“เศรษฐา” ตรวจเยี่ยมการขยายคลองลัดโพธิ์ ก่อนไปสวนศรีนครเขื่อนขันธ์ ได้น้ำพิลังกาสา สินค้าชุมชนไว้รับแขกที่ทำเนียบรัฐบาล จากนั้นเดินตลาดบางน้ำผึ้ง ย้ำ มุ่งต่อยอดโครงการพระราชดำริ มอบ ก.ท่องเที่ยวฯ โปรโมตแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 2 มิถุนายน 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจติดตามการก่อสร้างการขยายคลองลัดโพธิ์ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อศึกษาโครงการประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์อันเนื่องมาจากโครงการพระราชดำริ ซึ่งใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำในฤดูน้ำหลากได้ถึง 1,439 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะนี้ กรมชลประทาน กำลังมีการขยายคลองลัดโพธิ์เพิ่ม เพื่อให้สามารถระบายน้ำได้เพิ่มขึ้นและรวดเร็วมากขึ้น โดยรองอธิบดีกรมชลประทาน ระบุว่า ภายใน 2 เดือน จะสามารถก่อสร้างได้แล้วเสร็จ โดยนายเศรษฐาได้เดินพบปะพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่เพื่อสอบถามความเป็นอยู่ รวมถึงเรื่องของน้ำท่วม พร้อมยืนยันว่าภายใน 2 เดือนนี้การก่อสร้างจะแล้วเสร็จ จะทำให้ความเป็นอยู่ดีขึ้น ขณะที่ชาวบ้านต่างขอถ่ายรูปพร้อมกับบอกว่าดีใจที่นายกรัฐมนตรีมาถึงหน้าบ้าน
จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางมาที่สวนสาธารณะและสวนพฤษชาติศรีนครเขื่อนขันธ์ หรือ สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ ติดตามการดำเนินงานในการพัฒนาสวนสาธารณะร่วมกันของจังหวัดสมุทรปราการ กรมป่าไม้ และสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) เพื่อเป็นพื้นที่พักผ่อนให้กับคนในชุมชน ก่อนเดินเยี่ยมชมสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชนที่นำมาออกร้าน โดยนายกรัฐมนตรีได้ซื้อน้ำพิลังกาสา ผลไม้พื้นบ้านหนึ่งในตระกูลของเบอร์รี่ นำมาทำเป็นเครื่องดื่มคราฟต์เพื่อเพิ่มมูลค่า และมีการบรรจุกระป๋องซึ่งบรรจุภัณฑ์ด้วยลวดลายที่สวยงามและน่าสนใจ เพื่อนำไปเสิร์ฟให้กับแขกที่ทำเนียบรัฐบาล พร้อมระบุว่า ให้เสิร์ฟพร้อมกับบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้แขกที่สนใจสามารถสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ผลิตภัณฑ์จากชุมชนได้ และนายกรัฐมนตรียังได้ปลูกต้นกันเกราเป็นที่ระลึกด้วย
...


ต่อมา นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาที่ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง โดยเมื่อมาถึงได้เข้ากราบนมัสการ พระครูสังฆรักษ์ไพชน สิริธมโม เจ้าอาวาสวัดบางน้ำผึ้งใน โดยเจ้าอาวาสได้มอบท้าวเวสสุวรรณองค์จำลอง พระอุปคุต และยันต์มหาเศรษฐีดิจิทัล รวยพันล้าน ให้กับนายกรัฐมนตรี จากนั้นนายกรัฐมนตรีสักการะท้าวเวสสุวรรณที่บริเวณหน้าวัด แล้วจึงเดินเยี่ยมชมตลาดบางน้ำผึ้ง โดยมีพ่อค้าแม่ค้าประชาชนที่มาเที่ยวตลาดบางน้ำผึ้งเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูปกับนายกรัฐมนตรีอย่างคึกคัก โดยหลายคนชมว่าตัวจริงหล่อ ขาว และไม่แก่ ซึ่งช่วงหนึ่งที่มีผู้สูงอายุเข้ามาขอถ่ายรูปกับนายกรัฐมนตรี เป็นจังหวะที่นายกรัฐมนตรีกำลังจะรับประทานไอศกรีม นายกรัฐมนตรีจึงได้ป้อนไอศกรีมให้กับผู้สูงอายุที่มาขอถ่ายรูปด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลา 12.01 น. นายเศรษฐา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ด้วยว่า มาศึกษาโครงการประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์อันเนื่องมาจากโครงการพระราชดำริ ซึ่งใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำในฤดูน้ำหลาก ได้ถึง 1,439 ล้านลูกบาศก์เมตร จากแต่ก่อนที่เส้นทางน้ำมีความยาวกว่า 18 กิโลเมตร เพราะเป็นคลองคด หลังสร้างคลอดลัดโพธิ์ เป็นประตูระบายน้ำ 4 ช่อง ทำหน้าที่ระบายน้ำและหน่วงน้ำเค็ม เส้นทางระบายน้ำมีความยาวลดลงเหลือเพียง 600 เมตร ใช้เวลาระบายน้ำจากเดิม 5 ชั่วโมง เหลือเพียง 10 นาทีเท่านั้น ทำให้น้ำไม่ท่วมแม้กระทั่งช่วงน้ำท่วมหนักปี 2554 ถือเป็นความรู้ที่ต้องศึกษาเพื่อเป็นแบบอย่างในหลายๆ พื้นที่ ซึ่งตนได้รับรายงานจากปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ว่า ที่แม่น้ำท่าจีน จ.นครปฐม มีลักษณะคดเคี้ยวแบบเดียวกัน
นายกรัฐมนตรี ระบุด้วยว่า “โครงการพระราชดำริเป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญ และตั้งใจนำมาต่อยอดเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ ผมจึงขอฝากให้กรมชลประทานไปสำรวจแม่น้ำที่มีลักษณะคล้ายกันทั่วประเทศ เพื่อบริหารจัดการให้เหมาะสมภายใต้หลักลงทุนน้อย แต่ประชาชนได้ประโยชน์มากต่อไปด้วยครับ”


ต่อมาเวลา 12.53 น. นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความและภาพอีกครั้งผ่านเฟซบุ๊ก ว่า มาเยี่ยมชมโครงการฟื้นฟูป่าเพื่อการเรียนรู้เชิงนิเวศ สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ ตามแนวพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (บางกะเจ้า) ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ แหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติ และพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ เป็นเสมือนปอดกลางกรุงให้กับพี่น้องชาวสมุทรปราการและชาวกรุงเทพฯ และได้ปลูกต้นกันเกราไว้ที่นี่ด้วย
พร้อมเผยต่อไปว่า ระหว่างทางเห็นทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาปั่นจักรยาน มาเดิน มาวิ่ง ถือเป็นโครงการที่ดีมากๆ แถมทุกเสาร์-อาทิตย์ มีตลาดน้ำด้วย อยากให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โปรโมตแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์นี้เพิ่มเติม เพื่อให้ชุมชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น และที่น่าสนใจคือ ทราบว่ามีการเพาะผักหวานในโครงการได้ น่านำไปต่อยอดมากๆ เพราะหากเพาะได้โดยไม่ต้องเผาก็จะดีมาก.

