อดีตผู้สมัคร สว.ร้องศาลปกครองสูงสุดสั่งระงับประกาศผลเลือก สว.ก่อนปล่อยผี 3 ก.ค. บี้ กกต.ตรวจสอบคุณสมบัติว่าที่ สว.ทั้ง 200 คน “จาตุรันต์” ไม่เชื่อลมปากปล่อยก่อนสอยทีหลัง รับไม่ได้จัดคนลงสมัครข้ามกลุ่มกระจายคุมให้ครบ 20 กลุ่ม ขณะที่ “จักรพงษ์” บุก กกต.ยื่นค้านประกาศรับรอง 200 ว่าที่ สว. คาใจคนมีความรู้ จบสูง แพ้พวกใส่เสื้อยืดรองเท้าแตะ จี้สอบฮั้วลงคะแนน สั่งให้เป็นโมฆะจัดให้เลือกใหม่ “คำรบ” ชี้เป้าสอบ 111 ว่าที่ สว.บล็อกโหวต ขู่ดันทุรังรีบรับรองผลจะเอาผิดฟันมาตรา 157 ด้าน กกต.ยื้อประกาศรับรองไปหลัง 3 ก.ค. อ้างต้องตรวจสอบปมคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามผู้สมัคร “นครินทร์” ปัดมีดีลลับพิจารณา 3 คดีใหญ่เขย่าการเมือง เผยคดี 40 สว.สอย “เศรษฐา” กับคดียุบ “ก้าวไกล” ตัดสินจบก่อนเดือน ก.ย. ไฟเขียวค่ายสีส้มชี้แจงแก้ข้อสงสัย พท.ขี่กระแสชนะศึกเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี “ประเสริฐ” โวนายใหญ่ยังไม่สิ้นมนต์ขลัง

การเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่เต็มไปด้วยปัญหาและถูกร้องเรียนว่ามีความผิดปกติ ฮั้วลงคะแนน และจัดตั้งคนมาลงสมัครภายใต้การครอบงำของกลุ่มบุคคลหรือพรรคการเมือง ล่าสุดกลุ่มอดีตผู้สมัคร สว.รวมตัวทยอยไปยื่นร้องต่อศาลปกครอง และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ระงับการประกาศรับรองผลเลือก สว.ในวันที่ 3 ก.ค.ออกไปก่อนและใช้อำนาจสั่งให้มีการนับคะแนนใหม่

...

อดีตผู้สมัคร สว.ร้องระงับรับรอง สว.

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ก.ค.ที่ศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายจาตุรันต์ บุญเบ็ญจรัตน์ เลขาธิการกลุ่ม Clean Politic ในฐานะอดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) กลุ่มที่ 20 (กลุ่มอื่นๆ) กรุงเทพฯ ยื่นฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต่อศาลปกครองสูงสุดว่าปล่อยปละละเลยในการตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร ไม่จัดการเลือกตั้ง สว.ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลเปิดไต่สวนฉุกเฉินเพื่อพิจาณาสั่งระงับการประกาศรับรองผลการเลือก สว.เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเป็น สว. 200 คน และผู้อยู่ในบัญชีสำรองอีก 100 คน ว่ามีคุณสมบัติถูกต้องตามกฎหมาย

ขอไต่สวนฉุกเฉินก่อนปล่อยผี 3 ก.ค.

นายจาตุรันต์กล่าวว่า กระบวนการเลือก สว.ปี 2567 ตั้งแต่รับสมัครมาถึงการเลือกระดับอำเภอ ระดับจังหวัดและระดับประเทศเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.เป็นวิบากกรรมประชาชนไม่มีส่วนร่วม แต่หลังเลือกเสร็จกลับกลายเป็นวาระแห่งชาติ ประชาชนโฟกัสมาที่กลโกง การจัดตั้ง กลุ่มอาชีพของคนเป็นว่าที่ สว.ใหม่ ไม่ได้ด้อยค่าอาชีพ แต่กระบวนการได้เข้ามาของบางคนเชื่อมโยงของบางกลุ่มที่พยายามจัดตั้งและนำคนเข้ามา เข้ามาสมัครโดยปราศจากการอยากเป็น สว. เลือกไม่ลงคะแนนให้ตัวเองเป็นความผิดปกติ และการเลือกลงในกลุ่มอาชีพอาจผิดมาตั้งแต่แรกใช้เจ้าหน้าที่กลไกของกระทรวงมหาดไทยอบรม บางจังหวัดมีคนเยอะ บางอำเภออะลุ่มอล่วย ใช้วิจารณญาณไม่เข้าหลักเกณฑ์ หรือผูกพันกันส่วนตัวหรือไม่ การลงไม่ตรงกลุ่มอาชีพมีปัญหาแน่ บางกลุ่มคลุมเครือต้องตีความ บางกลุ่มขัดแย้งดูพิกลพิการ อาจถูกหลอกจากผู้จัดตั้ง เพื่อกระจายไปให้ตรงเป้าหมาย 20 กลุ่มมากที่สุด หลายคนเห็นความผิดปกติ หากปล่อยว่าที่ สว. 200 คน เข้าไปทำหน้าที่ บางคนจะไม่เหมาะสมในการทำหน้าที่ สว. เนื่องจากอาจถูกครอบงำจากบางกลุ่ม เลยมายื่นเรื่องให้ศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครอง ไต่สวนฉุกเฉินการที่คาดว่า กกต.จะประกาศรับรองผลวันที่ 3 ก.ค. ยังมีเวลาไม่ต้องรีบ

ไม่เชื่อมั่นปล่อยก่อนตามสอยทีหลัง

นายจาตุรันต์กล่าวว่า การปล่อยผ่าน สว.บางคนเข้าไปทำหน้าที่ในองค์กรอิสระ ไปพิจารณากฎหมายสำคัญไม่สามารถปล่อยผ่านได้จริงๆ อยากให้ กกต.มีเวลาและตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่งก่อน ยืนยันไม่ได้ต้องการให้การเลือกเป็นโมฆะ ได้นำหลักฐานทั้งที่ปรากฏผ่านสื่อ ที่ไปเจอมาและหลักฐานจากนายสมชาย แสวงการ สว. หนังสือท้วงติงจากนายกล้านรงค์ จันทิก ประธานคณะ กมธ.กิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ วุฒิสภา และหลักฐานการนับคะแนนเป็นศูนย์คะแนนของผู้สมัคร สว. รวมถึงกลุ่มอาชีพ มายื่นต่อศาล ส่วนที่ กกต.ชี้แจงว่าจะรับรองไปก่อนแล้วค่อยสอยทีหลังก็ได้นั้น ไม่ได้ ไม่เชื่อมั่นแนวทางนี้และที่มีคนบอกว่าไม่อยากให้ปล่อยยาวไป เพราะไม่อยากให้ สว.จากการแต่งตั้งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รักษาการต่ออีกยาว เป็นคนละเรื่องกัน กรณี กกต.บอกว่าการฮั้วหากไม่มีหลักฐานการจ่ายเงินจะจับได้ยาก ไม่เชื่อว่าคน 4 หมื่นคนแล้ว กกต.จะไม่มีหลักฐานการจ่ายเงิน อยู่ที่ว่าจะสืบคดีหรือไม่ ขอเรียกร้องผู้สมัครที่อาจถูกชักจูงในทางที่ผิด มีการจ่ายเงิน ชักจูงจริงแล้วถูกหักหลัง ทำหน้าที่เพื่อบ้านเมืองขอให้นำหลักฐานมายื่นต่อ กกต.ที่ต้องเร่งกู้ศักดิ์ศรีอันศักดิ์สิทธิ์ กกต.ชุดก่อนหน้านี้ไม่ปล่อยผ่านไปง่ายๆ นั่นคือการทำหน้าที่อย่างศักดิ์สิทธิ์

บุก กกต.ยื่นค้านประกาศชื่อ 200 สว.

ขณะเดียวกัน ที่สำนักงาน กกต.นายจักรพงษ์ คงปัญญา อดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.)กลุ่ม 12 กลุ่มผู้ประกอบอุตสาหกรรมหรืออื่นๆทำนองเดียวกัน พร้อมตัวแทนอดีตผู้สมัคร สว.เข้ายื่นต่อ กกต.คัดค้านการประกาศชื่อ สว. 200 คนที่ได้รับเลือก โดยนายจักรพงษ์กล่าวว่า มาคัดค้านตามกฎหมายไม่ใช่เป็นขี้แพ้ชวนตี มีคนที่มีความรู้ จบสูงๆยังตกตั้งแต่รอบอำเภอ แต่หลายคนที่เข้าคือใส่รองเท้าแตะเสื้อยืด ยังได้เข้าระบบเต็มไปหมด เป็นคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับระบบการตรวจสอบคุณสมบัติ กกต.ทำถูกต้องครบถ้วนแล้วหรือยัง หลายคนที่มีชื่อเสียงร่วงระนาว ยังไม่รู้ว่าเพราะอะไร

บี้สอบพบฮั้วสั่งให้เป็นโมฆะเลือกใหม่

นายจักรพงษ์กล่าวว่า ตัวแทนอดีตผู้สมัครสว.รวมตัวเพื่อยื่นเรียกร้องต่อ กกต.คือ 1.ให้ กกต.หยุดการประกาศชื่อรับรอง 200 ชื่อว่าที่ สว.เอาไว้ก่อน เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของคะแนนทุกคะแนนว่าการเลือก สว.ครั้งนี้ มีการเอาเปรียบผู้สมัครคนอื่นหรือไม่ที่เรียกว่ามีการฮั้วกัน 2.หากพบว่าผลการตรวจสอบว่าคะแนนมีมูลหรือเหตุควรเชื่อว่ามีการฮั้วลงคะแนนให้กันให้ กกต.ประกาศให้ผลการเลือก สว.ครั้งนี้เป็นโมฆะ และสั่งให้มีการเลือก สว.ใหม่ทันที 3.ก่อนการเลือกใหม่ให้ กกต.ตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครใหม่ทั้งหมด เพื่อป้องกันผู้สมัครใหม่ที่ไม่มีคุณสมบัติตามกฎหมายจริงทั้ง 20 กลุ่มอาชีพ 4.ในวันเลือกใหม่ กกต.จะต้องเข้มงวดไม่ให้ผู้สมัครนำเอกสาร หรือโพย หรือการจด การทำตัวเลขใดๆบนร่างกายรวมทั้งเครื่องมือสื่อสารใดๆเข้าสู่สถานที่เลือกโดยเด็ดขาด 5.ให้ กกต.จัดพิมพ์เอกสารแนะนำตัวหรือ สว. 3ใหม่ แล้วแจกให้ผู้สมัครใหม่ ก่อนเข้าช่องรอลงคะแนน โดยไม่ใช่การแจกให้ตั้งแต่สัปดาห์ก่อนเลือกเหมือนครั้งนี้ เพื่อป้องกันการจดโพยกัน

ร้องสอบ 111 ว่าที่ สว.บล็อกโหวต

ต่อมาเวลา 10.30 น. กลุ่มผู้สมัคร สว.นำโดย พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ผู้สมัคร สว.กลุ่ม 2 กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ยื่นหลักฐานต่อ กกต.เรื่องการบล็อกโหวตการเลือก สว. พล.ต.ท.คำรบกล่าวว่า วันนี้มายื่นหนังสือต่อ กกต.ขอให้ตรวจสอบว่าที่ สว. 111 คน และยื่นคำร้องขอคัดค้านการประกาศรับรองผลผู้ที่ได้เป็น สว.รวมถึงรายชื่อสำรองด้วย เนื่องจากพบความผิดปกติในการลงคะแนนโดยเฉพาะการเลือกไขว้ ซึ่งมีลักษณะการลงคะแนนเป็นชุดๆโดยใบลงคะแนนมีหมายเลขเหมือนๆกัน ยกตัวอย่างโดยมีหลักฐานเป็นภาพถ่าย การลงคะแนนในช่วงเลือกไขว้ในสาย ง. โดยพบว่าผู้สมัครกลุ่มที่ 19 ลงคะแนนให้กลุ่มที่ 2 ที่มีการลงคะแนนให้กับหมายเลขเหมือนๆกัน จำนวน 4-5 ใบลงคะแนน และเมื่อนำไปเทียบกับโพยที่ตนเก็บได้ พบว่า เบอร์ที่เขาลงคะแนนตรงกับโพยทุกเบอร์

ขู่ฟัน ม.157 หากดื้อรีบรับรองผล

พล.ต.ท.คำรบกล่าวอีกว่า หลักฐานนี้ชี้ชัดได้ว่ามีการจัดตั้งกลุ่มในการลงคะแนนโดยในวันเลือกรอบไขว้กลุ่มผู้สมัครที่มีพฤติกรรมดังกล่าวจะจัดกลุ่ม กลุ่มละ 10 คน และจะเลือกคนในกลุ่ม และยังมีผู้สมัคร สว.ที่ไม่ลงคะแนนให้กับตัวเอง แต่ลงคะแนนให้กับผู้ที่เป็นเป้าหมาย ตนยื่นหลักฐานเพื่อขอให้ กกต.ใช้อำนาจในการเปิดกล่องนับคะแนนใหม่ โดยใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อตรวจหาพิรุธการลงคะแนนเป็นกลุ่ม ซึ่งผิดปกติวิสัย ขณะนี้หลักฐานคือใบลงคะแนนที่ กกต.เก็บไว้ในกล่องจำนวน 40 กล่อง ถ้าตรวจสอบโดยใช้วิธีนี้จะใช้เวลาไม่เกิน 4 ชั่วโมง จะทำให้ทราบว่าใครลงคะแนนให้กับใครบ้าง หากการยื่นหนังสือในวันนี้ กกต.ไม่ได้ดำเนินการตามที่ร้องขอ ก็จะยื่นหนังสือให้กับหน่วยงานที่มีอำนาจทางปกครอง และบังคับให้กกต.ดำเนินการตามข้อเรียกร้อง และถ้า กกต.ยังดื้อดึงประกาศรับรองผล สว. จะยื่นร้องต่อศาลฎีกา และจะร้องตามมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้ กกต.ได้แถลงถึงโพยที่พบว่าอาจเป็นการทำการบ้านของผู้สมัคร ตราบใดยังไม่มีหลักฐานว่าเอื้อประโยชน์ต่อกัน จะเอาผิดได้หรือไม่ พล.ต.ท.คำรบกล่าวว่า การให้ประโยชน์ไม่จำเป็นต้องเป็นแค่เรื่องเงิน แต่เป็นสัญญาว่าจะให้ตำแหน่ง ถือว่าเป็นการให้ประโยชน์ต่อกันแล้ว อยากให้ กกต.กล้าหาญนับคะแนนใหม่ โดยเปิดให้ประชาชนและสื่อมวลชนได้รับทราบด้วย

“สมชาย” จี้ใช้อำนาจนับคะแนนใหม่

วันเดียวกัน นายสมชาย แสวงการ สว. โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า อำนาจที่ กกต.มีและควรต้องใช้ตรวจสอบการฮั้ว การบล็อกโหวต และการร้องนับคะแนนไม่เป็นการลับในมาตรา 59 มาตรา 64 และมาตรา 32 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.คือ สั่งให้นับคะแนนใหม่ เพื่อตรวจสอบการลงคะแนนชุดบล็อกโหวตพิสูจน์ขบวนการฮั้วเลือก สว.ที่ผู้สมัครระดับประเทศยื่นร้องคัดค้านต่อ กกต. และยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแล้วหลายราย แม้ศาลจะยกคำร้อง แต่ได้วางหลักให้ร้องต่อ กกต. จึงมีหน้าที่ตรวจสอบตามที่ผู้ร้องคัดค้าน ด้วยการตรวจสอบทั้งกระบวนการ โดยเฉพาะการนับคะแนนใหม่ เพื่อพิสูจน์บัตรชุดลงคะแนนที่เลือกตรงและเลือกไขว้ของผู้สมัครจำนวนมาก ลงคะแนนซ้ำเหมือนกันตามที่ผู้สมัครบางคนร้องว่า มีมาก 22-26 ชุด มีแหล่งข่าวจากผู้สมัครบางรายระบุว่า มีการออกแบบโดยนักวิเคราะห์คอมพิวเตอร์ จัดทำชุดลงคะแนนโดยเฉพาะให้แต่ละโหวตเตอร์ นำเข้าไปกาในคูหา คะแนนออกมาจึงควบคุมเกาะกลุ่มเป็นชุดๆไปที่ผู้สมัครเฉพาะรายแบบเจาะจงที่ได้คะแนนสูงเป็นกลุ่มก้อนตามลำดับ และตามมาตรา 64 และมาตรา 32 ที่ผู้สมัครไปร้องศาลฎีกาในหลายคดีและศาลยกคำร้อง วินิจฉัยเป็นหน้าที่ กกต. กกต.จึงมีอำนาจหน้าที่ต้องตรวจสอบ การลงคะแนนดังกล่าวเป็นความลับ สุจริตและเที่ยงธรรมหรือไม่ โดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

กกต.คาดรับรองว่าที่ สว.หลัง 3 ก.ค.

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก กกต.ว่า จากกรณีมีผู้สมัคร สว.เข้ายื่นร้องเรียนต่อ กกต. หลังสำนักงาน กกต.จัดให้มีการเลือก สว.ปี 2567 เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.จนได้ 200 คน ที่ได้รับเลือกพร้อม 100 คน เป็นบัญชีสำรอง โดย กกต.ต้องรอไว้ 5 วันรอการยื่นร้องเรียนคัดค้าน หากไม่มีอะไรจะประกาศรับรองชื่อ 200 คนได้ เลขาธิการ กกต.ได้แถลงคาดว่าเบื้องต้นจะประกาศรับรองชื่อดังกล่าวได้ไม่เกิน 3 ก.ค. แต่เนื่องจากมีประเด็นเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครจึงจำเป็นต้องมีการตรวจสอบ เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมาย ให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดย กกต.จะดำเนินการโดยเร็วไม่ล่าช้า คงต้องประกาศรับรองหลังวันที่ 3 ก.ค.ไม่ถือว่าผิด เพราะกฎหมายบอกให้รอไว้ 5 วัน ไม่ได้บอกว่าให้ประกาศภายในกี่วัน ช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานนั้นๆ ถ้ามีหลักฐานการกระทำความผิดสามารถสอยได้เลย

“อนุทิน” สมเพชพวกด้อยค่า สว.

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า ที่บอกว่าพรรค ภท.ไปเกี่ยวข้องกับการเลือก สว.ไม่รู้พูดได้อย่างไร กฎหมายห้ามชัดเจนอยู่แล้ว ฝากนักข่าวเสนอข่าวให้เข้าใจด้วยและรู้สึกสมเพชคนด้อยค่า สว.ไม่มีการศึกษา ขายก๋วยเตี๋ยว คนขับรถ ชาวนา คนที่พูดด้อยค่ายิ่งกว่า สว.อีก อยากให้เข้าใจว่ามนุษย์ทุกคนเกิดมาเท่ากัน เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญต้องการให้มีคนหลากหลาย อยากฝากประชาชนตั้งข้อสังเกต อย่าง สส.หรือรัฐมนตรีต้องจบปริญญาตรีเป็นขั้นต่ำ แต่ สว.ไม่มีการระบุเรื่องของการศึกษา ไม่เรียนหนังสือยังเป็นได้เลย เพราะต้องการเอาคนที่หลากหลายมีประสบการณ์ชีวิต ถ้ามาตามกระบวนการทุกอย่างแล้วต้องเดินต่อไป ป่วยการไปพูดว่าคนนี้มีอาชีพอะไร การศึกษาอย่างไร เป็นทัศนคติที่เลวร้าย ใช้ไม่ได้

ฉะ “ไพศาล” ปั่น ภท.จับมือ ก.ก.

นายอนุทินยังกล่าวถึงกรณีที่นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์เฟซบุ๊กปั่นกระแสจับตานายอนุทินจะเป็นนายกฯ จับมือกับพรรค ก.ก.หากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้พ้นจากตำแหน่งว่า “ปั่นกันสนุกเลย แต่คนที่ตายคือผม ไม่เคยรู้เรื่อง และไม่มีความกระตือรือร้นใดๆ ในรัฐบาลชุดนี้ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่รับใช้ประชาชน สนองนโยบายนายกฯ และ ครม.ไม่มีอะไรเดือดร้อนที่จะได้ดิบได้ดีอะไรไปมากกว่านี้ มีวันนี้ได้พึงพอใจอยู่แล้ว” เมื่อถามว่า หากไม่มีเงื่อนไขเรื่องมาตรา 112 สามารถจับมือกับพรรค ก.ก.ได้ใช่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า อย่าเพิ่งไปพูดเลย วันนี้เราอยู่รัฐบาลนายกฯเศรษฐา พรรคร่วมรัฐบาลที่มีเสียงถึง 315 เสียง ถ้ามีเสถียรภาพขนาดนี้แล้วอยู่ไม่ได้อายเขาตาย

“นครินทร์” รับข่าวมีผลต่อการตัดสินใจ

เมื่อเวลา 09.00 น. ที่โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กทม. สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญจัดโครงการศาลรัฐธรรมนูญพบสื่อมวลชน ประจำปี 2567 โดยมีนายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ปาถกฐาพิเศษ เรื่อง “บทบาทของสื่อในสังคมข้อมูลข่าวสารยุคดิจิทัล” ตอนหนึ่งว่า ข้อมูลข่าวสารยุคดิจิทัลยุ่งเหยิงมาก แน่นอน สื่อเป็นเครื่องมือของศาล และศาลต้องมีสื่อ ใช้สื่อเป็น อย่างน้อยต้องมีจดหมายข่าวต่างๆ แต่ขณะเดียวกันเราต้องอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ถูกบีบโดยสื่อด้วย ไม่ว่าสื่อจะรายงานในทางบวก ทางลบ รายงานสถานการณ์ ทางการเมือง เศรษฐกิจ ก็ล้วนแล้วแต่มีผลต่อการตัดสินใจของศาลอยู่ด้วยในบางลักษณะ จะมากจะน้อยแล้วแต่ดุลพินิจของตุลาการแต่ละท่าน บางท่านอาจจะคิดถึงสถานการณ์มากเป็นกรณีพิเศษ บางท่านอาจจะไม่สนใจสถานการณ์บ้านเมืองเลยก็ได้ โดยตนมองสังคมไทยเราอยู่ในสังคมที่มีสิทธิเสรีภาพพอสมควร ตนถือว่ามาก เมื่อเปรียบกับประเทศอาเซียนด้วยกัน น่าจะดีกว่า เมียนมา ลาว กัมพูชา เวียดนาม มากกว่ามาเลเซียสิงคโปร์ด้วยซ้ำ ในบางเรื่อง

ปัดมีดีลกับใครประชุม 3 คดีรวด

นายนครินทร์กล่าวอีกว่า องค์กรศาลไม่ใช่องค์กรที่ต้องกระตือรือร้นสื่ออะไรทั้งหมด เมื่อไม่กี่วันมานี้มีท่านตุลาการท่านหนึ่งบอกว่า ควรจะสื่อให้เขาทราบดีไหมว่าทำไมเราต้องประชุมวันที่ 18 มิ.ย. ท่านบอกตนทางไลน์ แต่พวกเราเงียบไม่อยากบอก ไม่ใช่สายมูอะไร ไม่มีเรื่องลึกลับซับซ้อนอะไรเลย ไม่ใช่ว่าเราจะไปตกลงกับใคร จนกระทั่งมาประชุมวันที่ 18 เหตุผลง่ายมาก เพราะตุลาการท่านหนึ่งท่านขอลามาเป็นเวลานานหลายเดือนแล้ว ถ้าไม่ประชุมกันอาทิตย์นี้ ยกเว้นไปเลย ตกลงกันประชุมวันที่ 18 การประชุมไม่ได้มีอะไรลึกลับซับซ้อน โลกยุคดิจิทัลทำให้มนุษย์ติดต่อกันได้ เข้าถึงกันรวดเร็ว ง่าย แต่ในมุมกลับมันคือโลกของการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ทำให้คนมีการรับฟังความอีกฝั่งน้อยเกินไป ฝากไว้จัดการแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร และเรื่องจรรยาบรรณสื่อยุคดิจิทัลอยู่ที่ไหน ถ้ามีการควบคุมดูแลกันบ้าง แต่การไม่ควบคุมกันเลย มันคือสังคมอนาธิปไตย เรายืนอยู่สองขา โลกฝั่งหนึ่งจะเป็นอนาธิปไตยหรือจะเป็นเผด็จการ แต่เราอย่าเป็นทั้งสองอย่างจะดีกว่า อยู่ตรงกลางๆให้สื่อยุคดิจิทัลเคลื่อนที่ไป

เผย 2 คดีใหญ่ตัดสินก่อน ก.ย.แน่

ช่วงบ่าย นายนครินทร์ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวันที่ 3 ก.ค.ว่า มีหลายเรื่อง อาทิ เรื่องกฎหมายขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ รวมถึงคำร้องให้ยุบพรรค ก.ก. และกรณี 40 สว.ยื่นคำร้องเอาผิดนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ แต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ ขอให้รอฟังผลการประชุม แต่ทั้ง 2 คดีน่าจะเสร็จก่อนเดือน ก.ย.แน่นอน ทั้งนี้ คดีพรรค ก.ก.เป็นเพียงแค่การขอเอกสารหลักฐานจากคู่กรณีเท่านั้น

ไฟเขียวพรรคส้มแถลงแก้ต่าง

เมื่อถามว่า กดกันหรือกังวลอะไรหรือไม่ นาย นครินทร์ตอบว่า การทำงานเราก็ต้องกดดันตัวเองสังคมก็กดดันเรา เป็นที่เข้าใจได้คดีสำคัญต้องมีความ เที่ยงธรรมดูให้พอเหมาะพอควร ให้เขาชี้แจงข้อสงสัยแล้ว ไปประชุมวินิจฉัยกันอีกครั้ง องค์คณะมีความเห็นเป็นอิสระ ใครตัดสินใจอย่างไรมีการเปิดเผยหมด เมื่อถามว่า พรรค ก.ก.ออกมาเคลื่อนไหวมา 2 ครั้งแล้ว จะมีปัญหาหรือไม่ นายนครินทร์ตอบว่า ต้องให้องค์คณะพิจารณา ส่วนตัวคิดว่าไม่มี เมื่อถามย้ำว่า กรณีพรรค ก.ก.แถลงข่าวถือว่าผิดคำสั่งศาลที่ให้หยุด เคลื่อนไหวหรือไม่ นายนครินทร์ตอบว่า เป็นคำแนะนำ และคำเตือนของศาล ต้องดูความพอเหมาะพอดีพอควร สังคมไทยมีสิทธิเสรีภาพพอสมควร เขาดำเนินการไปในสิ่งที่เห็นว่าพอเหมาะพอควร ยืนยันว่าศาลไม่ใช่คู่ขัดแย้ง ฉะนั้นศาลไม่ตอบโต้กับเรื่องเหล่านี้

พท.หน้าบานชนะนายก อบจ.ปทุมธานี

วันเดียวกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์รูปลงพื้นที่ช่วยนายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) หาเสียงบนอินสตาแกรม ระบุว่า “ขอแสดงความยินดีกับคุณชาญที่ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนชาวปทุมธานี ให้เป็นนายก อบจ.ปทุมธานี อิ๊งค์และพรรคเพื่อไทยยินดีอย่างยิ่งที่ได้ทำงานร่วมกัน และเชื่อว่าชาวปทุมจะได้รับการดูแลจากคนที่ตั้งใจทำงานจริง อย่างสโลแกน #ลุงชาญใจดี #ตัวดำทำจริง ใจดี และทำจริง จริงๆค่ะ” ขณะที่นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว เลขาธิการพรรค พท. กล่าวว่า รัฐบาลพรรค พท.พร้อมทำงานร่วมกันอย่างสอดประสานให้ผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ไปสู่ประชาชน ไม่ว่าจะสนามการเลือกตั้งใด ชัยชนะนายชาญคือ ชัยชนะชาวปทุมธานี ที่ไม่ละทิ้งประชาชนแม้ในวันที่ไม่ได้เป็นนายก อบจ.

โว “นายใหญ่” ไม่เสื่อมมนต์ขลัง

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แกนนำพรรค พท. กล่าวว่า ขอบคุณชาวปทุมธานีทุกคนที่ยังให้ความไว้วางใจเลือกผู้สมัครของพรรค พท. เมื่อถามว่าผลการเลือกตั้งครั้งนี้สะท้อนว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ยังไม่เสื่อมมนต์ขลังใช่หรือไม่ นายประเสริฐตอบว่า ไม่เสื่อมๆเห็นได้ชัดเลยว่าเราทำตามนโยบายหลายอย่าง และสามารถคว้าชัยมาได้ ทำให้เราต้องทำงานหนักขึ้น เพราะคู่ต่อสู้ไม่ธรรมดา พรรคคงต้องปรับยุทธศาสตร์เพื่อการต่อสู้ในครั้งต่อไป

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ แกนนำพรรค พท. กล่าวว่า การชนะการเลือกตั้งครั้งนี้สะท้อนว่านายชาญทำงานอย่างเต็มที่ ถือว่าทีมงานพรรคได้ปรับกระบวนการทำงานดึงศรัทธาประชาชนกลับมาได้ เป็นการส่งสัญญาณว่าเราทำงาน เอาใจใส่ประชาชนมากขึ้น ผู้ชนะดีใจอย่าให้มากจนเกินไปแล้วตั้งใจทำงาน ผู้แพ้ก็อย่าอาฆาต ยอมรับความพ่ายแพ้ แล้วช่วยกันทำงาน ใครครองใจประชาชนได้มากกว่า

เมินนิด้าโพลไม่บริหารตาม ปท.เจ๊ง

นายภูมิธรรมกล่าวถึงกรณีนิด้าโพลระบุว่า คะแนนความนิยมพรรค ก.ก.นำทิ้งห่างพรรค พท. ว่า ต้องรับฟังโพลทั้งหลาย แต่นิด้าโพลเคยบอกว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง จะชนะนายก อบจ. ปทุมธานี ไม่ใช่หรือ แล้วตกลงใครชนะ นิด้าโพลหรือไม่ อย่าไปให้ความสำคัญของโพลเป็นผู้ชี้เป็นชี้ตาย อย่างที่นิด้าโพลบอกว่า เราแพ้พรรค ก.ก. เหมือนที่บอกว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์จะชนะ มันมีผิดกันได้ทั้งนั้น อย่าไปใส่ใจเอามาเป็นประเด็นสำคัญมาก เป็นเสียงสะท้อนเสียงหนึ่ง ถ้าถือโพลเป็นสรณะบริหารตามโพล ป่านนี้ประเทศคงล่มสลายไปหมดแล้ว มันไม่ใช่โพลอย่างเดียว มีปัจจัยหลายอย่างในการชนะหรือแพ้การเลือกตั้ง อยากให้เป็นเครื่องเตือนสติโพลเป็นเครื่องชี้นำว่าแนวโน้มเป็นอย่างไร แต่โพลไม่สามารถ หยั่งใจไปช่วยมนุษย์ได้ทั้งหมด โพลไม่ได้ไปลงดูในรายละเอียดที่เพียงพอถ้าเพียงพอต้องเป๊ะทุกเรื่อง

“สรวงศ์” ขุดอดีตอ้อนขอคะแนน

นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรค พท. กล่าวว่า ผลนิด้าโพลที่ว่าความนิยมนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก.ก.และพรรค ก.ก. ยังเป็นอันดับ 1 ว่า สิ่งที่พรรคทำอยู่ถือว่ามาในแนวที่ถูกทางแล้ว แต่ทุกอย่างต้องใช้เวลา ผลโพลก็คือผลโพลเป็นสิ่งที่เรานำมาไว้เตือนใจตลอดเวลา มั่นใจว่าพรรค พท.โดยเฉพาะ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท. ทำงานเต็มที่ การบ้านของเราคือทำสิ่งที่ขาดอยู่ ขณะนี้รัฐบาลพยายามนำสิ่งต่างๆที่สัญญาไว้กับประชาชนมาทำให้เป็นรูปธรรมออกไปมากที่สุด เมื่อถามว่า เวลาอีก 3 ปี ก่อนเลือกตั้งครั้งหน้ามั่นใจหรือไม่ว่าพรรคจะพิสูจน์ตัวเองให้ประชาชนกลับมาเลือกได้หรือไม่ นายสรวงศ์ตอบว่า มั่นใจ สิ่งที่เรากำลังทำประชาชนจะเห็น เรามีผลงานเยอะ และปฏิเสธไม่ได้ว่าประชาชนส่วนหนึ่งยังไม่พอใจกับผลงานของรัฐบาล หากย้อนกลับไปดูจริงๆตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พลังประชาชน จนมาพรรค พท. เรายังไม่เคยได้สร้างแบบจริงจังเลย ถูกปฏิวัติมาถึงสองรอบ ขอให้ประชาชนเข้าใจให้เวลารัฐบาล

เฉ่งสื่อ-นักวิชาการพูดไม่รับผิดชอบ

นายสรวงศ์กล่าวอีกว่า ฝากถึงสื่อมวลชนและนักวิชาการตอนนี้ออกมาพูดกันจนประชาชนเชื่อสิ่งที่พูดกันหมดแล้ว แต่เมื่อไม่เป็นเหมือนที่พูดไม่เห็นมีใครออกมารับผิดชอบ ฉะนั้นนักวิชาการกลับไปทำงานของตัวเอง ไม่ใช่ออกมาพูดเป็นต่อยหอยเลยว่ามีดีลเช่นนั้นเช่นนี้ งงว่าพูดเป็นฉากเลย แต่เราเองไม่มีโอกาสออกไปตอบโต้ ขอฝากว่า ขณะนี้ประเทศชาติและประชาชนต้องการให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น การเมืองก็ว่ากันไป แต่อย่านำมาปนกัน อยากให้รัฐบาลได้ทำงานอย่างเต็มที่ นายกฯลงพื้นที่เต็มที่เพื่อไปรับฟังปัญหาของประชาชน เวลาที่เหลืออีก 3 ปีกว่านี้เราจะทำให้ประชาชนเห็นถึงความตั้งใจ และผลงานของพรรค พท.

รทสช.ดัน ก.ม.ลดราคาน้ำมัน

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยว่า เนื่องจากมีพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาสมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง พ.ศ.2567 ในวันที่ 3 ก.ค.2567 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน หัวหน้าพรรค รทสช. และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ได้นัดประชุม สส.พรรคในวันที่ 2 ก.ค.เพื่อเตรียมความพร้อมร่างกฎหมายที่จะเสนอไปเข้าสู่การพิจารณาของสภาหลายฉบับ เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชน โดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวกับการรื้อ ลด ปลด สร้าง ปรับโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิง หัวหน้าพรรคและทีมกฎหมายของพรรคได้เร่งดำเนินการเพื่อคืนความเป็นธรรมทางด้านพลังงานเชื้อเพลิงให้ประชาชนทั้งประเทศ

นายกฯสวมเสื้อแมวโคราชลุยภารกิจ

สำหรับภารกิจนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในการลงพื้นที่ “ประตูสู่อีสาน ศูนย์กลางการท่องเที่ยวอารยธรรม และเกษตรมูลค่าสูง” และการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 4/2567 ที่ จ.นครราชสีมาและติดตามการตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 (นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์) นั้น เมื่อเวลา 11.00 น.ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ศูนย์การศึกษาหนองระเวียง ต.หนองระเวียง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา นายเศรษฐา เป็นประธานเปิดการอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “Digital Korat: The Future Starts now-โคราช มหานครดิจิทัลแห่งอนาคต” มีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษาพรรค ชพน. ต้อนรับ โดยนายกฯที่สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นลำลองสีเหลืองลายโคราชโมโนแกรม (KORAT Mono gram) 1 ในซอฟต์พาวเวอร์ของจังหวัด ทันทีที่นายกฯลงจากรถได้รับหนังสือร้องเรียนเรื่องราคาน้ำมัน รถขนส่ง และปัญหาราคาอ้อยตกต่ำ จากนั้นเดินทักทายกลุ่มมวลชนเสื้อแดงโคราชที่มาต้อนรับ นำโดยนายทวี อภิชาติเสนีย์ ประธานมวลชนคนเสื้อแดงภาคอีสาน 20 จังหวัด

ประกาศยกระดับไทยสู่ศูนย์กลางดิจิทัล

จากนั้นนายกฯกล่าวเปิดการอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “Digital Korat: The Future Starts now-โคราช มหานครดิจิทัลแห่งอนาคต” ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีร่วมกับการบริหารกระจายอำนาจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ปรับปรุงการทำงานของภาครัฐให้เป็นรัฐบาลดิจิทัล และทำให้ประชาชนได้รับการบริการจากรัฐสะดวกมากยิ่งขึ้น เราจะยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางเมืองอุตสาหกรรมระดับโลกและเป็นศูนย์กลางดิจิทัล รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของประชาชนและบุคลากรทางภาครัฐให้มีทักษะและปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงเสมอ หวังการจัดงานครั้งนี้จะช่วยให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของดิจิทัลในทุกวิถี ทุกมิติและเป็นฟันเฟืองที่สำคัญอีกตัวหนึ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน และขอให้การจัดงานครั้งนี้บรรลุตามวัตถุประสงค์ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

เกษตรกรร้องช่วยลดราคาอาหารไก่

ต่อมานายกฯได้เยี่ยมให้กำลังใจนักเรียน วงดนตรีย่าโมซิมโฟนีออเคสตราที่มาแสดงในงาน พร้อมถ่ายภาพรวมกับนักเรียนในวงและเดินทักทายและเซลฟี่นักเรียนที่มาร่วมงาน เยี่ยมชมนิทรรศการในงาน เยี่ยมชมรถพลังงานไฟฟ้า โดยได้รับมอบโมเดลรถและภาพวาดนายกฯ สีน้ำมันเป็นที่ระลึก ทั้งนี้มีเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่รายย่อยนครราชสีมา เข้ายื่นหนังสือขอนายกฯ ลดค่าอาหารสัตว์จากราคากระสอบถุงละ 600 บาทเป็นถุงละ 300 ถึง 400 บาท

ติดตามผลิตน้ำประปาโนนสูง

จากนั้นเวลา 13.45 น. นายกฯลงพื้นที่ติดตามโครงการระบบผลิตน้ำประปาขนาดใหญ่ อ.โนนสูง ต.ขามเฒ่า มีนายสมเกียรติ ตันดิลกตระกูล สส.นครราชสีมาเขต 5 พรรค พท.รอต้อนรับ ชาวโนนสูงถือป้ายต้อนรับ นำพวงมาลัยและผ้าขาวม้ามามอบให้นายกฯร่วมถ่ายรูปกับประชาชนและเซ็นชื่อบนเสื้อให้เป็นที่ระลึก ขณะที่นายก อบต.ขามเฒ่า ขอนายกฯสนับสนุนงบฯโครงการก่อสร้างระบบผลิตน้ำประปา (water Treatment System) POG TANK ขนาดใหญ่ อีก 2 ตัวและพลังงานไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ลดค่าใช้จ่าย ช่วยดูแลชาวบ้านถึง 300 ครัวเรือน แล้วไปชมผังการทำงานของน้ำที่ถูกปล่อยลงสู่ท่อระบบ (ABS) Anti Bucking Slug ป้องกันการฟุ้งกระจายของตะกอน พร้อมสั่งให้ดูแลค่าไฟโซลาร์เซลล์ด้วย และขอฝากเรื่องยาเสพติด รัฐบาลกำลังกวาดล้างครั้งใหญ่ทั่วประเทศ นำร่องที่ จ.ร้อยเอ็ด สิ้นเดือน ก.ย.จะเป็นจังหวัดสีขาว

ขอเกจิช่วยรัฐปราบยาเสพติด

ต่อมานายกฯนมัสการพระครูมนูญธรรมโสภิต เจ้าคณะตำบลขามเฒ่า เจ้าอาวาสวัดหนองพอง ต.ขามเฒ่า อ.โนนสูง พระครูมนูญมอบพระพุทธรูปหลวงพ่อ พรหมสร (รอด) วัดบ้านไพ อ.โนนสูง เป็นที่เคารพ ศรัทธาและเลื่อมใสของชาวเมืองโคราชและจังหวัดใกล้เคียง พุทธคุณแคล้วคลาดและคงกระพันชาตรีเป็นเลิศยิ่ง พระครูมนูญยังได้ชื่นชมนายกฯว่าได้เห็นจากข่าวว่าทำงานทุกเสาร์-อาทิตย์ และมีการดำเนินการหลายๆโครงการ ขณะที่นายกฯได้ขอให้พระครูมนูญช่วยดูแลเรื่องปัญหายาเสพติดร่วมกับ สส.ในพื้นที่ เพราะเป็นปัญหาใหญ่มาก

ต่อมาเวลา 15.25 น. นายกฯไปที่วัดธรรมจักรเสมาราม (วัดพระนอนคลองขวาง) อ.สูงเนิน ติดตามโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์และอาคารประดิษฐานพระนอนเมืองเสมา โบราณสถานเมืองเสมา โดยมี น.ส.ณัฐจิรา อิ่มวิเศษ สส.นครราชสีมา เขต 4 พรรค พท.ต้อนรับ นายกฯถวายพานผ้าห่มพระนอน ถวายพานบายศรีสักการะองค์พระนอน พานดอกบัวสักการะพระครูสิริภัทรประยุต รองเจ้าคณะ อำเภอสูงเนิน เจ้าอาวาสวัดสว่างบูรพาราม และพระครูธรรมจักรเสมารักษ์ เจ้าอาวาสวัดธรรมจักรเสมาราม ร่วมสนทนาธรรมการบูรณะพระนอนหินทรายที่ถูกน้ำท่วมผุพัง เป็นพระนอน เก่าแก่สุดในประเทศ สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนงบฯเร่งบูรณะเร็วที่สุด เสร็จไม่เกิน 240 วัน

รับปากคุณตาไม่ลืมเงินหมื่นดิจิทัลฯ

จากนั้น นายกฯเยี่ยมชมการทอผ้าเงี่ยงนางดำ โดย ด.ญ.กัลยา เพียซ้าย มัธยมปีที่ 2 นักเรียนโรงเรียนสูงเนิน และชมการแปรรูปผลิตภัณฑ์ผ้าเงี่ยงนางดำ โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา นายกฯได้ทักทายประชาชน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านกว่า 300 คน มีคุณตาคนหนึ่งตะโกนว่า “นายกฯครับอย่าลืมเงินหมื่นนะครับ” ขณะที่นายกฯยิ้มหันไปตอบรับสั้นๆว่า “ครับ” ทั้งนี้นายกฯ พักค้างคืนที่ จ.นครราชสีมา ก่อนเป็นประธานประชุม ครม.สัญจรครั้งที่ 4/2567 ในวันที่ 2 ก.ค. และลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.นครราชสีมา

เดินหน้านโยบายเรือธงเต็มที่

นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค พท. ให้สัมภาษณ์ถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่ถูกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 2568 แขวนการพิจารณาว่า ไม่น่ามีปัญหา เพราะมั่นใจนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ทุกคนล้วนทบทวนกระบวนการกันมาอย่างดี เวลาลงพื้นที่ประชาชนถามถึง รัฐบาลพยายามทำให้เป็นรูปธรรมในทุกนโยบายเรือธงของเรา อย่างรวดเร็วและทั่วถึง เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่เพราะฝ่ายค้านมีท่าทีว่าจะยื่นศาลปกครอง นายสรวงศ์ ตอบว่า หากรัฐบาลไม่ทำ ประเทศเสียหายใครรับผิดชอบ แต่ทำไปแล้วเสียหาย รัฐบาลรับผิดชอบอยู่แล้ว ฝ่ายค้านก็คือฝ่ายค้านอยู่คนละฝั่งกับรัฐบาล อยากให้มองเห็นภาพรวมสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน อยู่ในสภาฯ ได้รับข้อมูลอย่างหนึ่ง แต่ในพื้นที่จะได้รับข้อมูลอีกอย่าง ตอนนี้ประชาชนไม่มีเงินในกระเป๋าเงินนี้จะเป็นต้นทุนให้พวกเขา ไม่ใช่ว่าเงินหมื่นจะเอามาใช้จ่ายแบบสุรุ่ยสุร่าย มั่นใจว่า ประชาชนในต่างจังหวัดเฝ้ารอ

กกต.ฟัน “ปารีณา” ซื้อเสียงช่วยพี่ชาย

ช่วงค่ำ เว็บไซต์สำนักงาน กกต.เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต.สั่งให้ดำเนินคดีอาญา น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต สส.ราชบุรี พรรค พปชร. และนางนุสรา บุญสวัสดิ์ ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.มาตรา 73 (1) ประกอบมาตรา 158 วรรคหนึ่ง หลังไต่สวนแล้วมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า ก่อนลงคะแนนเลือกตั้ง สส. วันที่ 11 พ.ค.66 น.ส.ปารีณาและ น.ส.นุสรา ร่วมกันแจกเงินให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งหลายราย รายละ 1,000 บาท ที่บ้านเลขที่ 35 ซอย 11 หมู่ที่ 4 ต.หนองโพ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี บ้านของนางนุสราเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่นายสีหเดช ไกรคุปต์ ผู้สมัคร สส.ราชบุรี เขต 3 หมายเลข 1 พรรค ภท. พี่ชายของ น.ส.ปารีณา โดยพฤติการณ์กำนันอำเภอโพธาราม ได้รับแจ้งก่อนหน้าว่าวันดังกล่าวจะมีการจัดประเพณีทำบุญอัฐิบังหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธาราม ชุดเคลื่อนที่เร็วและเจ้าหน้าที่สำนักงาน กกต.ราชบุรี ไปตรวจสอบพบมีชาวบ้านเข้าออกบ้านหลังดังกล่าวจำนวนมาก และมีพยานให้ถ้อยคำน่าเชื่อถือไปตามที่ได้ประสบมาด้วยตนเอง รวมถึงยังมีพยานรายอื่นให้การสอดคล้องกัน จึงเห็นว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง ส่วนนายสีหเดช ข้อเท็จจริงจากการไต่สวน ยังไม่ปรากฏพยานหลักฐานว่าได้ก่อ สนับสนุนหรือรู้เห็นเป็นใจกับการกระทำดังกล่าวของ น.ส.ปารีณาและนางนุสรา จึงมีคำสั่งให้ยุติเรื่องในส่วนที่กล่าวหานายสีหเดช

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่