นายกรัฐมนตรี ห่วงความปลอดภัยคนไทยในตะวันออกกลาง แนะติดตามข่าวใกล้ชิด ปฏิบัติตามคำแนะนำ ประเทศเจ้าบ้าน และสถานทูต หลังสถานการณ์มีแนวโน้มทวีความรุนแรง
จากกรณีสถานการณ์ความตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลาง และมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น กระทรวงการต่างประเทศ ขอให้คนไทยที่มีแผนจะเดินทางไปรัฐอิสราเอล หรือประเทศใกล้เคียง ใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยอาจพิจารณาชะลอการเดินทางหากไม่มีเหตุจำเป็น สำหรับคนไทยที่อยู่ในรัฐอิสราเอลและประเทศใกล้เคียง ขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางการท้องถิ่นและสถานเอกอัครราชทูตไทยอย่างใกล้ชิด โดยขอให้ปฏิบัติตามประกาศและคำแนะนำของทางการท้องถิ่นและสถานเอกอัครราชทูตไทยอย่างเคร่งครัด
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.52 น. วันที่ 5 สิงหาคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า มีความห่วงกังวลอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยของพี่น้องคนไทยในตะวันออกกลาง รัฐบาลกำลังติดตามเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือแก่พี่น้องคนไทยโดยทันทีในกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน "ระหว่างนี้ ผมขอให้พี่น้องคนไทยทุกคนติดตามข่าวสารและปฏิบัติตามคำแนะนำของประเทศเจ้าบ้านและสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลไทยในพื้นที่อย่างใกล้ชิดครับ"
พร้อมกันนี้ นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า นายกรัฐมนตรี ห่วงใยคนไทยในตะวันออกกลาง โดยสั่งการกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ความดูแล ประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อพิจารณาการช่วยเหลือดูแลคนไทยอย่างทันท่วงที พร้อมเตือนคนไทยในพื้นที่ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ปฏิบัติตามคำแนะนำของประเทศเจ้าบ้านและสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลไทยในพื้นที่ พร้อมกับประชาสัมพันธ์ ช่องทางติดต่อในกรณีฉุกเฉิน พี่น้องคนไทยสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือเร่งด่วนได้ ดังนี้
...
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ (สำหรับคนไทยในอิสราเอล)
หมายเลขฉุกเฉิน : +972 546 368 150 และ +972 503 673 195
อีเมล : thaiembassy.tav@mfa.go.th
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน (สำหรับคนไทยในอิหร่านและซีเรีย)
หมายเลขฉุกเฉิน : +98 912 500 7933 และ +98 912 159 8699
อีเมล : thaiembassy.thr@mfa.go.th
เฟซบุ๊ก : สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด (สำหรับคนไทยในเลบานอน)
หมายเลขฉุกเฉิน : +966 5442 46541 / +966 5546 22005 / +966 5822 17777
อีเมล : thaiembassy.ruh@mfa.go.th
เฟซบุ๊ก : Royal Thai Embassy, Riyadh
สถานกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ กรุงเบรุต (สำหรับคนไทยในซาอุดีอาระเบียและเลบานอน)
หมายเลขโทรศัพท์ : +96 1815 10150
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอัมมาน (สำหรับคนไทยในจอร์แดนและอิรัก)
หมายเลขฉุกเฉิน : +962 079 848 5558
อีเมล : thaiembassy.AMM@mfa.go.th
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร (สำหรับคนไทยในอียิปต์)
หมายเลขฉุกเฉิน : +201 0194-01243
อีเมล : thaiembassy.cai@mfa.go.th
เฟซบุ๊ก : Royal Thai Embassy, Cairo
หรือ Call Center กรมการกงสุล 02 572 8442
โฆษกรัฐบาล ระบุในตอนท้ายว่า “นายกรัฐมนตรีขอให้พี่น้องชาวไทยในพื้นที่ตะวันออกกลางใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งติดตามข้อมูลข่าวสาร และปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางการท้องถิ่นและสถานเอกอัครราชทูตไทย สถานกงสุลไทยอย่างเคร่งครัด พร้อมสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมินและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ความช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยอย่างทันท่วงที”.