ส่องหล้า”  ไม่ต้องให้ “นายกฯน้อย”  ต้องเหนื่อยมาก เหลือเพียงการตรวจสอบประวัติอย่างเข้มข้นก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ

รัฐบาลผสมชุดใหม่  ที่มี พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำ จะผสมกัน 13 พรรค 1 กลุ่ม รวมเป็น 322 เสียง จาก 493 เสียงในสภาผู้แทน พรรคฝ่ายค้านเหลือเพียง 171 เสียง

การฟอร์ม ครม.อิ๊งค์ 1 ครั้งนี้ เป็นการกลับมาของ “การเมืองนํ้าเน่าแบบไทยๆ”  อีกครั้ง ส่งผลให้ พรรคพลังประชารัฐ ของ “ลุง ป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พรรคประชาธิปัตย์  อันเก่าแก่ ต้องแตกกระจายออกเป็นสองเสี่ยง เพื่อเข้าร่วมรัฐบาล รวมทั้ง พรรคไทยสร้างไทย  ของ คุณหญิงสุดารัตน์  เกยุราพันธุ์   นักการเมืองไทยวันนี้ไม่เพียงไร้อุดมการณ์ แต่ยังไร้ศักดิ์ศรีอย่างไม่น่าเชื่อ

คุณแพทองธาร ชินวัตร  นายกฯ วัย 38 ปี ซึ่งยังไม่มีประสบการณ์ทางการเมือง ไม่มีประสบการณ์ในการบริหารประเทศ  ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้า การจัดตั้ง ครม. ช่วงปลายสัปดาห์ว่า ค่อนข้างลงตัว นิ่งแล้ว เหลือแต่การตรวจคุณสมบัติ น่าจะใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์  ก็สอดคล้องกับไทม์ไลน์ของพรรคเพื่อไทย ต้องการฟอร์ม ครม.ให้เสร็จในสัปดาห์นี้

การแถลงนโยบายต่อสภาของ นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร คาดว่าจะมีขึ้นในวันที่ 16 กันยายน เมื่อแถลงนโยบายเสร็จ รัฐบาลแพทองธาร 1 ก็จะเริ่มทำงานทันที งานแรกในไทม์ไลน์ของ นายกฯอิ๊งค์ ก็คือ การประเดิม “แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท” ที่เปลี่ยนมาแจกเป็น “เงินสดคนละ 10,000 บาท”  ผ่าน “แอปเป๋าตัง”  ของธนาคารกรุงไทย คาดว่าจะมีการโอนเงินให้ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน โดยจะแจกให้กับ คนจน 13.5 ล้านคนที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  (ที่ลงทะเบียนไว้ในสมัยรัฐบาลลุงตู่) และ คนพิการอีก 1 ล้านคน รวมเป็น 14.5 ล้านคน วงเงิน 145,000 ล้านบาท ก่อนจะสิ้นปีงบประมาณ 2567 ในวันที่ 30 กันยายน เพราะเป็นเงินที่ตั้งไว้ในงบประมาณปี 2567

...

การเร่งแจกเงินสด 10,000 บาท  ให้กับ คนจนและคนพิการ 14.5 ล้านคน ในปลายเดือนกันยายนนี้ก่อน ก็เพื่อให้เป็น “ผลงานชิ้นโบแดง” ของ นายกฯแพทองธาร ชินวัตร ด้วย

ส่วน ประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนไว้กับ “แอปทางรัฐ” จำนวน 30 ล้านคน ก็ต้องรอกันต่อไปในปีงบประมาณ 2568 ซึ่งยังไม่รู้จะแจกกันเมื่อไหร่ เพราะต้องรอ “ซุปเปอร์แอปทางรัฐ” ของรัฐบาลที่ยังพัฒนาไม่เสร็จ ถ้า “ซุปเปอร์แอปทางรัฐ”  พัฒนาเสร็จเรียบร้อยเมื่อไหร่ ก็จะมีการแจก “เงินดิจิทัล 10,000 บาท” เป็นงวดที่สองผ่าน “ซุปเปอร์แอปทางรัฐ”   ต่อไป แต่จะไม่แจกเป็นเงินสด คาดว่าน่าจะต้องรออีกนาน เพราะซุปเปอร์แอปทางรัฐจะต้องมี “มาตรฐานความปลอดภัย” ในการรับจ่ายเงินระดับเดียวกับ มาตรฐานความปลอดภัยของระบบการรับจ่ายเงิน  (Payment System)  ของ  ระบบธนาคารพาณิชย์  ซึ่งมี ธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นผู้ควบคุมดูแล

วันนี้พรรคเพื่อไทยคงไม่สนใจเรื่อง “พายุหมุนทางเศรษฐกิจ” อีกแล้ว  เพราะการแจกเงินสดคนละ 10,000 บาท ไม่สามารถกำหนดกติกาให้นำไปใช้จ่ายอะไรได้บ้าง เมื่อได้รับเป็นเงินสดก็สามารถนำไปใช้จ่ายได้ทุกอย่าง ตั้งแต่ การจ่ายหนี้ ซื้อมอเตอร์ไซค์ ซื้อเหล้ายาปลาปิ้ง ไปจนถึงหวยลอตเตอรี่  ถือเป็นการ เติมสภาพคล่อง 145,000 ล้านบาท เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ

ก็หวังว่า “ครม.อิ๊งค์ 1” ของ นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร จะสามารถคลอดได้ตามกำหนด อนาคตจะเป็นอย่างไรถึงไม่รู้ก็ต้องเดินไป ประชาชนไทยวันนี้ไม่มีทางเลือกครับ.

“ลม เปลี่ยนทิศ”

คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม