อดีตผู้สมัคร สว. ร้องศาลปกครองสูงสุด สั่งระงับประกาศผลเลือก สว. 67 เร่ง กกต. ตรวจสอบคุณสมบัติ ว่าที่ สว. 300 คน ไม่เชื่อลมปาก “ปล่อยผ่านไปก่อนแล้วสอยทีหลัง” รับไม่ได้คนลงสมัครข้ามกลุ่ม หวังเอาคนตัวเองกระจายครบ 20 กลุ่ม  

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ก.ค. ที่ศาลปกครอง ถ.แจ้งวัฒนะ นายจาตุรันต์ บุญเบ็ญจรัตน์ เลขาธิการกลุ่ม Clean Politic ในฐานะอดีตผู้สมัครสมาชิก วุฒิสภา (สว.) กลุ่มที่ 20 (กลุ่มอื่นๆ) กรุงเทพมหานคร ยื่นฟ้องคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ต่อศาลปกครองสูงสุดว่า ปล่อยปละละเลยในการตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร ไม่ดำเนินการจัดการเลือกตั้ง สว. ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ จึงขอให้ศาลเปิดไต่สวนฉุกเฉินเพื่อพิจารณาสั่งระงับการประกาศรับรองผลการเลือก สว. เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเป็น สว. 200 คน และผู้อยู่ในบัญชีสำรองอีก 100 คน ว่ามีคุณสมบัติถูกต้องตามกฎหมาย

นายจาตุรันต์ กล่าวว่า ตนเห็นว่ากระบวนการเลือก สว. 2567 ตั้งแต่การรับสมัคร มาถึงการเลือกระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ที่ผ่านมา จะเป็นวิบากกรรม ประชาชนไม่มีส่วนร่วม แต่หลังการเลือกเสร็จกลับกลายเป็นวาระแห่งชาติ ประชาชนโฟกัสมาที่กลโกง การจัดตั้ง กลุ่มอาชีพของคนเป็นว่าที่ สว. ใหม่ ตนไม่ได้ด้อยค่าอาชีพ แต่กระบวนการได้เข้ามาของบางคน มีความเชื่อมโยงของบางกลุ่มที่พยายามจัดตั้งและนำคนเข้ามา ซึ่งตนเห็นว่าเป็นการเข้ามาสมัครที่ปราศจากการอยากเป็น สว. ตามรัฐธรรมนูญ ที่เราเห็นคือการเลือกไม่ลงคะแนนให้ตัวเองถือเป็นความผิดปกติ และการเลือกลงในกลุ่มอาชีพ ที่อาจจะผิดมาตั้งแต่แรก โดยใช้เจ้าหน้าที่ กลไกของกระทรวงมหาดไทย มีการอบรม ซึ่งมีทั้งคนที่เข้าใจและไม่เข้าใจ บางจังหวัดมีคนเยอะ บางอำเภอใช้การอะลุ่มอล่วย ใช้วิจารณญาณที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ หรือมีความผูกพันกันส่วนตัวหรือไม่ ดังนั้น การลงไม่ตรงกลุ่มอาชีพมีปัญหาแน่ๆ การบอกว่าเป็นเจตนาของผู้สมัคร ซึ่งอาจจะทำหลายอาชีพ แล้วแบบนี้จะกำหนดไว้ทำไม 20 กลุ่ม ซึ่งบางกลุ่มคลุมเครือก็ต้องตีความ แต่บางกลุ่มขัดแย้ง ดูแล้วพิกลพิการ ตนไม่ได้ด้อยค่าอาชีพ แต่บางคนอาจจะถูกหลอกจากคนจัดตั้งเพื่อกระจายไปยังกลุ่มต่างๆ เพื่อให้ตรงตามเป้าหมาย 20 กลุ่มให้ได้มากที่สุด  

...

“เรื่องนี้หลายคนเห็นความผิดปกติ หากปล่อยว่าที่ สว. 200 คน เข้าไปทำหน้าที่ ผมเกรงว่าบางคนจะไม่มีความเหมาะสมในการทำหน้าที่ สว. เนื่องจากอาจจะถูกครอบงำจากบางกลุ่มบางก้อน เลยมายื่นเรื่องให้ศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครอง ไต่สวนฉุกเฉินในการที่ กกต. จะประกาศรับรองผล ซึ่งคาดว่าจะเป็นวันที่ 3 ก.ค.นี้ ตามที่ กกต. ให้สัมภาษณ์ เรื่องนี้ยังมีเวลา ไม่ต้องรีบ เพราะการปล่อยผ่าน สว. บางคนเข้าไป มองว่าการไปพิจารณารับรองบุคคลไปทำหน้าที่ในองค์กรอิสระก็ดี การไปพิจารณากฎหมายสำคัญที่มีผลกระทบกับประชาชนทั้งประเทศนั้น ผมไม่สามารถปล่อยผ่านได้จริงๆ ดังนั้นอยากให้ กกต. มีเวลาและตรวจสอบอย่างชัดเจนอีกครั้งหนึ่งก่อน ยืนยันไม่ได้ต้องการให้การเลือกเป็นโมฆะ” นายจาตุรันต์ กล่าว

สำหรับหลักฐานที่นำมายื่นประกอบในวันนี้ มีทั้งหลักฐานจากที่ปรากฏผ่านสื่อ จากการไปเจอมา และหลักฐานจาก นายสมชาย แสวงการ หนังสือท้วงติงจาก นายกล้าณรงค์ จันทิก ประธานคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ วุฒิสภา และหลักฐานการนับคะแนนเป็นศูนย์คะแนนของผู้สมัคร สว. รวมถึงกลุ่มอาชีพ ที่นำมายื่นประกอบการพิจารณาของศาล อย่างไรก็ตาม วันเลือกนั้นตนไม่ได้มีการทักท้วง เพราะเห็นว่ามีคนยื่นเรื่องเยอะแล้ว

เมื่อถามว่า ทาง กกต. ชี้แจงว่าจะมีการรับรองไปก่อน แล้วค่อยสอยทีหลังก็ได้ นายจาตุรันต์ กล่าวว่า “ไม่ได้” ตนไม่เชื่อมั่นในแนวทางนี้ จากการทำหน้าที่ที่ผ่านมาของ กกต. ตั้งแต่การเลือกตั้งใหญ่แล้ว ทุกวันนี้ให้ใบแดงใบเหลืองกี่คนหลังปล่อยผ่านเข้าไป เป็นคำพูดที่ กกต. สามารถพูดได้ แต่ความเชื่อมั่นของประชาชนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ดังนั้นบอกตรงๆ ว่า ยังไม่เชื่อมั่นตรงนี้

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า มีคนบอกว่าไม่อยากให้ปล่อยยาวไป เพราะไม่อยากให้ สว. ชุดเดิมที่มาจากการแต่งตั้งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รักษาการต่ออีกยาว นายจาตุรันต์ กล่าวว่า อันนี้เป็นคนละเรื่องกัน ตนคิดว่าหาก กกต. ตรวจสอบอย่างจริงจัง ซึ่ง กกต. บอกว่ามีข้อมูล และได้มาก่อนที่ประชาชนรู้อีก หากเป็นเช่นนี้ก็เชื่อว่า กกต. มีหลักฐานเด็ด อยู่ที่ว่าจะกล้าใช้อำนาจของ กกต. หรือไม่ กรณีที่ กกต. บอกว่ากรณีการฮั้ว หากไม่มีหลักฐานเรื่องการจ่ายเงินก็จะจับได้ยากนั้น ตนไม่เชื่อว่าคน 4 หมื่นคน แล้ว กกต. จะไม่มีหลักฐานการจ่ายเงิน อยู่ที่ว่าจะสืบคดีหรือไม่ ตนขอเรียกร้องผู้สมัครที่อาจจะถูกชักจูงในทางที่ผิดๆ มีการจ่ายเงิน ชักจูงจริงแล้วถูกหักหลัง ก็ขอให้นำหลักฐานมายื่นต่อ กกต. ได้เลย นี่จึงเป็นการทำหน้าที่เพื่อบ้านเมือง 

“ครั้งนี้ กกต. ต้องเร่งกู้ศักดิ์ศรีอันศักดิ์สิทธิ์ของ กกต. ซึ่งไม่ได้มีหน้าที่แค่การจัดการเลือกตั้ง ซึ่งใครๆ ก็จัดเลือกตั้งได้ ประชาชนอาจะทำได้ไม่ดีเท่า กกต. แต่เรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ของ กกต. เรื่องการจับทุจริต รู้ว่ามีความผิดแล้วดำเนินคดีอย่างไร การทำหน้าที่ของ กกต. ชุดนี้ ทำให้นึกถึงการทำหน้าที่ของ กกต. ชุดก่อนๆ นี้ ไม่ได้ปล่อยผ่านไปง่ายๆ นั่นคือการทำหน้าที่อย่างศักดิ์สิทธิ์” นายจาตุรันต์ กล่าว.