“พ.ต.อ.ทวี” เผย ราชทัณฑ์เตรียมคุกบางขวาง-คลองเปรม ไว้รอ “แป้ง นาโหนด” ขณะบ่าย 2 วันนี้ อินโดนีเซียจะส่งตัวมายังนครศรีธรรมราช ยัน คุมเข้มไม่ให้ซ้ำรอย โต้แห่ไปรับ ชี้ การจับในต่างประเทศไม่ง่าย พร้อมชื่นชมตำรวจไทยค้นหาผู้หลบหนีและนำตัวกลับมาได้
เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 4 มิถุนายน 2567 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการส่งตัว นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด ผู้ต้องขังในคดีหลบหนีออกจากโรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครศรีธรรมราช กลับไทย ว่า ในวันนี้ช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. จะมีการส่งตัว นายเชาวลิต ไปยังจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะควบคุมตัว 48 ชั่วโมง เนื่องจากเป็นการจับกุมตามหมายแดง
ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ จะขอตัวมาควบคุมตัวที่เรือนจำบางขวาง หรือเรือนจำคลองเปรม เนื่องจากเป็นเรือนจำที่มีการควบคุมเข้มงวด ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนอยู่ระหว่างการประชุมหารือของรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คาดว่าภายในสัปดาห์นี้น่าจะได้ข้อยุติ จากนั้นจะเป็นเรื่องสำนวน เพราะคดีของ นายเชาวลิต ส่วนหนึ่งมีหมายขังของศาลแล้ว สามารถนำตัวเข้าเรือนจำได้ทันที แต่เนื่องจากโดนหมายแดงต้องเข้าสู่กระบวนการก่อน

...
สำหรับการดูแลความเรียบร้อยภายในเรือนจำ พ.ต.อ.ทวี ยืนยันว่ามีมาตรฐาน และผู้ต้องหาไม่ได้มีความเครียด นอกจากนี้ นายเชาวลิต ยังมีคดีติดตัวหลายคดีจึงอาจถูกอายัดตัว ตนจึงได้เน้นย้ำว่าในส่วนของกระทรวงยุติธรรม เหตุการณ์การหลบหนีออกจากสถานที่ควบคุมจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก ต้องมีการสอบสวนและต้องได้ข้อมูลจาก นายเชาวลิต ด้วย ที่ผ่านมามีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็ได้มีการดำเนินคดีไปบ้างแล้ว โดยต้องไปสอบสวนดูว่าใครทำหน้าที่บกพร่อง หรือมีส่วนอยู่เบื้องหลัง ต้องนำตัวมาให้หมด รวมถึงบุคคลที่ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับกระบวนการยาเสพติด ซึ่งมีการตั้งคณะกรรมการมาสอบสวนโดยเฉพาะ เพราะประชาชนให้ความสนใจ และนายกรัฐมนตรีกำชับให้ดูเรื่องของความรับผิดชอบของผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกรณีที่ นายเชาวลิต ออกมาพูดถึงกระบวนการยุติธรรมที่จะทำให้ขาดความเชื่อมั่นว่ามีผู้ร่วมกระทำความผิด โดยต้องดูว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะขยายผลอย่างไร หรืออาจจะต้องเป็นคดีพิเศษ
ผู้สื่อข่าวถามต่อ ต้องแยกขัง นายเชาวลิต หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ในเรือนจำมีระบบ อาจมีห้องรวมขนาดเล็กและมีผู้คุมดูแล ส่วนความกังวลว่าผู้ต้องหาอาจทำร้ายตัวเอง หรือฆ่าตัวตายนั้น เขาจะอยู่ในความดูแลของผู้คุมตลอดเวลา มีกล้องวงจรปิดที่สามารถตรวจสอบได้ โดยจะไม่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้น

ขณะที่กรณีการเปลี่ยนเช่าเครื่องบินเหมาลำนำตัว นายเชาวลิต กลับไทย เนื่องจากทางอินโดนีเซียพร้อมอำนวยความสะดวกที่จะส่งตัว ซึ่งเขาอาสาตั้งแต่แรก เพราะก่อนหน้านั้นไทยก็อาสาที่ส่งตัวนักโทษอินโดนีเซียกลับประเทศเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีการประเมินเรื่องของค่าใช้จ่ายและความปลอดภัยเป็นหลัก จึงเลือกใช้ช่องทางดังกล่าว โดยจะใช้เจ้าหน้าที่ของอินโดนีเซียควบคุมตัวทั้งหมดก่อนที่จะส่งมอบ นายเชาวลิต ที่สนามบิน ซึ่งเป็นขั้นตอนของกระบวนการของไทย
พ.ต.อ.ทวี ยังกล่าวถึงประเด็นเส้นทางการหลบหนีว่า ให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสอบสวน ต้องรับฟังทุกฝ่าย ใครจะพูดอะไรก็ได้ แต่ต้องยึดตามพยานหลักฐาน หากพูดไปอาจจะทำให้คนอื่นเกิดความเสียหาย การหลบหนีจากประเทศไทยไปอินโดนีเซียถือเป็นกระบวนการหนึ่งที่ต้องสืบสวน แต่การไปอยู่ที่อินโดนีเซียอย่างไร ทางตำรวจอินโดนีเซียได้ให้ข้อมูลมาครบแล้ว ส่วนที่ นายเชาวลิต ระบุว่าไปมาหลายประเทศ ก่อนที่จะมาอยู่ที่อินโดนีเซีย และไม่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยาเสพติดนั้น ถือเป็นเพียงคำกล่าวอ้าง การพิสูจน์เรื่องนี้ไม่ยาก ต้องมีหลักฐานมาค้ำยัน ทั้งนี้ต้องให้เครดิตตำรวจไทยที่สามารถค้นหาผู้หลบหนีและนำตัวกลับมาได้

ทางด้านคำถามเรื่องโดนโจมตีว่าแห่ไปรับ นายเชาวลิต เหมือนเป็นผู้ทรงเกียรติ พ.ต.อ.ทวี ยืนยันว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น เป็นเพียงมุมมองของคนจะมองเช่นไรก็ได้ คงไม่ใช่แห่ไปรับ เพราะการจับกุมในต่างประเทศต้องอาศัยเจ้าหน้าที่ของประเทศนั้น ต้องมีการประสานข้อมูล ซึ่งใช้เวลาเพียง 6 วันในการควบคุมตัว ถือว่ามีความสามารถ อย่างไรก็ตามเมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าตำรวจไทยมีสายของ นายเชาวลิต จึงไม่สามารถจับกุมได้นั้น พ.ต.อ.ทวี ตอบว่า ไม่น่าจะใช่ การหนีไปต่างประเทศการจับกุมไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้ตำรวจต่างประเทศจับ.