"พิชิต" รมต.ประจำสำนักนายกฯ ยกมือท่วมหัว สาบาน ตนไม่เคยผิดคดีอาญา ลั่น ไม่คิดลาออก พร้อมให้ศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ชะตา อยู่หรือไป ป้อง "เศรษฐา" ขอเป็นองครักษ์พิทักษ์ เชื่อ มีวงจรอุบาทว์หวังทำลายรัฐบาล

วันที่ 21 พ.ค. นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมายืนยันจากกระแสข่าวว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง หลังถูก 40 สว.ยื่นถอดถอน นายกรัฐมนตรี โดยนายพิชิตชี้แจงกับสื่ออย่างมีอารมณ์ อย่างอัดอั้น

ตั้งแต่วันแรกที่ตนเข้ามาทำงานกับรัฐบาล แม้ตอนนั้นจะยังไม่ได้รับตำแหน่ง แต่เต็มใจทุ่มเททำงานให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีมาอย่างเต็มที่ เมื่อตนเองถูกเสนอชื่อให้เป็นรัฐมนตรี ตามขั้นตอนได้ถูกตรวจสอบตามกฎหมายอยู่แล้ว โดยสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี กับสำนักงานกฤษฎีกาได้ตรวจสอบจนสิ้นข้อสงสัยแล้ว ตนเองได้ขึ้นมาทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แต่กลับมีวงจรอุบาทว์ที่จ้องทำลายรัฐบาลนายเศรษฐา

ช่วงหนึ่งนายพิชิตอารมณ์ดุเดือด ถึงกับปากสั่น แล้วยกมือไหว้ พร้อมกล่าวว่า ตนขอสาบานในที่กลางแจ้งต่อหน้าพระสยามเทวาธิราช ว่า ตนเองไม่เคยทำผิด ไม่เคยต้องคดีอาญา ความผิดทางคดีความที่เกิดขึ้นเป็นคดีแพ่ง ซึ่งมีการตีความแล้วว่าไม่ใช่ความผิดอาญา และไม่ได้ทำผิดจริยธรรม ตนเป็นทนาย เป็นนักกฎหมาย รู้ข้อกฎหมายดี ถ้าผิดจริงคงไม่ฝืน ไม่ให้ตนเองเป็นตัวทำลายรัฐบาลเศรษฐา ที่ออกมาพูดวันนี้ ต้องการขอความเห็นใจ ให้นายเศรษฐาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีสมกับความตั้งใจที่อยากเข้ามาทำงานเพื่อประเทศชาติ เรื่องของตนเองไม่เกี่ยวข้องกับนายเศรษฐาเลย และย้ำว่านายเศรษฐาไม่ได้ฝ่าฝืนข้อกฎหมายใดๆ ในการแต่งตั้งตนเอง และนายพิชิต ได้ประกาศว่าตนเป็นองครักษ์พิทักษ์นายกรัฐมนตรีมาแล้วหลายสมัย และขอเป็นองครักษ์พิทักษ์นายกฯ เศรษฐา

...

นายพิชิต ยังกล่าวว่า ตนตั้งข้อสังเกตถึง 40 สว.ที่ลงชื่อ ที่ล้วนมีข้อพิรุธ ไม่แน่ใจได้อ่านเอกสารครบถ้วนหรือไม่ ก่อนที่จะลงชื่อ เชื่อว่าเป็นวงจรอุบาทว์ที่มาทำลายรัฐบาล ส่วนจะเป็นกลุ่มอำนาจเก่าหรือไม่ ตนไม่ขอตอบ ให้สื่อมวลชนไปสืบกันเอง พร้อมกับขอท้าตัวต่อตัวกับ สว.ทั้ง 40 คน มาดวลข้อกฎหมายให้ชัด จะได้รู้ว่าใครที่ไม่กระจ่างในเรื่องกฎหมายและการตีความ ส่วนการที่ สว.40 คนยื่นเรื่องต่อศาลนั้น นายพิชิตระบุว่า ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ตนพร้อมชี้แจงและเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้พูด

นายพิชิต กล่าวย้ำว่าไม่คิดที่จะลาออก เพราะเคยบอกตั้งแต่วันแรกว่าตนเองตัวเบาหวิว เพราะฉะนั้นจึงมาแต่ตัว พร้อมกับนามสกุลชื่นบาน มีความตั้งใจทำงานเต็มที่ ขอใช้ความสามารถและสมองที่มีทำงานช่วยรัฐบาล และเชื่อว่านายเศรษฐาเลือกคนที่สมองมากกว่าการตัดสินจากปัจจัยอื่น และตนจะขออยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จนกว่าจะมีคำสั่งศาลเป็นที่สิ้นสุด และเชื่อว่าคำสั่งศาลจะเป็นบรรทัดฐานในการพิสูจน์ข้อกล่าวหา “ทนายถุงขนม”

จากนั้น นายพิชิตได้เดินขึ้นตึกบัญชาการ 1 พร้อมกับหันมาชูกำปั้น แล้วเดินเข้าอาคารไปประชุม