ตรวจราชการวันที่ 4 นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ จ.เพชรบุรี ชมโครงการพระราชดำริแหลมผักเบี้ย ศึกษาเทคโนโลยีกำจัดขยะ-บำบัดน้ำเสีย สั่งนำรูปแบบปรับใช้ทั่วประเทศ ก่อนร่วมกับประชาชนปลูกต้นโกงกางใบใหญ่ อนุรักษ์ป่าชายเลน

วันที่ 13 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจวันที่ 4 ของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในการลงพื้นที่ตรวจราชการ 4 จังหวัดบุรี ประกอบด้วย สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี และเพชรบุรี ระหว่างวันที่ (10-14 พฤษภาคม 2567) อีกทั้งจะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 3/2567 ที่ จ.เพชรบุรี ในวันที่ 14 พฤษภาคม 

โดยเมี่อเวลา 10.40 น.ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.เพชรบุรี เริ่มจากการเยี่ยมชมเทคโนโลยีการกำจัดขยะและการบำบัดน้ำเสีย และปลูกป่าชายเลน ณ โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม พร้อม นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักงานนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ รวมถึงมี นางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และนายอภิชาติ แก้วโกศล สส.เพชรบุรี เขต 3 พรรครวมไทยสร้างชาติ ต้อนรับและร่วมลงพื้นที่

...

อีกทั้งยังมี นายเกษม จันทร์แก้ว องคมนตรี และผู้อำนวยการโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ นายเทอดศักดิ์ บุณยขจร รองเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา และนายดนุชา สินธวานน์ รองเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ต้อนรับ พร้อมรับฟังบรรยายสรุปโครงการฯ จาก นางอรอนงค์ ผิวดิน เลขานุการโครงการฯ ซึ่งการบำบัดน้ำเสียจะเป็นการใช้กระบวนการธรรมชาติช่วยธรรมชาติ เมื่อการบำบัดน้ำเสียในขั้นตอนสุดท้ายแล้วจะปล่อยน้ำที่บำบัดแล้วลงสู่ป่าชายเลนและไหลสู่ทะเล ส่วนการกำจัดขยะจะใช้เทคโนโลยีกล่องคอนกรีตวางเป็นชั้นๆ ใช้กระบวนการจุลินทรีย์ธรรมชาติในการย่อยสลาย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญโครงการพระราชดำริตั้งแต่เข้ามาเป็นรัฐบาล ได้ไปเยี่ยมชมตั้งแต่โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.เชียงใหม่ โครงการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน อ่างเก็บน้ำห้วยคล้ายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี โครงการศูนย์บริการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ จ.ระยอง และโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน จ.สกลนคร ได้เรียนรู้ว่ามีประโยชน์กับพี่น้องประชาชนอย่างมากมาย 

ขณะที่วันนี้มีโอกาสมาเยี่ยมชมโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยพัฒนาแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน คือ การบำบัดน้ำเสียโดยวิธีต่างๆ และขอชื่นชมเทศบาลเมืองเพชรบุรีที่เอาใจใส่ดูแลการบำบัดน้ำเสียในพื้นที่ได้กว่า 90% ส่งผลให้ประชาชนมีสภาพแวดล้อมที่ดี และยังส่งผลต่อด้านเศรษฐกิจด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรายได้เสริมจากการจับสัตว์น้ำมาขายเป็นอาชีพ และยังพบความสมบูรณ์ของธรรมชาติที่มีนกหลากหลายสายพันธุ์ที่หายาก ขอบคุณองค์กรส่วนปกครองท้องถิ่น จ.เพชรบุรี ที่รวบรวมปัญหาน้ำเสียในพื้นที่เพื่อให้กระบวนการบำบัดน้ำเสียของโครงการฯ ดำเนินงานได้เต็มประสิทธิภาพ รวมถึงขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศ นำรูปแบบเทคโนโลยีพัฒนาสิ่งแวดล้อมตามแนวพระราชดำริไปปรับใช้เพื่อลดต้นทุนบำบัดน้ำเสียทั้งภาคอุตสาหกรรม เกษตรกรรมและภาคครัวเรือน

ทางด้าน องคมนตรี กล่าวว่า โครงการนี้ถือเป็นโครงการที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ริเริ่ม และสำเร็จแล้ว แต่พบว่าปัจจุบันโรงงานส่วนใหญ่ยังนิยมใช้เครื่องยนต์ จึงใคร่ขอให้นายกรัฐมนตรีนำแนวคิดในการพัฒนาเกี่ยวกับการบำบัดน้ำเสียของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เอาไปใช้ให้เป็นประโยชน์ พร้อมขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่มาเยี่ยมโครงการฯ ตนรู้ว่านายกรัฐมนตรีเหนื่อยมาก ได้ดูในโทรทัศน์ วันหลังอาจจะได้เจอกันอีกหลายแห่ง

จากนั้น นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ นั่งรถรางชมภายโครงการ ก่อนที่นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชบุรี และประชาชน จะร่วมกันปลูกป่าชายเลนที่บริเวณแปลงวิจัยระบบป่าชายเลนบำบัดน้ำเสีย ซึ่งเป็นต้นโกงกางใบใหญ่ โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้นโกงกางใบใหญ่เมื่อปลูกไปแล้วอัตราการตายไม่มี แสดงว่าการปลูกวันนี้รอดทุกต้น และที่ตนปลูกทั้งกระถางซึ่งสานจากต้นไผ่ สามารถย่อยสลายตามธรรมชาติ.