วันที่ 2 มิ.ย.2567 อาจจะเป็นวันที่หลายคนจับตามอง เพราะพรรคก้าวไกลในฐานะผู้ถูกร้อง ได้ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาครั้งที่ 3 เป็นครั้งสุดท้ายเพื่อแก้ข้อกล่าวหามีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าข่ายลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นเหตุยุบพรรคตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) และ (2)

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ซึ่งเป็นผู้เคลื่อนไหวทางการเมืองได้มาเยือนรายการ Thairath Talk จึงได้แสดงความเห็นประเด็นนี้ได้อย่างน่าสนใจ 

"ตามความเห็นของผม ผมว่าพรรคก้าวไกลไม่รอด 99.99% ที่ไม่ให้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะเหตุผลรอดข้อเดียวคือเขาไม่อยากให้ยุบขึ้นมา แต่เหตุผลทางกฎหมาย มันมีทางอื่นไม่ได้ เพราะเรื่องการล้มล้างการปกครอง มันเป็นที่ยุติแล้วโดยศาลรัฐธรรมนูญว่าเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ความเป็นจริงไม่ต้องสอบอะไรเพิ่มแล้ว ในเมื่อล้มล้างก็เป็นเหตุให้ยุบพรรค ตามกฎหมายลูก 

ดังนั้นช่องทางต่อสู้มีน้อยมาก แต่ที่จะเสียหายมากกว่าที่กรรมการบริหารพรรคก้าวไกลจะถูกตัดสิทธิ์ มันจะไปคล้องกับ 44 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ (สส.) ของพรรคก้าวไกลที่เคยเข้าชื่อแก้ 112 อันนี้ผมมองว่าน่ากลัวมากกว่า ซึ่งล้วนเป็นคนที่มีบทบาททางการเมืองทั้งสิ้น 

แน่นอนที่สุด การยุบพรรคจะทำให้พรรคก้าวไกลในนามพรรคใหม่ได้รับความนิยมมากขึ้น แต่คนการเมืองมันล้มหายกันไปมากขึ้น เขาจะไม่ได้อยู่ในสภาแล้ว ถ้าคนใจแข็งให้เขาเป็นรัฐบาลสักครั้งแทนที่จะยุบพรรค เขาก็จะได้พิสูจน์ให้สิ้นสงสัยว่าเขาเป็นรัฐบาลได้ตามที่เขาประกาศหรือไม่

...

จริงอยู่คนเก่าไป คนใหม่เสริมเข้ามา แต่ผมเสียดายบุคลากร"

ชมคลิปฉบับเต็มของคุณจตุพร ในอีกหลายประเด็นการเมืองที่ดุดัน บางเรื่องไม่เคยพูดที่ไหน