ลุงชาญใจดี ตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ด้วยความสดใส เปิดบ้านต้อนรับผู้มาร่วมแสดงความยินดี หลังชนะเลือกตั้งนายกอบจ.ปทุมธานี ขอบคุณทุกๆ คน ทุกๆ ฝ่าย ที่มาช่วยกันจนมีวันนี้ ด้านกกต.เผยคะแนนจริงจาก 1,437 หน่วยเลือกตั้ง เบอร์ 1 ได้ 203,032 คะแนน เบอร์ 3 ได้ 201,212 คะแนน มีเรื่องร้องเรียนตั้งแต่ก่อนวันเลือกตั้ง 4 เรื่อง อยู่ระหว่างการสืบสวนไต่สวนของกกต.
เช้าวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ที่บ้านของนายชาญ พวงเพ็ชร์ ต.บ้านงิ้ว อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ผู้ที่ได้รับชัยชนะในการลงสมัคร นายก อบจ.ปทุมธานี พบว่า มีประชาชนและกลุ่มนักการเมืองเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับ “ลุงชาญใจดี” อาทิ ดร.เดชา กลิ่นกุสุม อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองรังสิต นายธีรวุฒิ กลิ่นกุสุม นายเอกชัย กลิ่นกุสุม พร้อมสมาชิกทีมเดชาพัฒนา
นายชาญ พวงเพ็ชร์ ได้กล่าวขอบคุณทุกคนที่มา โดยบอกว่า เมื่อคืนตนก็หลับแต่ดึกหน่อยเพราะมีประชาชนและพรรคพวกมาร่วมแสดงความยินดี วันนี้ตื่นแต่เช้าก็พบว่ามีชาวบ้าน ประชาชนพร้อมผู้หลักผู้ใหญ่หลายท่าน มารอแสดงความยินดี ตนต้องขอขอบคุณทุกๆ คน ทุกๆ ฝ่าย ที่มาช่วยกันจนได้กลับมารับชัยชนะในครั้งนี้
"ต้องขอบคุณพี่น้องปทุมธานีที่เทคะแนนเสียงให้กับลุงชาญและอยากได้ลุงชาญกลับมาทำหน้าที่นายกอบจ.ปทุมธานีอีกครั้ง วันนี้ลุงชาญกลับมาแล้วครับ กลับมาพร้อมกับคนปทุมธานี เราจะช่วยกันพัฒนาจังหวัดปทุมธานีให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ ให้เป็นจังหวัดโมเดลตามนโยบายที่ลุงชาญมอบไว้ให้กับประชาชน 9 มิติ คือลุงชาญออกหาเสียงไปทั้ง 7 อำเภอเสียงสะท้อนกลับมานั้นคือเรื่องปัญหารถติด ซึ่งปัญหารถติดนั้นก็แก้ได้บ้าง แต่แก้ไม่ได้100 % เพราะรถซื้อกันทุกวัน แต่ถนนสร้างอยู่เส้นเดียว ส่วนที่ 2 ไฟส่องสว่างซึ่งไฟส่องสว่างดับทุกเส้น สร้างปัญหาในการสัญจรไปมา และขโมยเยอะมาก พี่น้องประชาชนก็ฝากเรื่องไฟที่มีอยู่แล้วก็ปรับปรุงให้มันดีขึ้นซึ่งเรากได้ประสานไปกับกรมทางหลวงชนบทและแขวงการปทุมธานีพูดคุยกันไว้เบื้องต้น เราได้งบประมาณกันมาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะถนนสามโคก ถนนเส้น 347 และภูมิทัศน์ที่ลุงชาญเคยทำไว้ตอนนี้แห้งแล้งหมดแล้ว เราก็จะต้องมาแก้ไขกันใหม่และจะต้องเป็นเมืองที่สวยงาม เรื่องการศึกษาเด็กเยอะโตเร็ว บุคลากรไม่พอ อาคารเรียนไม่พอ เราจะต้องมาทำต่อมีเครื่องเล่น เครื่องออกกำลังกาย การกีฬาในร่ม และน้ำบางอำเภอยังไม่มีน้ำประปาใช้เลย จะได้ประสานทางรัฐบาลในส่วนงบประมาณของเราก็จะนำมาใช้เหมือนเดิมเติมให้เต็ม เพราะจังหวัดปทุมธานีเป็นเมืองที่โตเร็วอำเภอคลองหลวง คลองสาม มีประชากรก็สองแสนกว่าคน ลำลูกกา ธัญบุรี ลาดหลุมแก้ว ก็มีประชากรเยอะเช่นเดียวกัน"
...
ส่วนที่จะมีเรื่องร้องเรียนไปที่กกต. นายชาญ กล่าวว่า ตนเองไม่หนักใจ เพราะเรื่องร้องเรียนเป็นเรื่องปกติของการเมืองเราก็แก้ไปด้วยความบริสุทธิ์และความโปร่งใส ส่วนที่สจ.อีกฝ่ายที่ยังทำหน้าที่อยู่ ตนคิดว่าไม่มีผลเพราะเราคนปทุมธานีเหมือนกันจะไปสร้างปัญหาทำไม มีแต่ต้องสร้างความเจริญให้กับจังหวัดปทุมธานี คือทุกคนมาจากการเลือกตั้งใครมาเป็นนายก มาเป็นสจ.ก็ต้องมาทำงานด้วยกัน ทำงานร่วมกับหน่วยราชการได้ สิ่งแรกสิ่งที่ต้องทำคือต้องอุ้มเรื่องลูกหลานเรื่องการศึกษาเป็นเรื่องใหญ่มากเพราะเราต้องเอาคนมาสร้างจังหวัดปทุมธานี มาสร้างประเทศชาติ คนมาอยู่ปทุมธานีต้องมีที่เรียน คนที่มาอยู่กับเราเอาภาษีมาให้เราเราไม่ให้เขาเรียนไม่ได้ ทุกโรงเรียนขาดเรื่องอะไรเราจะเติมให้เต็มทั้งประถมศึกษา มัธยมศึกษา มหาวิทยาลัยด้วย ส่วนที่ท่านทักษิณ ชินวัตร โทรศัพท์มาสอบถามเรื่องคะแนนว่าเป็นอย่างไรบ้าง ตนก็บอกว่าคะแนนขึ้นลงใกล้เคียงกันแต่ยังนับไม่หมด ต้องลุ้นอยู่ตลอดพราะบางอำเภอเราแพ้เยอะ 3 อำเภอเราแพ้ แต่ 4 อำเภอเราชนะ และต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนอีกครั้งคนปทุมธานีไม่ทิ้งกัน ลุงชาญรักทุกครอบครัว
ด้าน นายป้องปราการ โสธรเทวาพิทักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้งประจำจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ผลคะแนนเมื่อวานนี้หลังจากปิดการลงคะแนนเวลา 17.00 น. จากการที่มีผู้สมัครรับเลือกตั้งจำนวน 4 คน ผลการนับคะแนนจาก 1,437 หน่วย ในจังหวัดปทุมธานี องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีโดยคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ได้ประกาศผลการนับคดีเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยผลปรากฏว่าผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุดอันดับ 1 ได้แก่ นายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้สมัครหมายเลข 1 ได้ 203,032 คะแนน อันดับ 2 พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้สมัครหมายเลข 3 ได้คะแนน 201,212 คะแนน อันดับ 3 นายนพดล ลัดดาแย้ม ผู้สมัครหมายเลข 4 ได้คะแนน 16,983 คะแนน อันดับที่ 4 นายอธิวัฒน์ สอนเนย ผู้สมัครหมายเลข 2 ได้คะแนน 7,122 คะแนน 100 คะแนน ประกาศผลนับคะแนนที่เรียบร้อยและตอนนี้ก็อยู่ในระหว่างขั้นตอนการส่งคะแนนแบบ ผฐ 58 ไปให้คณะกรรมการการเลือกตั้งได้พิจารณาในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
"ระเบียบกฎหมายจะแยกเป็น 2 ส่วน มีเรื่องร้องเรียน หรือไม่มีเรื่องร้องเรียนก็ตาม จะมีกรอบระยะเวลาในการพิจารณารับรองผลของ ในกรณีที่ไม่มีเรื่องร้องเรียนจะรับผลร้องเรียนภายใน 30 วัน แต่กรณีที่มีเรื่องร้องเรียนหรือร้องคัดค้าน กกต. จะพิจารณาผลกรณีที่มีเรื่องร้องเรียนไปก่อนภายใน 60 วัน ซึ่งการเลือกตั้งในครั้งนี้มีเรื่องร้องเรียนตั้งแต่ก่อนวันเลือกตั้ง 4 เรื่อง อยู่ระหว่างคณะกรรมการหรือพนักงานสืบสวนไต่สวนของ กกต. ดำเนินการสืบสวนและไต่สวนข้อเท็จจริง ส่วนวันเลือกตั้งไม่พบประเด็นร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำความผิดที่ชัดเจน"