"โรม" มั่นใจ ข้อกฎหมาย "ก้าวไกล" ไม่ถูกยุบ วอน ดูความสำคัญที่กระบวนการ ไม่ใช่คิดแต่จะโดนยุบ มอง "ศิริกัญญา" พร้อมนั่งหัวหน้า เป็นแค่เตรียมพร้อม ขณะที่ "สิงหาการเมืองร้อน" แค่เปลี่ยนแปลงชั่วครู่ อัด "ทักษิณ" อยากหวนคืนการเมือง ไม่ได้มาเลี้ยงหลาน
วันที่ 30 ก.ค. 2567 อาคารรัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ นัดตัดสินคดียุบพรรคก้าวไกล ในวันที่ 7 ส.ค.นี้ว่า วันที่ 7 ส.ค. ถือเป็นวันสำคัญของพรรคก้าวไกล หากว่าตามข้อกฎหมายและพยานหลักฐาน เรามั่นใจว่า จะไม่นำไปสู่การยุบพรรค แต่ด้วยความที่เป็นคดีสำคัญสังคมจับตามอง ต้องไม่ลืมว่าในปี พ.ศ.นี้ พรรคก้าวไกลเป็นพรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดในสภาฯ ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน 14 ล้านเสียง การที่พรรคการเมืองจะยุบง่ายๆ ไม่ใช่สิ่งที่สังคมไทยอยากเห็น สังคมไทยได้เห็นการยุบพรรคมามากมายเพียงพอแล้ว เราพบว่ามันสร้างความขัดแย้งใหม่ ดังนั้นการยุบพรรคการเมืองควรจะหมดไปได้แล้วใน พ.ศ.นี้ เราหวังว่า ส.ค.นี้สังคมไทยจะไม่มีการยุบพรรคอีกต่อไป
ส่วนการเตรียมทายาทรุ่นต่อไปนั้น เราสามารถดูจากพรรคการเมืองที่เคยถูกยุบ รวมถึงกรณีของพรรคอนาคตใหม่ ไม่ใช่เรื่องที่คาดเดาได้ยาก แต่สิ่งสำคัญที่พรรคก้าวไกลอยากบอกกับสังคมคือ การยุบพรรคไม่ควรเกิดขึ้นอีกต่อไป พรรคการเมืองตั้งขึ้นได้ด้วยความนิยมชมชอบจากประชาชน พรรคการเมืองเกิดขึ้นได้เพราะประชาชนให้การสนับสนุน ประชาชนจึงควรเป็นผู้ตัดสิน ขอให้การยุบพรรคเกิดขึ้นโดยประชาชน การใช้กระบวนการทางศาลใน พ.ศ.นี้ควรหมดไปได้แล้ว ควรให้ประชาชนวินิจฉัยเองว่านโยบายหรือพรรคการเมืองแบบใดที่เขาต้องการหรือไม่ต้องการ
สำหรับกรณีที่ นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล กล่าวว่า พร้อมจะรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคต่อจากนี้ จะแสดงออกอย่างไรนั้น ตนมองว่า เป็นแค่การเตรียมความพร้อมทั่วไปของพรรค แต่อยากให้ความสำคัญในวันที่ 7 สิงหาคม ว่า ไม่ควรมีการยุบพรรคอีก ซึ่งในวันนี้การยุบพรรคยังมาไม่ถึง แต่หลายคนต่างพูดกันว่าต้องถูกยุบแน่นอน จนลืมไปว่า มีการใช้อำนาจที่อาจจะไม่ถูกกฎหมายหรือไม่ ซึ่งตนก็คิดว่าเป็นเพียงสิ่งที่ผู้มีอำนาจอยากให้เกิดขึ้นเท่านั้น
...
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า สุดท้ายการทำงาน นโยบายทางการเมืองการไม่สามารถทำได้เต็มที่มีพื้นฐานที่อยู่บนความกลัว แต่ก็ย้ำว่าการทำนโยบายก็ต้องมีการตรวจสอบด้านกฎหมาย ไม่ใช่ว่าจะทำนโยบายต่างๆ ได้ ในส่วนพรรคก้าวไกลก็ได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตาม เมื่อศาลสั่งให้หยุดการกระทำ ก็ไม่มีอะไรที่ทำผิดเพิ่มเติมจนนำไปสู่การยุบพรรค กระทั่งไปดูกระบวนการของ กกต. ก็เห็นว่ามีปัญหาจริงๆ จึงอยากให้สังคม ผู้ที่มีความรู้ด้านกฎหมาย ว่า สิ่งที่ กกต.ดำเนินการชอบด้วยกฎหมายและให้ความเป็นธรรมกับประชาชนและพรรคการเมืองหรือไม่ พร้อมย้ำว่า หากดูตามข้อกฎหมายตนก็มั่นใจ รวมทั้งเพื่อน สส. ทุกคน
ขณะที่ความเป็นไปในเดือนสิงหาคม ที่มีเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองเกิดขึ้น ทั้งการตัดสินคดีใหญ่ของพรรคก้าวไกล นายกรัฐมนตรี รวมไปถึงการพ้นโทษของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น กล่าวว่า การเมืองก็มีการเปลี่ยนแปลงไปชั่วขณะ ตอนนี้เราก็เห็นว่านายทักษิณอยากจะกลับมามีบทบาททางการเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าสุดท้ายจะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน โดยเปรียบว่าปกติจะมีดวงอาทิตย์ดวงเดียว หากมีสองดวง ก็มีรู้จะอยู่อย่างไร และนี่ถือเป็นความยากที่รัฐบาลจะต้องจัดการ เพราะข้าราชการภายใต้รัฐบาลคงไม่รู้ว่าจะต้องไปฟังคำสั่งใคร และไม่รู้ว่าใครมีอำนาจในรัฐบาล หรือประชาชนจะรู้ตนก็ไม่แน่ใจ
โดยย้ำถึงคดีของนายเศรษฐา ว่า ตนไม่ต้องการให้มีการถอดถอนหรือพ้นจากตำแหน่งในลักษณะนี้ แม้ว่าตนจะเป็นฝ่ายค้านที่ไม่สนับสนุนให้นายเศรษฐา เป็นนายกรัฐมนตรีก็ตาม ซึ่งการตั้งนายพิชิต ชื่นบาน ตนก็เห็นว่าไม่เหมาะสม เพราะมีคำครหามากมายเกี่ยวกับคุณสมบัติของนายพิชิต แต่ก็คงไม่ร้ายแรงถึงขั้นจะต้องให้นายเศรษฐาพ้นจากตำแหน่ง แต่เมื่อเกิดเหตุดังกล่าวแล้ว ประชาชนควรจะได้สิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์ และจะมีกระบวนการทางการเมืองในการตัดสิน