นายกฯ หารือบริษัท Sony ชวนขยายการลงทุนรองรับความต้องการ AI Technology และการเติบโตของ EV พร้อมหารือสถาบันการเงิน MUFG & SoftBank ย้ำจุดยืนความเป็นกลางของไทย ยืนยันไทยพร้อมรองรับนักลงทุนญี่ปุ่น
วันที่ 23 พฤษภาคม 2567 เมื่อเวลา 15.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงโตเกียว ซึ่งเร็วกว่ากรุงเทพฯ 2 ชั่วโมง) ณ ห้อง Sky Room ชั้น 24 โรงแรม The Peninsula Tokyo นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พบหารือกับผู้บริหารบริษัท Sony Group Corporation
บริษัท Sony Group Corporation เป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำของโลก มีธุรกิจ 6 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1. เกมและ Network Services 2. เพลง 3. วิดีโอและภาพยนตร์ เช่น ภาพยนตร์เรื่อง Spiderman 4. ความบันเทิง เทคโนโลยีและบริการ 5. โซลูชันด้านภาพและการตรวจจับ และ 6. บริการทางการเงิน โดยบริษัทมีฐานการผลิตในต่างประเทศ ได้แก่ ไทย เกาหลีใต้ มาเลเซีย จีน และ สหราชอาณาจักร ทั้งนี้ สินค้าหลักที่ผลิตในไทย ได้แก่ กล้อง (ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตเพื่อการส่งออกทั่วโลก ยกเว้นจีน) และ Backend Semiconductors
บริษัทได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น รายงานการดำเนินงานในประเทศไทย รวมถึง พูดคุยหารือเกี่ยวกับการเปิดโรงงานที่ 4 ภายใต้บริษัท Sony Device Technology (Thailand) ที่สวนอุตสาหกรรมบางกะดี จังหวัดปทุมธานี โดยโรงงานแห่งใหม่นี้จะทำการประกอบ Semiconductor Laser สำหรับ Hard Disk Drive ที่ใช้ใน Data Center รวมถึงการประกอบ Image Sensor สำหรับการใช้งานในยานยนต์ ซึ่งโครงการดังกล่าวได้รับการอนุมัติแล้ว
บริษัทเชื่อมั่นในศักยภาพของไทย และมีแนวโน้มการขยายการลงทุนในอนาคต เนื่องจากบทบาทของ AI Technology ที่ทำให้ความต้องการใช้งาน Data Center เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยนายกรัฐมนตรีขอบคุณที่เลือกไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตสินค้า high-tech พร้อมหวังว่า บริษัทจะพิจารณาไทยเป็นลำดับต้นๆ ในการขยายการลงทุนเพื่อรองรับความต้องการ AI Technology และการเติบโตของ EV อย่างต่อเนื่อง
...
ต่อมาเวลา 15.25 น. ณ ห้อง Sky Room ชั้น 24 โรงแรม The Peninsula Tokyo นายกรัฐมนตรี ได้พบหารือกับผู้บริหารบริษัท MUFG & SoftBank
MUFG Bank, Ltd. เป็นธนาคารชั้นนำและใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีสินค้าและบริการทางการเงินที่ครอบคลุมทั้งในด้านธุรกิจและการลงทุนให้กับกลุ่มลูกค้าธุรกิจ ภาครัฐ และลูกค้ารายย่อยทั่วโลก มีสาขาในประเทศ 421 สาขา และสาขาต่างประเทศ 105 สาขา ครอบคลุม 40 ประเทศทั่วโลก ในปี 2566 ได้รับการจัดอันดับจาก S&P Rating ให้อยู่ในระดับ A
SoftBank Group Corp. เป็นบริษัทผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีและโทรคมนาคมของญี่ปุ่น โดยมีการลงทุนในระดับโลก ทั้ง Mobile/Fixed-line communications, Social media, Cashless payment/Finance, Online media, E-commerce ในหลากหลายตลาดทั้งในและต่างประเทศ บริษัทและบริษัทในเครือมีการลงทุนทั่วโลกจำนวน 38 โครงการ ใน 10 ประเทศ
บริษัท MUFG & SoftBank พร้อมให้ร่วมมือกับรัฐบาลไทย ผ่านการทำงานร่วมกับทีมนายกรัฐมนตรี และ BOI เพื่อดึงดูดนักลงทุนชาวญี่ปุ่นที่กำลังพิจารณาย้ายฐานการผลิต เพื่อลดความเสี่ยงจากผลกระทบทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยจะมีการจัดสัมมนา Thailand-Japan Investment Forum เพื่ออัปเดตกลไกที่ภาครัฐได้มีการปรับปรุงเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนในช่วงที่ผ่านมา เช่น การจัดทำกลไกพลังงานสะอาด เป็นต้น รวมถึงนโยบายส่งเสริมการลงทุน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เซมิคอนดักเตอร์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และกิจการสำนักงานภูมิภาค นอกจากนี้ จะมีการจัด Roundtable Meeting และการตั้งบูธของ BOI เพื่อให้บริการคำปรึกษา โดยกิจกรรมดังกล่าวจะจัดในวันที่ 20-21 มิถุนายน 2567 ณ โอซากาและโตเกียว คาดว่าจะมีนักลงทุนญี่ปุ่นเข้าร่วมงานประมาณ 600 คน
นายกรัฐมนตรีสอบถามเกี่ยวกับดำเนินธุรกิจของบริษัท ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ โดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุนการจัดตั้งธนาคาร MUFG ในไทย ซึ่งบริษัทได้ขอบคุณรัฐบาลที่สนับสนุนให้บริษัทเป็น Partner ซึ่งทำให้บริษัทเกิดการพัฒนา โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีย้ำสถานะความเป็นกลางของไทย ซึ่งเป็นพื้นที่การลงทุนที่ปลอดภัยสำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาศูนย์การผลิตเพื่อส่งออกไปทั่วโลก รวมทั้งไทยมี Free Visa รองรับนักลงทุนญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Start up และ SMEs