“อิทธิพร” สั่งสำนักงาน กกต. สอบโพยก๊วนฮั้วเลือก สว. ยันไม่มีอะไรน่ากังวลยังเป็นไปตามไทม์ไลน์ไร้ปัญหา “สมชาย” ขู่อาจมีคนติดคุกทั่วหน้า ยกโมเดลจ้างหนุ่มชาวสวนลงสมัครที่นครศรีฯ จี้สอบทั่วประเทศ ปูดรายวันจ้างสมัคร 2.5 หมื่นคน กมธ.วุฒิฯเรียกเลขาฯ กกต.แจง เฉ่งละเลย-ประสิทธิภาพน้อย “ดิเรกฤทธิ์” ลั่นไม่ยอมให้ผู้นำท้าทายคุณธรรม จริยธรรม พท.ตีปีกผลโพลสำนักงานสถิติฯ ประชาชนเริ่มจับต้องผลงานได้ โวได้เวลาปั่นแต้ม
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สั่งสำนักงาน กกต.สอบข้อมูลโพยก๊วนฮั้วเลือก สว. ยืนยันไม่มีอะไรน่ากังวลต้องดูข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน ขณะที่ก๊วน สว. ยังคงออกมาปูดรายวัน ล่าสุดนายสมชาย แสวงการ สว. ระบุว่ามีการว่าจ้างคนลงสมัคร สว.กว่า 2.5 หมื่นคน
กกต.สอบโพยก๊วนฮั้วเลือก สว.
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 3 มิ.ย. ที่ท้องสนามหลวง นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์กรณีนายสมชาย แสวงการ สว. โพสต์เฟซบุ๊กเปิดเผยโพยก๊วนฮั้วเลือก สว. มีรายชื่อระดับประเทศออกมา 149 คนว่า “คงไม่จริงมั้งครับ ขณะนี้สำนักงาน กกต.กำลังตรวจสอบอยู่ ยังไม่รายงานมายังผม” ผู้สื่อข่าวถามว่าคนที่ออกมาเปิดเผยจะมีความผิดหรือไม่ ประธาน กกต.ตอบว่า ต้องดูข้อเท็จจริง ไม่สามารถตอบทันทีได้ การพิจารณาของ กกต.ต้องเข้าคณะที่ประชุม เมื่อถามถึงความเรียบร้อยการเลือก สว.ในระดับอำเภอ นายอิทธิพรตอบว่า เรามีความพร้อมมาก กำชับอยู่ตลอดเวลา หนังสือสั่งการมีออกมาเรื่อยๆ ไม่มีเรื่องอะไรต้องกังวล เพียงแต่เราต้องเตรียมความพร้อมให้มากที่สุด
ยันเป็นไปตามไทม์ไลน์ไร้ปัญหา
นายอิทธิพรกล่าวว่า ส่วนกรณีที่บางอำเภอไม่มีผู้สมัคร กฎหมายเขียนระบุไว้ชัดเจนว่าต้องทำอย่างไรบ้าง ยืนยันการคัดเลือก สว.เป็นไปตามไทม์ไลน์ ข้อร้องเรียนต่างๆเราดำเนินการตามกฎหมาย เรื่องคุณสมบัติก็ไปร้องที่ศาลฎีกา ยืนยันไม่มีปัญหา ทุกอย่างเป็นไปตามไทม์ไลน์ เมื่อถามว่ามีคนออกมาข่มขู่หากการเลือก สว.ส่อทุจริตให้เลื่อนออกไปก่อน ประธาน กกต.ตอบว่า ต้องดูข้อกฎหมาย หากพิสูจน์ได้ว่ามีการกระทำผิดไม่จำเป็นต้องสอยทีหลัง ยืนยันเราต้องดูว่าที่สุดแล้วจะมีคำร้องอะไรบ้าง
...

“สมชาย” ขู่อาจติดคุกกันทั่วหน้า
ด้านนายสมชาย แสวงการ สว. โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า งานนี้มีสิทธิติดคุกกันถ้วนทั่ว ทั้งนักการเมืองผู้จ้างวาน เจ้าหน้าที่ที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ผู้รับจ้างลงสมัคร และผู้รับรองผู้สมัคร กกต.ต้องเร่งสืบสวนสอบสวนกรณีหนุ่มชาวสวนอ้างถูกจ้างสมัคร สว. ที่จ.นครศรีธรรมราช ใช้โมเดลนี้ตรวจสอบผู้สมัครทั่วประเทศ มีข้อเสนอตามกฎหมายดังนี้ 1.สืบสวนสาวให้ถึงนักการเมืองท้องถิ่นผู้ว่าจ้าง หากมีนักการเมือง พรรคการเมืองอยู่เบื้องหลังขบวนการจ้างลงสมัครสว. กกต.ควรกันบุคคลดังกล่าวไว้เป็นพยาน 2.ดำเนินการเอาผิดอย่างจริงจังต่อผู้ใช้จ้างวานและผู้บงการ ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.มาตรา 77 ที่ให้อำนาจ กกต. และดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายฟอกเงิน มีโทษจำคุกและบทลงโทษหนัก
แฉรายวันจ้างสมัคร 2.5 หมื่นคน
นายสมชายระบุว่า มีข้อสังเกตจากสถิติที่มีคนแห่ลงสมัคร สว.มากกว่า 4.8 หมื่นคน เริ่มปรากฏข่าวและข้อมูลที่ชัดเจนขึ้นว่า อาจมีขบวนการจ้างลงสมัคร สว. อาจมีความผิดติดคุก 1-10 ปี ถูกตัดสิทธิ 20 ปี หากเป็นไปตามที่มีการคาดการณ์ทางสถิติว่า อาจมีการจัดตั้งผู้สมัครถึง 53% นั้น หมายถึงอาจมีชาวบ้านที่ไม่รู้กฎหมายถูกจ้างมาสมัครมากถึง 2.5 หมื่นคน เมื่อสมัครแล้วไม่สามารถถอนตัวได้ จึงเป็นการกระทำผิดต่อเนื่อง ร่วมกับขบวนการไปทุกขั้นตอนต่างกรรมต่างวาระ จากระดับอำเภอ ไปจังหวัด หรือต่อเนื่องถึงระดับประเทศ หากตรวจสอบพบภายหลังการเลือกกันเสร็จสิ้นลง จะทำให้การเลือก สว.ครั้งนี้ มีปัญหาตามมา หรืออาจล้มลงได้ อยากให้ กกต. และเลขาธิการ กกต. เร่งสั่งการสืบสวนหาข่าวทุกพื้นที่ หาทางเร่งแก้ไข
กมธ.วุฒิฯเรียกเลขา กกต.แจง
นายกษิดิศ อาชวคุณ สว. โฆษกคณะกรรมา ธิการกิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีนายสมชาย แสวงการ สว. ออกมาแฉ โพยก๊วนฮั้วเลือก สว.ว่า การประชุม กมธ. วันที่ 6 มิ.ย. จะเชิญเลขาธิการ กกต. มาสอบถามปัญหาการเลือกสว.ในหลายประเด็น จากการลงพื้นที่หลายจังหวัด ทั้งนครนายก ชลบุรี และภาคใต้ ทราบข้อมูลจากประชาชนในพื้นที่ทั้งเรื่องการฮั้วเลือกผู้สมัคร การส่ง ตัวแทนให้โหวตพวกเดียวกัน ทำให้คนมีศักยภาพตั้งใจเป็น สว. อาจไม่ได้เข้าไปทำหน้าที่ โดยเฉพาะขณะนี้มีประเด็นเรื่องโพยก๊วนฮั้วเลือก สว. จึงต้อง
หารือเลขาธิการ กกต. จะจัดการปัญหาอย่างไร กมธ.จะสะท้อนข้อห่วงใยให้ กกต.ไปพิจารณา ต้องมีมาตรการป้องกันให้ส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมเป็นหูเป็นตาให้ กกต. ต้องวางมาตรการป้องปราม ทุจริตก่อนที่จะเกิดขึ้น การเลือก สว.เหมือนปิรามิด หากฐานรากได้คนไม่บริสุทธิ์ ยอดบนสุดก็อาจได้สว.ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ
เฉ่ง กกต.ละเลยไร้ประสิทธิภาพ
นายกษิดิศกล่าวอีกว่า เรื่องกระบวนการล้ม เลือก สว.นั้น เป็นเรื่องใหญ่ กกต.ต้องรับผิดชอบสิ่ง ที่เกิดขึ้น เพราะ กกต.ไม่ได้ทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งที่มีผู้ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ แต่ กกต.ละเลย ใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพน้อย ส่วนประเด็นผู้สมัคร สว. ที่ จ.นครศรีธรรมราช ถูกตัดสิทธิและเปิดเผยว่า ถูกว่าจ้างให้ลงสมัคร โดยได้ค่าจ้าง 2,500 บาทนั้น คงไม่ได้มีเฉพาะ จ.นครศรีธรรมราช เครือข่ายนี้เชื่อมโยง กันหมด บางพื้นที่ให้เงินมากกว่านั้น หลักหมื่นบาท ถือเป็นสัญญาณอันตราย พร้อมให้ข้อมูล กกต.ในทางลับ จะได้แก้ไขทันเวลา

ไม่ยอมให้ผู้นำท้าทายคุณธรรม
นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สว. โพสต์เฟซบุ๊กกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง นายวิษณุ เครืองาม เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ด้านกฎหมาย หวังให้มาช่วยสู้คดีในชั้นศาลรัฐธรรมนูญระบุว่า “เราจะไม่ยอมให้ผู้บริหารประเทศท้าทายคุณธรรม จริยธรรม เพราะคุณธรรมและจริยธรรมเท่านั้นที่ค้ำจุนประเทศชาติ และค้ำจุนโลก เหตุผล และจุดยืนนี้ทำให้ผมเป็น 1 ใน 40 สว. ที่ยื่นคำร้องให้ ศาลรัฐธรรมนูญ ตรวจสอบคุณธรรมและจริยธรรมของรัฐมนตรี ในรัฐบาลปัจจุบัน”
พท.ตีปีกผลโพลสำนักงานสถิติ
วันเดียวกัน นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีสำนักงานสถิติแห่งชาติ เปิดเผยผลสำรวจประชาชนที่พอใจผลงานรัฐบาลในรอบ 6 เดือน โดยเฉพาะนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ว่า เป็นแค่ผลสำรวจ แต่สะท้อนให้เห็นว่านโยบายเริ่มเข้าถึงประชาชน ตลอดเวลา 8-9 เดือนที่ผ่านมา นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่เป็นนโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทย เมื่อปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรมทำให้พี่น้องประชาชนเห็นว่าสามารถจับต้องได้ เคยลงพื้นที่กับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว อดีต รมว.สาธารณสุข หากนโยบายนี้สามารถทำได้ทั่วประเทศจะสะดวกสบายมากขึ้น และจากผลสำรวจที่ออกมาเห็นได้ชัดว่าเป็นนโยบายอันดับหนึ่งที่ประชาชนเริ่มเห็นแล้ว ในอนาคตรัฐบาลก็จะมีนโยบายตามมาอีก ทั้งการช่วยลดค่าใช้จ่ายเรื่องพลังงาน ต้นทุนการผลิตทางการเกษตร และราคาผลผลิตทางการเกษตร เมื่อถามว่ามองว่าการเปิดผลสำรวจดังกล่าว เพื่อหักล้างผลโพลของพระปกเกล้าก่อนหน้านี้ นายสรวงศ์ตอบว่า ไม่เกี่ยว แต่ถึงรอบที่เขาต้องทำผลสำรวจ เคารพผลโพลทุกสถาบัน เราก็นำสิ่งเหล่านั้นมาเป็นบทเรียนและกระตุ้นการทำงาน จากที่คุยกันในพรรค น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย บอกว่าเมื่อผลออกมาเช่นนี้ ในฐานะพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เราต้องกระเตื้องการทำงานเพื่อให้ประชาชนเห็นผลงาน
มั่นใจ รมต.ชี้แจงงบฯ 68 ผ่านฉลุย
นายสรวงศ์ยังกล่าวถึงการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ว่า พรรคจัดเตรียมสส.สำหรับอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯไว้ประมาณ 20 คน คงพูดภาพรวมทุกกระทรวง ไม่ได้เจาะไปที่กระทรวงที่พรรคเป็นรัฐมนตรีอยู่ การเป็นรัฐบาล การพูดในสภาฯเรื่องของงบประมาณค่อนข้างมีเพดานอยู่ ไม่เหมือนตอนเป็นฝ่ายค้านสามารถพูดได้เต็มที่ เป็นรัฐบาลเราต้องระมัดระวังพอสมควร และไม่กังวลเรื่องการอภิปรายของฝ่ายค้าน วิปฝ่ายค้านตกลงว่าจะอภิปรายเป็นรายกระทรวง พยายามให้อยู่ในประเด็น คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง หรือหากฝ่ายค้านอภิปรายเจาะลึกไปรายกระทรวง มั่นใจว่ารัฐมนตรีของพรรคจะชี้แจงตอบคำถามได้อยู่แล้ว ตอบคำถามทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณได้หมด

“อนุสรณ์” โวคะแนนนิยม พท.พุ่งขึ้น
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากผลสำรวจความคิดเห็นของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ขอบพระคุณพี่น้องประชาชนที่ช่วยสะท้อนความคิดเห็นต่อการทำงานของรัฐบาลในรอบ 6 เดือน เชื่อว่ารัฐบาลน้อมรับทุกความคิดเห็น รับฟังเสียงประชาชนที่สะท้อนออกมาในช่องทางต่างๆ โพลแต่ละสำนักอาจมีระเบียบวิธีวิจัยและกรอบแนวคิด การกำหนดประชากรกลุ่มตัวอย่างที่แตกต่างกัน แต่ไม่ว่าจะได้รับผลการประเมินอย่างไร รัฐบาลพร้อมรับฟัง เชื่อว่าจากนี้ไปประชาชนจะได้รับประโยชน์จากการขับเคลื่อนและผลักดันนโยบายสำคัญๆของรัฐบาลมากยิ่งขึ้น และนอกเหนือจากนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ที่ครองใจประชาชนเป็นอันดับ 1 นโยบายเรือธงต่างๆของรัฐบาลจะทยอยออกมา โดยเฉพาะนโยบายเติมเงิน 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต หรือโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่จะมาในไตรมาส 4 ของปีนี้ เชื่อว่าเมื่อนโยบายต่างๆได้เดินหน้า คะแนนความนิยมและความเชื่อมั่นรัฐบาลจะพุ่งสูงขึ้นไปอีก
“ตรีชฎา” ตอก “ศุภชัย” กัญชาฝันล่ม
อีกเรื่อง น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง กล่าวตอบโต้นายศุภชัย ใจสมุทร ที่ปรึกษารองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ที่กล่าวหานายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ว่าฟังความข้างเดียวจากกลุ่มองค์กรต่อต้านกัญชา ไม่รับฟังฝ่ายอื่นว่า นายศุภชัยไม่ควรทำให้สังคมเข้าใจผิด ความจริงนายสมศักดิ์รับฟังความเห็นของทุกฝ่าย การที่สังคมจะเดินได้ต้องฟังเสียงรอบด้านของประชาชน เรื่องการนำกัญชาไปจำหน่ายใช้เพื่อการเศรษฐกิจและสันทนาการ โดยไม่ถือเป็นยาเสพติดที่ดำเนินการกันมาตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว เรื่องนี้เป็นข้อขัดแย้งมาตลอด เนื่องจากมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ในสภาผู้แทนราษฎรสมัยที่แล้วฝ่ายรัฐบาลด้วยกันเองยังเห็นไม่ตรงกันสุดท้ายกฎหมายไม่ผ่านสภา
จวกทำผิดมารยาทจุดความขัดแย้ง
น.ส.ตรีชฎากล่าวว่า นายสมศักดิ์เปิดรับฟังความเห็นในเรื่องนี้ กระทั่งเห็นว่าการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดเหมือนเดิม มีน้ำหนักมากกว่า มีเสียงสนับสนุนจากประชาชนจำนวนมาก ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนและกระบวนการ ทั้งนี้ นายกฯเคยแถลงนโยบายต่อรัฐสภาระบุว่ารัฐบาลจะดำเนินแนวทางนโยบายการใช้ประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์และสุขภาพ เพื่อสร้างมูลค่าในเชิงเศรษฐกิจ ถือเป็นข้อผูกพันและผูกมัดรัฐบาลให้ใช้ประโยชน์จากกัญชาเพื่อการแพทย์และสุขภาพเท่านั้น เป็นการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ เพราะกัญชามีประโยชน์ในการรักษาผู้ป่วยเมื่อนำมาใช้ทางการแพทย์อย่างถูกวิธี แต่ไม่ได้หมายถึงการปล่อยให้ปลูกและซื้อขายกันโดยทั่วไปได้อย่างอิสระเสรีดังที่ทำกันมา ข้อกล่าวหาของนายศุภชัย ไม่เพียงแต่จะผิดมารยาททางการเมือง ยังเป็นการสร้างเรื่อง สร้างประเด็นให้เกิดความสับสนในสังคม อาจนำมาซึ่งข้อขัดแย้งในหมู่ประชาชนโดยไม่จำเป็น