“อนุทิน” ลั่น ยอมรับการนำ “เศรษฐา” ตั้งแต่ยกมือให้ทั้งพรรค 71 เสียง ไม่คิดเสียบแทน ย้ำ เก้าอี้ผู้นำ เป็นของเพื่อไทย ในฐานะแกนนำ เมินข่าวปรับ ครม.ดึง ปชป. เขี่ย พปชร.บางส่วน บอก รัฐบาล เข้มแข็งอยู่แล้ว
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 2 ส.ค. 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์หลังร่วมประชุมกับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ในการประชุมหารือโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจของกระทรวงพาณิชย์ ท่าทีนายกฯ มีความหวั่นไหวเกี่ยวกับคดีความที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรี ในวันที่ 14 ส.ค.หรือไม่ ว่า ตนไม่เห็นนายกฯ แสดงอาการอะไรเลย ท่านทำงานเข้มแข็งมากกว่าปกติด้วยซ้ำ และตอนนี้ท่านอยู่ในช่วงเศร้าโศกเสียใจ หลังการเสียชีวิตของมารดา แต่ท่านก็ยังแยกเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานอย่างชัดเจน โดยนายเศรษฐา ได้พูดกับตนมาตลอดว่า ทั้งชีวิตก็มีแต่คุณแม่ และท่านก็เป็นลูกคนเดียว ตรงนี้ต้องเห็นใจท่าน ในเรื่องการเมืองของนายกฯ ก็ว่าไปตามกระบวนการอย่าไปถามให้ท่านเกิดความวอกแวก
เมื่อถามว่า ได้ให้กำลังใจนายกฯ เกี่ยวกับเรื่องคดีความอย่างไรบ้าง นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่ต้องพูดแต่วัตรปฏิบัติของตนชัดเจนอยู่แล้ว ยอมรับความเป็นหัวหน้ารัฐบาลของนายเศรษฐา มาตั้งแต่วันแรกที่รับตำแหน่งแล้ว ตั้งแต่ตอนตัดสินใจมาร่วมรัฐบาล หนึ่งในมือที่โหวตนายเศรษฐา เป็นนายกฯ คือ มือนายอนุทิน และ สส.พรรคภูมิใจไทยอีก 70 คน เรายอมรับในการนำของนายเศรษฐา ตั้งแต่ช่วงนั้นแล้ว
นายอนุทิน กล่าวว่า “คำอวยพรทั้งหลายที่ว่าผมจะคาดหวังอย่างโน้นอย่างนี้ ขอพูดเลยนะ เราว่ากันเลือกตั้งต่อเลือกตั้ง ในระหว่างการเป็นรัฐบาลร่วมกันไม่ต้องกังวลใดๆ ทั้งสิ้น”
...
เมื่อถามว่า เหตุใดสังคมถึงจับจ้องว่า หากนายเศรษฐาเกิดอุบัติเหตุ นายอนุทินจะเป็นนายกฯ คนต่อไป หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นการวิเคราะห์ตามสถานการณ์ที่แย่ที่สุด ซึ่งลึกๆ ตนก็คิดว่าไปไม่ถึงจุดนั้น เมื่อถามอีกว่า หากนายกฯ ถูกศาลตัดสินเป็นลบ อย่างไรพรรคเพื่อไทยไม่ปล่อยตำแหน่งนายกฯ หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “ผมไม่เคยคิดตรงนั้น ตำแหน่งนายกฯ ต้องเป็นของพรรคเพื่อไทย เพราะเขาเป็นพรรคที่มีจำนวน สส.มากที่สุดในรัฐบาล และเป็นแกนนำรัฐบาล ถึงต้องมีกติกาและมารยาทซึ่งก็คืออย่าพูดอะไรที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องของตัวเอง”
เมื่อถามว่า สมมติพรรคเพื่อไทยไม่สามารถหานายกฯ มาแทนนายเศรษฐาได้จะทำอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องไปถามนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ซึ่งเป็นผู้จัดการรัฐบาล
เมื่อถามว่า หากนายกฯ รอดคดีจำเป็นต้องปรับคณะรัฐมนตรีหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า คำถามนี้ต้องไปถามนายกฯ อย่าเพิ่งไปคิด เพราะคิดไปก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเราไม่ใช่ผู้พิพากษาและไม่ใช่คนตัดสินใจ ไม่มีอะไรอยู่ภายใต้การควบคุมของเราเลย สิ่งที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเรา คือ วันนี้เราเป็นรัฐบาลอยู่ที่ต้องทำงานตอบสนองนโยบายของรัฐบาล และทุกอย่างต้องเชื่อฟังผู้บังคับบัญชา และทำงานให้ประชาชน มีทางให้เดินอยู่แค่นี้
เมื่อถามว่า เรื่องปรับคณะรัฐมนตรี ถ้าถามในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ที่ถือเป็นหุ้นส่วนรัฐบาลไม่ใช่ผู้ใต้บังคับบัญชา ควรปรับหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ประชาชนทุกคนเป็นหุ้นส่วนรัฐบาลนี้ ไม่ว่าเป็นคนที่เลือกเราหรือไม่เลือกเราก็ต้องทำงานให้ทุกคน
เมื่อถามอีกว่า ได้ยินกระแสข่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์จะมาร่วมรัฐบาลแล้วปรับบางส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ออกหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ได้ข่าวแต่ตนก็มองว่า รัฐบาลนี้มีความเข้มแข็งอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าได้ประเมินสถานการณ์หรือไม่ที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ขออนุญาตศาลเดินทางออกไปนอกประเทศ อาจเป็นเพราะไม่มั่นใจสถานการณ์การเมืองเดือน ส.ค. เลยต้องไปตั้งหลัก นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่ได้ประเมินและไม่มีตรงไหนที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล ทุกคนก็ยังทำงานปกติทุกวันเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนเพราะนี้คือรัฐบาล