“ชัยธวัช ตุลาธน” เยือนอุบลฯ ประชุมเลือกตั้งตัวแทนพรรคประจำอำเภอ ชี้คดียุบพรรคอย่าเพิ่งด่วนสรุป เพราะไม่แน่นอน แต่มั่นใจ ต่อให้พรรคถูกยุบเราก็จะไม่ล่มสลาย จะกลับมาเข้มแข็งกว่าเดิม

วันที่ 11 พฤษภาคม 2567 นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี โดยช่วงเช้าเข้าร่วมการประชุมเลือกตั้งตัวแทนพรรคประจำอำเภอ (ตทอ.) ศรีเมืองใหม่ และบรรยายหัวข้อ “ความสำคัญของ ตทอ. ในการสร้างพรรคของมวลชน” กล่าวช่วงหนึ่งว่า พรรคก้าวไกลให้ความสำคัญกับสมาชิกพรรคและตัวแทนพรรคประจำอำเภอ (ตทอ.) แม้กฎหมายพรรคการเมืองไม่ได้บังคับให้มี แต่ก้าวไกลกำหนดกลไกนี้ขึ้นมาเอง ต่างจากพรรคการเมืองอื่นที่ตั้งกลไกหรือโครงสร้างต่างๆ เพียงเพื่อให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

นอกจากนี้ นายชัยธวัช ยังกล่าวอีกว่า สำหรับคดียุบพรรค หลายคนอาจสงสัยว่าในห้วงเวลาแบบนี้ทำไมเรายังมุ่งมั่นทำงานสร้างพรรค ตนขอว่าอย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าพรรคจะถูกยุบแน่นอน แม้ว่าคดียุบพรรคจะเป็นเรื่องการเมืองมากกว่าเรื่องกฎหมาย จะยุบหรือไม่เป็นประเด็นการเมือง เอาเข้าจริงการยุบพรรคการเมืองตามรัฐธรรมนูญนี้ไปยืมมาจากเยอรมัน แต่เยอรมันกำหนดเนื้อหานี้ขึ้นเพื่อป้องกันปัญหากรณีพรรคนาซีในอดีต แต่ของไทยเมื่อเอามาใช้ก็น่าสงสัยว่าบรรดาพรรคการเมืองที่ถูกยุบนั้น กระทำความรุนแรงล้มล้างระบอบประชาธิปไตยอย่างนั้นหรือ ในทางกลับกัน บรรดานายพลทหารที่นิยมชมชอบการออกมาทำรัฐประหารล้มระบอบประชาธิปไตย กลับลอยนวล

“เมื่อเรื่องยุบพรรคเป็นเรื่องการเมือง เราไม่มีทางรู้ว่าพรรคจะถูกยุบหรือไม่ เพราะการเมืองเปลี่ยนทุกวัน สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงทำให้เกิดความไม่แน่นอน วันนี้อยากยุบ วันถัดมาอาจรู้สึกไม่อยากยุบแล้วเพราะกลัวก้าวไกลโตกว่าเดิม แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือความเข้มแข็งของพรรค ถ้าพรรคมีความเข้มแข็งจากฐานราก จากสมาชิกพรรคที่เหนียวแน่น ต่อให้พรรคถูกยุบเราก็จะไม่ล่มสลาย ทั้งยังกลับมาได้อย่างเข้มแข็งและรวดเร็วกว่าเดิม” หัวหน้าพรรคก้าวไกลกล่าว

...

จากนั้นนายชัยธวัชเดินทางไปพบสมาชิกที่วัดบ้านหนองแสง ต.คำไฮใหญ่ อ.ดอนมดแดง พูดคุยหัวข้อ “การกระจายอำนาจเพื่อการพัฒนาโดยท้องถิ่น” 

นายชัยธวัช กล่าวว่า หลายคนอาจคิดว่าถ้ากระจายอำนาจก็จะเสร็จบ้านใหญ่ เสร็จนักการเมืองเก่า แต่ถ้าเราอยากแก้เรื่องนี้ก็ยิ่งต้องกระจายอำนาจ เพราะระบบอุปถัมภ์แบบบ้านใหญ่ที่ยึดท้องถิ่นเอาไว้เป็นสมบัติส่งต่อกันเป็นทอดๆ นั้น ดำรงอยู่ได้เพราะเรากระจายอำนาจไม่มากพอ เช่นเมื่อเงินน้อย อำนาจน้อย แล้วไม่มีงบมาแก้ไขปัญหา จึงกลายเป็นเงื่อนไขให้บรรดาผู้บริหารท้องถิ่นต้องไปวิ่งเต้นเส้นสายของบประมาณ ขอทรัพยากร จากผู้มีอำนาจกลายมาเป็นบุญคุณเป็นสายสัมพันธ์เครือข่ายอุปถัมภ์ต่อเนื่องกัน มีแต่การกระจายอำนาจที่จะยุติวงจรระบบอุปถัมภ์นี้ลง และทำให้เมืองต่างๆ จังหวัดต่างๆ ของไทย เติบโตได้อย่างรวดเร็ว เต็มศักยภาพ และทัดเทียมกับเมืองใหญ่อื่นๆ ในต่างประเทศ และนี่จะเป็นหนทางเดียวในการพัฒนาเมืองให้เติบโตไปในทิศทางที่ตอบสนองต่อความต้องการของพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่