นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน แต่งตั้ง ดร.วิษณุ เครืองาม เจ้าของฉายา “เนติบริกร” ในยุค รัฐบาล คสช. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้ปฏิวัติยึดอำนาจ รัฐบาลเพื่อไทย เป็นนายกฯเป็น “ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมายและระเบียบปฏิบัติราชการ” โดยเดินทางไปอ้อนวอนถึงที่บ้าน ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากทุกวงการ ไม่เว้นแม้แต่ในพรรคเพื่อไทยด้วยกันเอง มีการโพสต์ข้อความวิพากษ์วิจารณ์กันรุนแรงทีเดียว
คุณรังสิมันต์ โรม สส.พรรคก้าวไกล ตั้งข้อสังเกตว่าการแต่งตั้ง ดร.วิษณุ เครืองาม เป็นที่ปรึกษากฎหมายของนายกฯครั้งนี้ คุณเศรษฐาอาจไม่ไว้วางใจฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทย และ ไม่เชื่อมือ นายชูศักดิ์ ศิรินิล หัวหน้าฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ก็ได้ หลังจากที่ ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องถอดถอนจากตำแหน่งนายกฯ สุดท้ายไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร ต้องไปยืมตัว “เนติบริกร” ที่มีผลงานในหลายรัฐบาล
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปในทิศทางเดียวกันว่า นายกฯเศรษฐา คงจะคาดหวังให้ ดร.วิษณุ เครืองาม เนติบริกรผู้ยิ่งใหญ่ “สร้างปาฏิหาริย์ทางกฎหมาย” อีกครั้ง เพื่อช่วยเหลือนายกฯให้พ้นจากการถูกถอดถอน เหมือนปาฏิหาริย์ทางกฎหมายที่ ดร.วิษณุ เคยสร้างไว้มากมายในสมัยเป็น รองนายกฯฝ่ายกฎหมาย ให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ มาแล้ว แต่ในครั้งนี้ ดร.วิษณุ จะสามารถ “สร้างปาฏิหาริย์ทางกฎหมาย” ได้เหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมาได้หรือไม่ คงต้องดูกันต่อไป
ตำแหน่งของ ดร.วิษณุ เครืองาม ที่ นายกฯเศรษฐา แต่งตั้งครั้งนี้มีผู้เชี่ยวชาญวิจารณ์กันว่า น่าจะเป็นคำสั่งแต่งตั้งที่เขียนโดยตามคำแนะนำของ ดร.วิษณุ เครืองาม ในประเทศไทยคงหานักกฎหมายที่คิดลึกซึ้งเช่นนี้ได้ยาก ถ้าไม่รู้ช่องทางกฎหมายรัฐอย่างทะลุปรุโปร่ง
...
ตำแหน่งที่ ดร.วิษณุ เครืองาม ได้รับแต่งตั้งคือ “ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมายและระเบียบปฏิบัติราชการ เพื่อให้คำปรึกษาและพิจารณาเสนอความเห็นหรือข้อเสนอแนะต่างๆในส่วนที่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย” โดยมีการเติมคำว่า “ของ” เข้าไปในตำแหน่งที่ปรึกษา ทำให้แตกต่างจากที่ปรึกษาทุกชุดของนายกฯที่มีอยู่ อ่านผ่านๆก็เหมือนตำแหน่งที่ปรึกษาทั่วไป อาจไม่รู้สึกว่ามีอำนาจเท่าไหร่ แต่เมื่อดู “หน้าที่และอำนาจ” ที่กำกับมาในคำสั่งแต่งตั้ง ต้องบอกว่าเป็นตำแหน่งที่ใหญ่มาก ใหญ่กว่ารองนายกฯที่มีอยู่ทั้ง 6 คน จะเป็นรองก็แค่ “นายกรัฐมนตรี” เพียงคนเดียวเท่านั้น
มีหน้าที่และอำนาจ ดังนี้
1.ตรวจสอบและกลั่นกรองร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอต่อ ครม. ร่วมกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง 2.ให้คำปรึกษาและเสนอความเห็นทางกฎหมายแก่นายกฯ ตามที่มอบหมาย 3.เชิญเจ้าหน้าที่ส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม หรือให้ข้อมูลรายละเอียด หรือจัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานได้ตามที่เห็นสมควร 4.ให้ข่าวสารประเด็นที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความเข้าใจต่อสาธารณชนได้ตามความจำเป็น ตามที่นายกฯมอบหมาย 5.แต่งตั้งคณะทำงานหรืออนุกรรมการ เพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงานได้ตามความจำเป็น ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ และ สำนักงานปลัดสำนักนายกฯ สนับสนุนการดำเนินงานของ ที่ปรึกษาของนายกฯ คณะกรรมการ หรืออนุกรรมการ โดยให้เบิกค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการปฏิบัติงานจากสำนักเลขาธิการนายกฯ
เห็นไหมครับ ที่ปรึกษามีอำนาจหน้าที่มากกว่ารองนายกฯทุกคน เลยทีเดียว
จากนี้ไปก็ต้องคอยดูผลงาน ท่านเนติบริกร ดร.วิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกฯ จะสามารถ “สร้างปาฏิหาริย์ทางกฎหมาย”
เพื่อช่วยเหลือให้ นายกฯเศรษฐา ทวีสิน รอดพ้นจากการถูกถอดถอนหรือไม่ คงไม่นานเกินรอ.
“ลม เปลี่ยนทิศ”
คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม