นายกรัฐมนตรี เอาจริงเอาจังแก้ปัญหายาเสพติด มอบนโยบาย “ปราบปราม รักษา ฟื้นฟู ดูแล” เผย ผลดำเนินงานเกือบ 1 ปี ยึดและอายัดทรัพย์ มากกว่า 6,300 ล้าน ฝากโรงเรียนร่วมปลูกฝังค่านิยมเด็กและเยาวชน
วันที่ 3 กรกฎาคม 2567 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญสั่งการแก้ไขปัญหายาเสพติดเร่งด่วน โดยเน้นย้ำว่า การแก้ปัญหายาเสพติดเป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนและสำคัญของรัฐบาล เพราะแม้จะมีการพัฒนาของประเทศชาติ แต่การแพร่ระบาดของยาเสพติดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยรุ่นและวัยทำงานเป็นปัญหาที่ทำลายกำลังสำคัญของชาติ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุต่อไปว่า นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ ร่วมดำเนินการเพื่อเป้าหมาย “ปราบปราม รักษา ฟื้นฟู ดูแล” รวมทั้งกำชับให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) สนับสนุนการกวาดล้างยาเสพติดให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบการบูรณาการการทำงาน ระดมความร่วมมือกับตำรวจ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) หน่วยงานรัฐ และภาคประชาชนในพื้นที่ และให้สำนักงาน ป.ป.ส. เป็นเสนาธิการ ในการกำหนดเป้าหมายและ KPIs ที่ท้าทาย กำหนดมาตรการที่เหมาะสมให้กับจังหวัด พร้อมสนับสนุนการประสานงานและทรัพยากรที่จำเป็นต่อไป พร้อมทั้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดต้องทำงานคู่กันอย่างใกล้ชิด โดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งการดังนี้
1. ทำการ X-ray พื้นที่ ด้วยการระดมกำลังตรวจปัสสาวะกลุ่มเสี่ยงทุกคนที่ อายุ 16 ปีขึ้นไป ในทุกหมู่บ้าน
2. แยกผู้เสพออกมารับการบำบัด และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม โดยสำนักงาน ป.ป.ส. และกระทรวงกลาโหม ขยายผลในการจับกุมผู้ขาย
...
3. กระทรวงสาธารณสุข แยกแยะผู้เสพตามระดับความรุนแรงมาบำบัด รักษา และส่งคืนชุมชนเมื่อมีความพร้อม โดยให้กระทรวงสาธารณสุข มหาดไทย และกระทรวงกลาโหม ร่วมกันจัดหาสถานที่บำบัดให้เพียงพอ และผ่านกระบวนการให้แน่ใจว่าจะไม่กลับไปเสพยาอีก
4. การส่งตัวคืนชุมชน ต้องฝึกอาชีพ หางานให้ทำและมีรายได้เพียงพอกับการดำรงชีวิต ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับกระทรวงแรงงาน ต้องเข้ามาดูแลในประเด็นนี้เพื่อไม่ให้กลับไปเป็นผู้เสพอีก
5. การป้องกันผู้เสพใหม่ ให้กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เร่งหามาตรการที่เหมาะสมในการสอดส่องดูแลเยาวชน และขอให้ทางโรงเรียนร่วมกันในการปลูกฝังค่านิยมคุณค่าใหม่ “เด็กและเยาวชนต้องไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด”
ทั้งนี้ จากการทำงานร่วมกันของหน่วยงานรัฐบาล ทำให้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566-2 กรกฎาคม 2567 มีการปราบปรามยาเสพติด โดยตรวจยึดยาบ้าได้ 764 ล้านเม็ด, ไอซ์ 15.208 ตัน, เฮโรอีน 1.275 ตัน, เคตามีน 4.176 ตัน, โคเคน 30 กิโลกรัม และเอ็กซ์ตาซี (ยาอี) 127,190 เม็ด ซึ่งคิดเป็นคดีทั้งหมด 177,121 คดี มีผู้ต้องหา 184,411 คน สามารถยึดและอายัดทรัพย์สินคดียาเสพติดได้กว่า 6,347.07 ล้านบาท นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีมาตรการบำบัดรักษาผู้ที่ติดยาเสพติดไปแล้วกว่า 108,304 ราย พร้อมทั้งดำเนินการป้องกันยาเสพติดในหมู่บ้านและชุมชนไปแล้วกว่า 15,804 แห่ง.