นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาฯ เพื่อไทย เผย กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย เคาะ ไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรค พปชร. วอน นักร้องเห็นใจและให้โอกาสรัฐบาลทำงาน ส่วน ปชป. ยอมรับจะมีการส่งเทียบเชิญอย่างเป็นทางการ

วันที่ 27 ส.ค. 2567 เมื่อเวลา 15.00 น. ที่อาคารชินวัตร 3 มีการประชุม สส.พรรคเพื่อไทย โดยมีนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน สส.พรรคเพื่อไทย เป็นประธานการประชุม มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ในฐานะ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย รวมถึงแกนนำพรรค และ สส.พรรคเพื่อไทย เข้าร่วมประชุมจำนวนมาก อาทิ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค

จากนั้นเวลา 16.40 น. นายสรวงศ์ แถลงผลการประชุมว่า ในที่ประชุม สส.หลายคนมีความไม่สบายใจถึงพฤติกรรมของพรรคร่วมรัฐบาลโดยเฉพาะหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ที่ไม่โหวตนายกฯ ตั้งแต่รัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ รวมถึงการยื่นถอดถอนนายเศรษฐา ที่ผู้อยู่เบื้องหลังก็เป็นที่ทราบกันดี ที่ประชุมจึงมีมติมอบหมายให้คณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ไปรวบรวมเสียงสมาชิกในสภาฯ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อที่จะสร้างเสถียรภาพให้กับรัฐบาล

...

เมื่อถามว่า หมายความว่าพรรคพลังประชารัฐจะไม่ได้อยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลแล้วใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ขอให้เป็นมติของที่ประชุม กก.บห. และการที่เราจะร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลกับใคร จริงๆ แล้วไม่ได้มีข้อกฎหมายอะไร ในนามของเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ก็จะรวบรวมเสียงสภาฯ ให้ได้มากที่สุด เมื่อถามว่า หากกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส พร้อมที่จะมาร่วมรัฐบาล จะมีตำแหน่งหรือโควตาใน ครม.หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ในส่วนนี้เป็นอำนาจของนายกฯ เมื่อถามอีกว่า การที่จะมอบตำแหน่งให้คนนอก กับพรรคอื่นที่ไม่ได้ร่วมรัฐบาล ตามกฎหมายจะสามารถทำได้หรือมีข้อห้ามอะไรหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่มีข้อห้ามอะไรทั้งสิ้น ตนจึงบอกว่า เป็นอำนาจของนายกฯ คนเดียวที่จะเสนอชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ

เมื่อถามว่าหากจะดูเป็นรายบุคคลหรือรายกลุ่ม ได้ดูเรื่องข้อกฎหมายแล้วหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า จริงๆ อย่างที่บอกว่าแต่ละพรรคการเมืองมีข้อบังคับ หากสมาชิกพรรคไม่ได้ทำตามมติพรรค อาจจะมีการพูดคุยในที่ประชุมพรรคกันเอง เมื่อถามว่า จะเป็นการส่งเสริมให้เกิดรัฐบาลงูเห่าหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่ใช่เป็นงูเห่า เพราะเราบอกว่าใครที่พร้อม มีความคิดเห็นตรงกัน

เมื่อถามว่า กระแสข่าวของร.อ.ธรรมนัส จะเสนอชื่อนายอัครา พรหมเผ่า เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่นายอัคราเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ทางพรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อตามนั้นหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ต้องมีการพูดคุยกัน และการแต่งตั้งรัฐมนตรีเป็นอำนาจของนายกฯ เมื่อถามว่า รัฐบาลเดิมมี 314 เสียง จะหามาเติมเท่าไร นายสรวงศ์ กล่าวว่า เอาจากวันที่โหวตนายกฯ ซึ่งมี 319 เสียง ซึ่งหากเรายังอยู่ครบก็ดี หรือจะเพิ่มเข้ามาก็ยิ่งดี ประมาณนี้ไม่ต่ำกว่า 300 เสียง เมื่อถามย้ำว่าจะเป็น 319 เสียง ใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า “น่าจะมากกว่า หรือได้เท่าเดิมก็มีความสุขแล้วครับ”

เมื่อถามว่า หากเป็นกลุ่มจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะสามารถคุมเสถียรภาพให้มีความเข้มแข็งได้ นายสรวงศ์ กล่าวว่า อย่างที่บอกว่าต้องมีการพูดคุยกันตั้งแต่แรก ในเรื่องของแนวทางการทำงาน หากแนวทางการทำงานไปในแนวทางเดียวกันได้ เราก็ยึดถือคำมั่นสัญญา ไม่ได้มีข้อกฎหมายอะไรที่จะไปบังคับพรรคแต่ละพรรค

ต่อมาเวลา 18.00 น. นายสรวงศ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยว่า ได้นำความไม่สบายใจของ สส.เข้าที่ประชุม และเห็นว่าเราไม่สามารถร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐได้ ส่วนการทาบทามพรรคการเมืองไหน หรือกลุ่มการเมืองไหนมาร่วมรัฐบาลในอนาคต ขอให้เป็นขั้นตอนต่อไป โดยจะเดินหน้าให้เร็วที่สุด จะทำหนังสือเทียบเชิญอย่างเป็นทางการ จะทำหนังสือเชิญทุกกลุ่ม ที่เห็นว่าสามารถร่วมงานกันได้ให้มากที่สุด เมื่อถามถึงกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส จะได้ร่วมงานกับรัฐบาลหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า น่าจะพูดคุย เพราะที่ผ่านมากลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส ก็ให้ความร่วมมือกับพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด เมื่อถามว่าจะเชิญพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ก็น่าจะพูดคุย และเป็นหน้าที่ของเราในการหาเสียงในสภาฯ ให้มากที่สุด เพื่อเสถียรภาพของรัฐบาล โดยจะได้ส่งเทียบเชิญอย่างเป็นทางการให้เร็วที่สุด ตามที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ออกมาระบุ ยืนยันว่าเป็นการรวมเสียงในสภาฯ ส่วนข้อบังคับอื่นจะเป็นอย่างไร เราไม่ก้าวล่วง ขอให้การทำงานในสภาฯ ราบรื่นที่สุด เมื่อถามว่าสำหรับกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัสและพรรคประชาธิปัตย์ จะมีการจัดสรรโควตารัฐมนตรีให้หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องพูดคุยกัน และยืนยันว่าอำนาจแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีเป็นของนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามว่า มีการเตรียมการรับมืออย่างไร กรณีหากมีผู้ไปร้องประเด็นไม่เชิญพรรคการเมืองทั้งพรรค นายสรวงศ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของฝ่ายกฎหมายที่จะรับมือ แต่ขอวิงวอนหากทำอะไรผิดค่อยไปร้องเรียน ไม่เช่นนั้นประเทศเดินหน้าไม่ได้ สำหรับนักร้องทั้งหลาย ขอโอกาสให้นายกรัฐมนตรีได้ทำงาน ให้รัฐบาลได้ทำงาน เพราะประเทศต้องเดินต่อ เพราะเวลาผ่านไปแต่ละวันกระทบกับความเชื่อมั่นของนักลงทุน